ประชาชนแห่เที่ยวแพเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตง เพื่อลงเล่นน้ำเพื่อคลายร้อน เผยแค่ 2 วัน ยอด นทท.พุ่ง 2,500 คน ขณะที่ อุทยานแห่งชาติศรีลานนาคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงหยุดยาววันสงกรานต์  ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพาครอบครัวเดินทางไปพักผ่อนคลายร้อน เล่นน้ำบนแพภายในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ซึ่งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ตำบลบ้านเป้า อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ หลังปีนี้ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดกิจกรรมป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเป็นบางจุดและให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมเฉพาะการสรงน้ำพระเข้าวัดทำบุญตามประเพณีเท่านั้น ตามมติของ ศบค.

...

จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา ทำให้บรรยากาศภายในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลเรือนแพ ซึ่งมีผู้ประกอบการทั้งหมด 10 เรือนแพ ต่างคึกคักกว่าทุกปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวทั้งเดินทางมาพักผ่อนและเดินทางมาแบบไปเช้า-บ่ายกลับ เพื่อรับประทานอาหารและเล่นน้ำ ซึ่งแต่ละเรือนแพก็จะมีเครื่องเล่น มีเรือให้นักท่องเที่ยวได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน โดยมีทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา และเจ้าหน้าที่ของเรือนแพค่อยดูแลอย่างใกล้ชิดและมีการอำนวยความสะดวกทุกจุด ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัด


นายภูพิชิตช่วย บำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา เปิดเผยว่า สงกรานต์ปีนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะวันที่ 13-14 เมษายนนั้น มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวทั้งหมด 2,500 คน ซึ่งทางอุทยานได้มีการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและให้เจ้าหน้าที่ประจำทุกจุด ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพก่อนลงเรือทุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม ทางอุทยานได้มีการเช็กจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลาเพื่อลดความแออัดด้วย

...

ทางอุทยานแห่งชาติศรีลานนาได้มีกิจกรรมที่หลากหลาย สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ โดย
การพักแรม (เรือนแพ) : 600 คน/ช่วงเวลา, 600 คน/วัน /พักแรม (กางเต็นท์) : 200 คน/ช่วงเวลา, 200 คน/วัน/
ชมวิวทิวทัศน์ (เรือนแพ) : 175 คน/ช่วงเวลา, 700 คน/วัน
ชมวิวทิวทัศน์ (ริมอ่างเก็บน้ำฯ) : 50 คน/ช่วงเวลา, 400 คน/วัน
พายเรือคายัค (บริเวณเรือนแพ) : 86 คน/ช่วงเวลา, 688 คน/วัน
พายเรือคายัค (บริเวณริมอ่างเก็บน้ำฯ) : 50 คน/ช่วงเวลา, 400 คน/วัน
ปั่นจักรยาน (เส้นทางศึกษาธรรมชาติ) : 50 คน/ช่วงเวลา, 400 คน/วัน
และ เดินศึกษาธรรมชาติ (เส้นทางศึกษาธรรมชาติ) : 72 คน/ช่วงเวลา, 576 คน/วัน