ชาวต่างชาติยังขี่รถแคปซูลเหลืองวิ่งฉิวบนถนนเลียบคลองชลประทาน จนชาวบ้านห่วงเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ ตำรวจ สภ.หางดง เผย เคยตักเตือนไปแล้วหวั่นไม่ปลอดภัย เตรียมนำข้อกฎหมายจราจรมาใช้ห้ามปราม
กรณีมีภาพจากกล้องหน้ารถของประชาชน ที่สัญจรบนถนนเลียบคลองชลประทาน จากสี่แยกต้นเกว๋นมุ่งหน้าสี่แยกพืชสวนโลก อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเวลาประมาณ 17.02 น. ของวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา บันทึกภาพของรถดัดแปลง ลักษณะคล้ายแคปซูล สีเหลือง แล่นอยู่บนถนนด้านซ้าย โดยรถคันดังกล่าวมีการติดสัญญาณไฟกะพริบให้ผู้ที่ขับตามมาสังเกตเห็น
อย่างไรก็ตามผู้ใช้รถใช้ถนนก็ยังเป็นห่วง เพราะรถแคปซูลคันนี้วิ่งอยู่บนถนนใหญ่ ที่มีรถราวิ่งอยู่จำนวนมาก และยังเป็นชั่วโมงเร่งด่วน ขณะที่รถแคปซูลมีความสูงไม่มากนัก ต่ำกว่าระดับสายตาที่รถยนต์ส่วนใหญ่จะมองเห็น โดยเฉพาะรถกระบะ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ จึงเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุทำให้คนขับรถแคปซูลได้รับอันตราย และประชาชนที่ประสบเหตุได้รับความเดือดร้อนตามไปด้วย
เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เจ้าของรถคันนี้เป็นชายชาวต่างชาติสัญชาติอเมริกัน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมักจะขับรถคันนี้ออกมาตามท้องถนนเป็นประจำ ที่ผ่านมาเคยมีประชาชนร้องเรียนเพราะเกรงว่าคนขับรถจะได้รับอันตราย เนื่องจากรถที่นำมาใช้ไม่เหมาะกับสภาพถนนของเมืองไทย เพราะเป็นรถที่ดัดแปลงคล้ายแคปซูล คนขับรถจะต้องเข้าไปนั่งราบอยู่ด้านในตัวรถ และเท้าเหยียดไปด้านหน้าเพื่อปั่น ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นอยู่ในระดับต่ำ
...
ก่อนหน้านี้เมื่อปีต้นปี 2561 มีชาวเชียงใหม่บันทึกภาพรถแคปซูลคันเดียวกันนี้ ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถกระบะ บริเวณใต้สะพานกลับรถทางข้ามรถไฟ ถนนมหิดล อำเภอเมืองเชียงใหม่ และนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊กเพจข่าว CM 108 เชียงใหม่ ซึ่งก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก แม้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจะไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แต่หลายคนก็เป็นห่วงชาวต่างชาติเจ้าของรถแคปซูลสีเหลือง เพราะมักจะขับรถคันนี้ออกไปตามท้องถนนเป็นประจำ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ตำรวจจราจร สภ.หางดง ให้ข้อมูลว่า กรณีรถแคปซูลสีเหลืองนี้เคยเป็นประเด็นโด่งดังในโซเชียล และมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาแล้วหลายครั้ง ทุกครั้งตำรวจก็จะเข้าไปว่ากล่าวตักเตือน ขอความร่วมมือไม่ให้นำรถออกมาขับบนถนนอีก แต่ก็ถูกโต้แย้งว่า รถที่ใช้ไม่ได้ผิดกฎหมายเพราะใช้แรงคนในการปั่น ซึ่ง ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก การนำรถยนต์หรือจักรยานยนต์ที่ไม่ปลอดภัยมาใช้ในทางถือว่ามีความผิด
ขณะที่ ตำรวจได้ตรวจสอบข้อกฎหมายเพิ่มเติมว่า อาจจะเข้าข่ายความผิดในข้อหานำรถที่อาจเกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นมาใช้ในทาง เพื่อปรามไม่ให้ชาวต่างชาติคนดังกล่าวนำรถออกมาขับขี่บนถนนอีก ซึ่งเจ้าตัวก็รับปากและเงียบหายไปพักหนึ่ง กระทั่งล่าสุดทราบว่ามีการนำรถออกมาใช้อีก เบื้องต้นทางตำรวจก็จะเข้าไปพูดคุยขอความร่วมมืออีกครั้ง พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ เพื่อหาแนวทางแก้ไข เพราะกรณีนี้ทางผู้บังคับบัญชามีความเป็นห่วงค่อนข้างมาก หากเกิดอุบัติเหตุอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ได้.