กรณีคลิปฝูงไส้เดือนนับล้านคลานเต็มพื้นที่ อ.อุ้มผาง ชาวบ้าน หวั่นเป็นสัญญาณธรรมชาติกลัวน้ำท่วมอุ้มผางซ้ำปี 64 กูรูไส้เดือน ชี้เป็นการส่งสัญญาณบอกธรรมชาติเปลี่ยนแปลง-อุณหภูมิเปลี่ยนฉับพลัน

จากกรณีนายเศรษฐชาติ แหงมงาม ข้าราชการครู โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก พบเรื่องที่สร้างความตื่นตะลึง ระหว่างทริปไปเที่ยว อ.อุ้มผาง จ.ตาก เพื่อจะไปล่องแพยาง เพื่อเที่ยวชมน้ำตกทีลอซู เมื่อเจอฝูงไส้เดือนนับล้าน คืบคลานอยู่เต็มพื้นดินหน้าบ้านพัก สร้างความสะอิด สะเอียน ขนลุกขนพองสยองเกล้า เพราะเพิ่งเคยเจอฝูงไส้เดือนจำนวนมหาศาล นับล้านตัว แบบนี้ครั้งแรกในชีวิต และที่น่าตกใจไปกว่าอีก คนอุ้มผางบอกเกิดมายังไม่เคยเห็นเยอะขนาดนี้ ขณะเดินไปถ่ายคลิป ยังขนลุก ซู่ไปทั้งทั้งตัว เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวได้ตามไปสัมภาษณ์ นายเศรษฐชาติ ผู้บันทึกคลิป เปิดเผยว่า ปกติแล้วธรรมชาติของไส้เดือนนั้น จะมีการอพยพย้ายถิ่นฐาน เคลื่อนที่ออกจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมไปสู่สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่ไส้เดือนอพยพมาก เนื่องจากไส้เดือนเป็นสัตว์เลือดเย็น ไม่มีตา หู จมูก และฟัน จะใช้ต่อมรับรู้ใต้ผิวหนังในการดูด หายใจ ฟังเสียงและสัมผัสทั้งหมด จึงต้องการแหล่งที่อยู่ที่มีความชื้นและไม่แฉะ แต่เมื่ออากาศหนาว อย่างบนดอยก็จะอพยพลงมาบนพื้นราบ หากถูกน้ำท่วมขัง

...

"อย่างเมื่อวานนี้ มีฝนตกในช่วงบ่ายอย่างหนัก กลางคืนดึกๆ อากาศลดต่ำเย็นมาก ทำให้ไส้เดือนจะอพยพขึ้นมาบนพื้นดินเพื่อหน้าถิ่นที่อยู่ใหม่ เพราะฝนตกหนัก น้ำสภาพอากาศชื้นเฉอะแฉะ มีน้ำขัง และไหลลงไปในรัง หรือ ขุย ของไส้เดือน ทำให้ไส้เดือนต้องพยายามออกมาภายนอกเพื่อหนีน้ำ จนกระทั่งรุ่งเช้า ตัวเองตั้งใจจะออกมาจากที่พักเพื่อชมความงามของสายหมอกยามเช้ากับต้องตกตะลึงครบ ฝูงไส้เดือนจำนวนนับแสนตัวบนพื้นที่ 10 ไร่ สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ เช่นเดียวกับตนเอง" ผู้บันทึกคลิป กล่าว

ด้าน นางเสาคำ ยาคำลือ ชาวบ้าน บ้านใหม่ท่าแพ หมู่ที่ 6 ต.อุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก ชาวบ้านเจ้าของบ้านพัก กล่าวว่า เกิดมาก็เคยเห็นนะแต่ไม่มากมายขนาดนี้ เห็นแล้วตกใจ จากคนโบราณกว่าไว้มันหนีน้ำที่ชื่นแฉะขึ้นมา จากนั้นมันจะตาย ตอนนี้ก็รีบกวาดทำความสะอาดออกจากพื้นที่ และเมื่อคืนนี้ มีฝนตกหนัก ทั้งคืน เช้ามา ก็มีฝูงไส้เดือน จำนวนมาก หมุดออกมาจากรังใต้ดิน จึงคิดว่า อาจจะเป็น ปราการณ์สัญญาณธรรมชาติ ไส้เดือนหนีน้ำ ก็จะต้องเฝ้าระวัง อย่างกใกล้ชิดต่อไป

...

ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ผู้เชี่ยวชาญไส้เดือนอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย อธิบายกรณีนักท่องเที่ยวถ่ายคลิปพบไส้เดือนจำนวนมากที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ว่า เป็นปรากฏการณ์ไส้เดือนอพยพที่เกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ หรือสภาพแวดล้อม ปกติมักจะเห็นในช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูฝนเข้าฤดูหนาว เนื่องจากใต้ดินเริ่มแห้งและขาดน้ำ แต่ไส้เดือนต้องการความชื้นในการช่วยหายใจ เป็นเซ็นเซอร์รับแสงและรับเสียง ก็จะพากันอพยพไปหาที่ที่มีความชื้นมากกว่า หรือ บางกรณีที่ดินมีความชื้นมากจนเกินไป ก็จะอพยพไปหาที่แห้งเพราะไส้เดือนไม่อยู่ในพื้นที่แฉะ ดังนั้นเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ไส้เดือนก็จะพากันอพยพขึ้นมาบนดินเพื่อเคลื่อนที่ไปหาที่อยู่ใหม่ที่เหมาะสม

ผู้เชี่ยวชาญด้านไส้เดือน กล่าวต่อว่า ไส้เดือนอพยพ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่บอกว่า สภาพแวดล้อมกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้ง การเปลี่ยนแปลงที่ปกติและไม่ปกติ ก่อนหน้านี้เคยพบในภาคเหนือและภาคอีสาน แต่ก็ไม่บ่อยนัก โดยส่วนใหญ่พบเป็นการอพยพหนีน้ำท่วม โดยไส้เดือนเป็นสัตว์ที่มีความไวต่อการรับรู้ความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ส่วนการอพยพที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ จะเป็นสัญญาณบอกเหตุน้ำท่วมใหญ่ล่วงหน้าหรือไม่ ถือว่ามีความเป็นไปได้ เพราะไส้เดือนเป็นสัตว์ที่มีความไวต่อธรรมชาติ ฝนตกน้ำท่วม หรือ อากาศเปลี่ยน ไส้เดือนจะรู้ก่อน เมื่อเห็นอะไรที่ไม่เหมาะสมก็จะพยายามเคลื่อนที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามสัญญาณบอกเหตุนี้อาจไม่ใช่น้ำท่วมเพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นกรณีที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญต่อพวกมันก็เป็นได้

...

อาจารย์อานัฐ กล่าวอีกว่า ไส้เดือนไม่เป็นอันตรายต่อคน ในประเทศไทยมีสองกลุ่ม คือ กลุ่มสีแดง และกลุ่มสีเทา โดยตามคลิปล่าสุดนี้เป็นไส้เดือนกลุ่มสีเทา เป็นกลุ่มที่มีความยาวและมีพลัง สามารถมุดลงไปใต้ดินได้กว่า 1 เมตร นิสัยชอบจำศีลในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมเพื่อรักษาความชื้นของผิวหนัง แต่หากดูแล้วจำศีลไม่ไหวก็จะพากันอพยพเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ โดยไส้เดือนอพยพจำนวนมากนี้ หากไม่ถูกนกกินหรือถูกคนเก็บกวาดไปเสียก่อน พวกมันจะลงดินไปหาที่อยู่ใหม่ภายใน 1 – 2 วัน

...

สำหรับ ไส้เดือน เป็นหนึ่งตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เรามักจะเห็นขุย หรือรัง ของไส้เดือนดิน มีลักษณะเก่าและใหม่ปะปนกันไป แต่ละขุยมีความสูงจากพื้นดินแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 1-4 นิ้ว อยู่ทั่วบริเวณ ดินขุยไส้เดือน หรือ มูลของไส้เดือนเป็นดินที่ไส้เดือนขึ้นมาขับถ่ายออก กองไว้รอบๆ รู ตั้งเป็นแท่งทรงกลม ซึ่งจากการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า ดินขุยไส้เดือนอุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิต รวมทั้งสารชีวเคมีที่มีประสิทธิภาพช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี นอกจากนี้ยังมีสารฮอร์โมนสำคัญ เพื่อการเจริญเติบโตของพืชอีกด้วย.