ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน เตรียมพิจารณาสั่งปิดด่านการค้าชายแดนไทย-เมียนมา 15 วัน หลังโควิด-19 ระบาดหนัก โดยจะห้ามคน ยานพาหนะ สินค้าทุกชนิด เข้าออกโดยเด็ดขาด รวมถึงศูนย์ผู้อพยพทุกแห่งในแม่ฮ่องสอน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ส.ค. 63 นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย พันเอก โสภณ นันทสุวรรณ รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร นายแพทย์ศุภชัย บุญอำพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ประชุมพิจารณาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังมีการระบาดระลอกที่ 2 ในรัฐยะไข่ และอีกหลายรัฐ ของประเทศเมียนมา โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีแนวเขตติดต่อกับประเทศเมียนมาตลอดแนวชายแดน จึงจำเป็นต้องเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยเพื่อเตรียมพร้อมเฝ้าระวังป้องกันอย่างเข้มงวด
ภายหลังการประชุม นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มีคำสั่งปิดชายแดนช่องทางจุดผ่อนปรนทั้ง 5 แห่งไปแล้วในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และได้ผ่อนปรนให้มีการส่งออกเฉพาะสินค้าชายแดน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการเมื่อวันที่ 1 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ได้แก่ จุดผ่อนปรนการค้าช่องทางห้วยต้นนุ่น หมู่ที่ 4 ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม, จุดผ่อนปรนการค้าช่องทางบ้านแม่สามแลบ หมู่ที่ 1 ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย, และจุดผ่อนปรนการค้าช่องทางบ้านห้วยผึ้ง หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยผา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน
...
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวต่อว่า แต่ขณะนี้สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดหนักในประเทศเมียนมา ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีมติเตรียมปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนทุกช่องทางเป็นเวลา 15 วัน นับจากวันที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.63 เป็นต้นไปโดยห้ามคน ยานพาหนะ สินค้าทุกชนิด เข้าออกโดยเด็ดขาด รวมทั้งศูนย์อพยพทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
นายสุวพงศ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนผู้ป่วยที่อยู่ภายในศูนย์พักพิง หรือศูนย์อพยพสามารถเข้ามาตรวจรักษาในโรงพยาบาลในตัวเมืองหรือโรงพยาบาลอำเภอได้ตามปกติ แต่ถ้าหากพบมีเชื้อไวรัสก็ให้อยู่ภายในศูนย์อพยพ ยกเว้นหากมีผู้ป่วยรุนแรงก็สามารถเข้ามารักษาในตัวเมืองได้ ทุกช่องทางเข้าออกจะมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด.