สาวไทยวัย 17 ป่วยโควิดที่แม่สอดอาการหนักปอดติดเชื้อ "พ่อเมือง" สั่งยกระดับคุมเข้มศูนย์อพยพทั้ง 3 แห่งกว่า 5 หมื่นรายต้องสวมหน้ากากอนามัย ขณะที่ จ.ตาก กกล.นเรศวร ทหารพราน และฉก.ร.4 กำชับทหารลาดตระเวนทั้งทางบกทางน้ำ พื้นที่ล่อแหลม และเสริมลวดหนามทั่วแนวชายแดน
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.63 กรณีจังหวัดตากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มจำนวน 2 ราย รายแรกเป็นคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง หลบซ่อนตัวอยู่ภายในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบ บ้านอุ้มเปี้ยม อำเภอพบพระ จังหวัดตาก และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด จนมีการล็อกดาวน์ศูนย์อพยพบ้านอุ้มเปี้ยม เขตอำเภอพบพระ พร้อมส่งทีมแพทย์สาธารณสุขจากหลายชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสารคัดหลั่งผู้หนีภัยสงครามจำนวนหลายร้อยคน ซึ่งผลการตรวจขณะนี้ยังไม่พบผู้หนีภัยสงครามจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยมติดเชื้อเพิ่ม และสถานการณ์ภาพรวมที่ศูนย์อพยพบ้านอุ้มเปี้ยมดีขึ้นตามลำดับและอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ได้ทุกโซน
รายที่ 2 เป็นสาวไทยวัย 17 ปี ลักลอบข้ามชายแดนจากฝั่งเมียนมาเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนและถูกส่งตัวเข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลแม่สอด รายนี้มีอาการหนักเนื่องจากพบว่าโรคได้เข้าไปทำลายปอดบางส่วน เพราะติดเชื้อมานาน เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเมียนมา 2 แห่งแต่อาการไม่ดีขึ้นจนต้องหลบมารักษาในเมืองไทย ขณะนี้ต้องอยู่ในห้องความดันลบ ส่วนคนขับรถที่กำลังตามหาล่าสุดได้เข้าพบเจ้าหน้าที่และถูกนำตัวเข้า local quarantine แล้ว
...
ล่าสุด นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจคัดกรองบุคคลทุกคนที่เข้าออกภายในพื้นที่ศูนย์อพยพทั้งสามศูนย์ คือศูนย์อพยพบ้านอุ้มเปี้ยม เขตอำเภอพบพระ ศูนย์อพยพบ้านนุโพ เขตอำเภออุ้มผาง และศูนย์อพยพบ้านแม่หละ เขตอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งศูนย์อพยพผู้หนีภัยการสู้รบทั้ง 3 ศูนย์มียอดผู้หนีภัยการสู้รบพักอาศัยอยู่รวมกันกว่า 5 หมื่นคน ซึ่งมาตรการล่าสุดผู้อพยพทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยโดยเคร่งครัดทั้ง 3 ศูนย์ โดยเจ้าหน้าที่ได้ระดมแจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือฆ่าเชื้อโรคไปอย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่ชายแดนแล้ว ตลอดรวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อพยพทั้งสามศูนย์อพยพและชาวบ้านในพื้นที่ใกล้ศูนย์อพยพทั้งสามศูนย์ก็ต้องปฏิบัติตนในมาตรการการป้องกันตนเองเช่นเดียวกับผู้อพยพด้วย
ส่วนปัญหาการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก ล่าสุดมาจากคนต่างด้าวลักลอบข้ามแนวชายแดนในจุดช่องทางธรรมชาติโดยผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 กองกำลังนเรศวร ทหารพรานที่ 35 ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ 5 อำเภอแนวชายแดนจังหวัดตาก เพิ่มการตรวจลาดตระเวนทั้งทางบกและทางน้ำในพื้นที่ล่อแหลมเพิ่มมากขึ้นกว่าสองเท่าตัวทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งขณะนี้ประสบปัญหาแม่น้ำเมยที่กั้นแนวพรมแดนไทย-เมียนมา ระดับน้ำเมยแห้งขอดลงอย่างต่อเนื่องจนทำให้คนต่างด้าวสามารถลักลอบข้ามแนวชายแดนได้ง่ายกว่าเดิม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกอำเภอแนวชายแดนจังหวัดตาก ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าเสริมแนวรั้วลวดหนามและเสริมกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครภาคประชาชนเข้าไปในทุกจุดล่อแหลมทั่วพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดตากแล้ว.