โควิด-19 ระลอก 3 กระทบต่อตลาดทุ่งเกวียนหนักสุดเท่าที่เคยเปิดตลาดมา เพราะแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวมาแวะซื้อสินค้า บางเจ้าเปิดมาครึ่งวันขายได้ 40 บาท ส่งผลให้ร้านค้ากว่าครึ่งต้องปิดร้านชั่วคราว
เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2564 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ของจังหวัดลำปาง ระลอกเดือนเมษายน 2564 ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.-1 พ.ค. 2564 เวลา 09.00 น. มียอดผู้ป่วยสะสม 203 ราย กระจายอยู่ในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ ยกเว้นอำเภอสบปราบที่ไม่พบมีผู้ติดเชื้อแต่อย่างได โดยรักษาหายแล้ว 115 ราย อยู่ระหว่างรักษา 88 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่มีเหตุการณ์มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จังหวัดลำปาง ครั้งนี้ เป็นรอบที่ 3 แล้ว ซึ่งได้ส่งผลกระทบในหลายๆ ด้านตามมา ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา โดยเฉพาะ ที่ตลาดทุ่งเกวียน ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นตลาดขายของฝากที่ขึ้นชื่อระดับประเทศ ที่แต่ละวันหรือในช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาเที่ยวชมและซื้อของฝาก กันจำนวนมาทำให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ในครั้งนี้ ที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัวโควิด-19 ในพื้นที่ จังหวัดลำปาง เป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2564 เป็นต้นมา
...
ทำให้บรรยากาศ ภายในตลาดแห่งนี้ เริ่มไม่ค่อยมีประชาชนนักท่องเที่ยวเข้ามาแวะซื้อของฝากอย่างที่เคยเป็นมา ทำให้บรรยากาศภายในตลาดในวันที่ 30 เมษายน 2564 เงียบเหงา นานๆ จะมีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามา 3-4 คนมาเลือกซื้อ ของฝากและก็ขึ้นรถกลับทันที จะไม่แวะเดินเที่ยวชมสินค้านานๆ เหมือนแต่ก่อน และร้านค้าในตลาด มีหลายร้านค้าที่ปิดตัวลงไปชั่วคราวแล้ว โดยร้านค้าต่างปิดไปเกือบครึ่งตลาด เหลือเพียง พ่อค้า แม่ค้า ที่อดทน ต่อสู้เพื่อให้ผ่านสถานการณ์ครั้งนี้ไปให้ได้
แม่ค้าภายในตลาดต่างเหล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่เปิดและขายของในตลาดแห่งนี้ มานานหลายสิบปี และนี่เพิ่งเป็นครั้งแรกที่ ตลาดแห่งนี้เงียบเหงา ซบเซา แทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวมาซื้อสินค้า ซึ่งเป็นแบบนี้มานานเกือบ 2 อาทิตย์ แล้ว เพราะผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งร้านที่ยังเปิดขายอยู่ ก็ต้องอดทนขายของกันต่อไป ปรับเปลี่ยนการขาย เช่น ลดราคาสินค้า ให้กลับมาขายเท่าทุน หรือแทบขาดทุน มีการลดแรก แจก แถม เมื่อมาซื้อสินค้า และปรับเปลี่ยนไปขายสินค้าออนไลน์ ทำให้ยังพออยู่ได้ในขณะนี้ ส่วนที่ ปรับรูปแบบไม่ทันก็ต้อง ยอมขาดทุนและปิดร้านค้าไปชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
ทางพ่อค้าแม่ภายในตลาดแห่งนี้ ต่างวิงวอนผู้ที่สัญจรผ่านไปมาหรือประชาชนนักท่องเที่ยวทั่วไป ยังสามารถเข้ามาแวะเที่ยวชมเลือกซื้อของฝากได้ตามปกติ แม้ว่าจะมีร้านค้าปิดไปบ้างก็ตาม เพื่อช่วยอุดหนุนพ่อค้าไม่ค้าที่ยังปักหลักสู้ขายของในตลาดแห่งนี้ ให้มีกำลังใจในการค้าขายต่อไป เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่เหลือนี้ ไม่สามารถที่จะไปประกอบอาชีพอย่างอื่น.