ผอ.อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ คาดสภาพอากาศเชียงใหม่ในสัปดาห์หน้ามีแนวโน้มดีขึ้น จากปัจจัยของความร้อนและกระแสลม ขณะที่ ผู้ว่าฯ เร่ง จนท.เข้าดับไฟป่าในพื้นที่ 5 อำเภอ เพื่อลดหมอกควัน

นายธนาวุฒิ ปัญจพรอุดมลาภ ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า สภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงนี้ อากาศค่อนข้างนิ่ง ทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กสะสมอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ปัจจัยสำคัญเป็นเพราะฝุ่นควันที่พัดมาของประเทศเพื่อนบ้านที่ค่อนข้างเยอะ และอีกปัจจัยที่สำคัญคือสภาพพื้นที่เชียงใหม่เป็นหุบเขา ทำให้การยกตัวของอากาศโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน และในช่วงเช้าเกิดขึ้นได้ยาก พอตอนสายๆ จะยกตัวได้ดีขึ้น เนื่องจากเริ่มมีความร้อนเข้ามา จะสังเกตช่วงบ่ายจะเริ่มมีเมฆก่อตัว ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีว่าสภาพอากาศจะดีขึ้น

ที่สำคัญอีกส่วนคือ ลม ที่จะเป็นระดับ ไม่เกิน 1 กิโลเมตร และลมระดับ 3 – 4 กิโลเมตร ถ้าลมระดับล่างๆ ประมาณ 1 กิโลเมตร จะเป็นจากทางใต้ จะนำเอาความชื้นขึ้นมา ถ้าเป็นลมแรงจะส่งผลดีต่อพื้นที่ ซึ่งทางทิศใต้การเผาก็เริ่มหายไปแล้ว ส่วนลมชั้นบนเป็นอุปสรรคสำคัญของตอนนี้ เพราะเป็นลมที่มาจากทางทิศตะวันตก ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านเราก็ยังมีการเผาที่ค่อนข้างจะเยอะมากๆ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่พื้นที่เชียงใหม่ได้รับฝุ่นควัน ในส่วนของฝนในช่วงนี้จะค่อยๆ มีแนวโน้มดีขึ้น สัปดาห์หน้าจะมีโอกาสดีขึ้นกว่าสัปดาห์นี้ และในช่วงปลายเดือนก็จะมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น แต่ยังต้องรอต่อไปอีกหน่อย เนื่องจากยังไม่เข้าสู่หน้าฝน ถ้ามีเข้ามาก็จะเป็นกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น

...

ขณะที่ วานนี้ (8 เม.ย.63) ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบน ได้ขึ้นบินสำรวจพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และพะเยา แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ สภาพอากาศที่ความชื้นยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อย และความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมภาคเหนือตอนบนอยู่ ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมครบทุกด้าน โดยจะมีการประชุมประเมินสภาพอากาศทุกวัน คาดว่าจะสามารถพร้อมขึ้นบินในสัปดาห์หน้า เพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันในภาคเหนืออย่างเร่งด่วน

จากรายงานจุดความร้อน หรือฮอตสปอต ของศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ตามข้อมูล GISTDA ในช่วงเช้าวันนี้ พบจุด Hotspot จำนวน 114 จุด อยู่ในพื้นที่เกษตรในป่าอนุรักษ์ 8 จุด พื้นที่รับรองสิทธิ์ในพื้นที่ คทช. 2 จุด ซึ่งมีแนวโน้มลดลง นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมติดตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล โดยมี นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ผู้ว่าฯเชียงใหม่ สั่งการเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดับไฟในพื้นที่ 5 อำเภอ ที่เกิดจุดฮอตสปอตสูงที่สุดของวันนี้

ในวันนี้พบจุดฮอตสปอต เกิดขึ้นสูงสุดที่อำเภอแม่แตง จำนวน 24 จุด โดยสูงอย่างต่อเนื่อง นายเจริญฤทธิ์ สงวนศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ขอกำลังสนับสนุนจากคณะสมาชิกพญาอินทรี และเครือข่ายอาสาสมัครหน่วยพญาอินทรีเข้าไปร่วมการดับไฟ กับเจ้าหน้าที่ดับไฟของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่อำเภอแม่แตงโดยด่วน โดยได้นำอุปกรณ์ในการดับเพลิง ทั้งเครื่องสูบน้ำ 55 แรงม้า และสายดับเพลิง ที่สามารถต่อยาวถึง 2,500 เมตร มาช่วยสนับสนุนภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ ในส่วนของพื้นที่อื่นๆ หากต้องการร้องขออากาศยานในการช่วยดับไฟ สามารถร้องขอมายังศูนย์บัญชาการฯ จังหวัดเชียงใหม่ได้ทันที

...

ด้าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้แจ้งทุกอำเภอ กรณีพื้นที่ใดเป็นพื้นที่สูงชัน ห่างไกล ซึ่งกำลังภาคพื้นไม่สามารถเข้าถึง และยากต่อการเข้าไประงับเหตุได้ จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์แนวทางในการเผาชน ขอให้แจ้งมายังศูนย์บัญชาการฯ จังหวัดเชียงใหม่ โดยต้องมีเหตุผลประกอบการทำแนวไฟเผาชนที่สอดคล้องกับพื้นที่ เนื่องจากการทำแนวทางในการเผาชนอาจทำให้จุดความร้อนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นให้แจ้งมายังศูนย์บัญชาการฯ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประกอบการพิจารณาความเหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ นอกจากนี้ ยังให้หน่วยการบิน บูรณาการร่วมกับกรมป่าไม้ ในการบินสำรวจสังเกตการณ์ในพื้นที่ที่เกิดการไหม้ซ้ำซากอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรากฏภาพในการปฏิบัติงานที่ชัดเจน รวมถึงสนับสนุนภารกิจปฏิบัติการทิ้งน้ำร่วมกับกำลังภาคพื้น ในการดับไฟตอที่เหลือให้สนิท ก่อนถอนกำลังออกมา

...

นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ ปภ.จังหวัดเชียงใหม่ แจ้งไปยังทุกอำเภอสำรวจพื้นที่ที่ต้องการจะบริหารจัดการเชื้อเพลิง ทั้งในพื้นที่การเกษตร พื้นที่ชุมชน รวมถึงพื้นที่ในเขตอุทยานป่าไม้ และดำเนินการรวบรวมข้อมูล มาประชุมร่วมกับทางจังหวัดภายในกลางเดือนนี้ เพื่อวางแผนในการบริหารพื้นที่ในการจัดการเชื้อเพลิง รวมถึงวางกำลังเพื่อป้องกันในการเกิดไฟลุกลามไปยังพื้นที่อื่น.