"พระครูอมรธรรมทัต" เจ้าอาวาสวัดพันอ้น จ.เชียงใหม่ โร่ขึ้นโรงพักแจ้งความตำรวจ เอาผิด "ชวน และ ส.ส.-ส.ว." ยกเข่ง ผิด ม.157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ฯ อุปถัมภ์คุ้มครอง-ปล่อยกลุ่มคนไม่หวังดีทำลาย-ย่ำยี "พระพุทธศาสนา" 

เมื่อวันที่ 7 ส.ค.64 พระครูอมรธรรมทัต (อมรทัตต์ เหลี่ยมประกายแก้ว) อายุ 64 ปี เจ้าอาวาสวัดพันอ้น จ.เชียงใหม่ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมคิด ภูสด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยขอแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทุกคน โดยกล่าวหาว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เนื่องด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 67 บัญญัติไว้ว่า รัฐพึ่งอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา อันเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน รัฐพึงส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาท เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจและปัญญา และต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา ไม่ว่าในรูปแบบใดและพึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วม ในการดำเนินมาตรการหรือกลไกดังกล่าวด้วย แต่เนื่องจากกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 67 ฝ่ายนิติบัญญัติยังไม่มีการตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญออกมาบังคับใช้ ทั้งที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา เข้าทำงานผ่านมาแล้ว 2 ปีกว่า กฎหมายอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ยังไม่ปรากฏเห็นเป็นรูปธรรม ปล่อยให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนาทำลาย และย่ำยีพระพุทธศาสนาในรูปแบบต่างๆ ถือได้ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมด เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ได้รับโทษตามกฎหมาย เหตุเกิดที่รัฐสภาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานประชุมของ ส.ส. และ ส.ว. ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ.2562 จนถึงปัจจุบัน 

...

โดย พ.ต.ท.สมคิด ภูสด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับเรื่องกล่าวทุกข์ไว้ และจะนัดสอบปากคำพระครูอมรธรรมทัตในวันที่ 9 ส.ค.นี้ เพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอนต่อไป และเปิดเผยว่า เมื่อทางพระครูอมรธรรมทัตมาแจ้งข้อกล่าวหา ตนก็ต้องรับแจ้งและจะนัดมาสอบปากคำ เมื่อทราบว่าเหตุเกิดในพื้นที่ใด ก็จะส่งเรื่องให้ไปดำเนินการในพื้นที่นั้นต่อไป ก็คงไม่มีอะไรซับซ้อนในเรื่องนี้ 

ด้าน พระครูอมรธรรมทัต เปิดเผยถึงเหตุแจ้งความว่า ผ่านมาแล้ว 2 ปีกว่าแล้ว กฎหมายอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ยังไม่ปรากฏเห็นเป็นรูปธรรม ปล่อยให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนาทำลายและย่ำยีพระพุทธศาสนาในรูปแบบต่างๆ ถือได้ว่า ส.ส. และ ส.ว.ทั้งหมด เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ได้รับโทษตามกฎหมาย ตนในฐานะประธานศูนย์เผยแผ่ธรรมจังหวัดเชียงใหม่ จึงต้องเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ผลจะออกมาอย่างไรนั้น ตนก็จะติดตามในเรื่องนี้ต่อไป.