แม่ค้าขายข้าวโพดต้มวัย 39 ปี ไม่ทน ขึ้นโรงพักวังหงส์ แจ้งความถูกวิญญาณตามรังควาน พยายามเข้าสิงร่าง เผยอาการหนักจนทนไม่ไหว เจ็บอก เจ็บหัวใจ เจ็บท้อง กินยาหรือไปหาหมอที่โรงพยาบาล ก็ไม่หาย ไม่ดีขึ้น กลัวว่าหากปล่อยไว้ จะเป็นอะไรมากกว่านี้
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ที่ สภ.วังหงส์ จ.แพร่ มี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ชาว ต.แม่ยม อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ซึ่งแม่ค้าข้าวโพดต้ม ทนไม่ไหว เดินทางจากบ้านเพื่อมาแจ้งความขอความช่วยเหลือที่ สภ.วังหงส์ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ หลังถูกวิญญาณซึ่งไม่ทราบว่ามาจากไหนเข้าสิงร่าง เหมือนจะพยายามให้ตนเป็นร่างทรง มีอาการตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา จนตอนนี้ทนไม่ไหวจึงมาขอความช่วยเหลือแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้
น.ส.เอ (นามสมมติ) เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้านั้นตนเองเป็นแม่ค้าขายข้าวโพดต้มที่ตลาดสำเภา ต.เหมืองหม้อ และเคยทำพิธีครอบครู เพื่อเสริมดวงและให้ค้าขายดี แต่หลังจากนั้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีอาการไม่ค่อยดี เมื่อรู้สึกว่า มีวิญญาณพยายามจะมาเข้าร่าง เพื่อให้เป็นร่างทรง หรือเป็นสื่อวิญญาณ โดยไม่ทราบว่าวิญญาณนี้เป็นใคร เป็นหญิงหรือชาย ในความรู้สึกตัวเองก็ขัดขืน ไม่ยอมให้วิญญาณเข้าร่างได้ จนเหมือนเป็นการทะเลาะกันกับวิญญาณ เพราะเธอไม่ยอมเป็นสื่อ และได้ไปหาหมอเมืองเพื่อรดน้ำมนต์ อาการก็หายไป
จากนั้นเมื่อขึ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เกิดอาการขึ้นมาอีก คราวนี้หนักกว่าเดิม หากอ่อนแอ เสียงก็จะเริ่มเปลี่ยน แต่เมื่อตั้งสติได้ ก็ตะกลับคืนมา จนพ่อและลูกสาว ไม่อยากให้ไปไหน แต่อาการกลับหนักขึ้น เพราะตอนนี้เหมือนร่างกายถูกวิญญาณทำร้าย เจ็บหัวใจ เจ็บท้อง บางครั้งถึงขนาด ทำให้ตามองไม่เห็น บางครั้งหนักถึงขนาดที่ทำให้ล้มทั้งยืน ซึ่งอาการเหล่านี้ เกิดบ่อยครั้งขึ้นทุกวัน จนถึงขั้นทนไม่ไหว ในวันนี้จึงได้เดินทาง มาที่ สภ.วังหงส์ เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะไม่สามารถบอกใครได้ ถ้าไปเล่าให้ชาวบ้านฟัง หรือปรับทุกข์จากบุคคลอื่น กลัวคนจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคจิต เขาจะหาว่าเป็นบ้า
...
“ไม่ไหวแล้ว ทั้งเจ็บอก เจ็บหัวใจ เจ็บท้อง เหมือนถูกบีบตับ บีบไต หัวใจ กินยาหรือไปหาหมอที่โรงพยาบาล ก็ไม่หาย ไม่ดีขึ้น กลัวว่าหากปล่อยไว้ อาจจะเป็นอะไรมากกว่านี้ จึงได้มาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ มันเหลืออดแล้วจริงๆ”
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้สื่อข่าวได้แนะนำว่า เรื่องนี้ไม่สามารถมาแจ้งความได้ เพราะเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล จึงแนะนำให้ไปหาพระที่วัด เพื่อขอรดน้ำมนต์ หรือไม่ก็ไปหาอาจารย์ที่มีวิชา ช่วยจะได้ปลอดภัยจากสิ่งอัปมงคลทั้งปวง แต่ระวังถูกเจ้าพ่อหลอกเอาทรัพย์สิน และให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล เพื่อปรึกษาว่าจะมีทางใดรักษาอีกทางด้วย
จากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวได้พาลูกสาวขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เพื่อไปอาบน้ำมนต์ต่อไป.