สสจ.พิษณุโลก ชื่นชมครอบครัวตัวอย่าง รับผิดชอบต่อสังคม กักตัวนักเรียนแลกเปลี่ยนกลับจากประเทศเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 พ่อลงทุนดัดแปลงรถคันที่ไปรับ กั้นห้องแยก ต่อท่อแอร์ใหม่ ขับรวดเดียวจากสนามบินถึงบ้าน
เวลา 09.00 น. วันที่ 13 มี.ค. นพ.ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ สสจ.พิษณุโลก ร่วมกับบุคลากร รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก เข้าเยี่ยมให้กำลังใจนักเรียนแลกเปลี่ยน ซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 และสมัครใจโดยเตรียมความพร้อมเข้ารับการกักกันตนเองที่บ้าน (Home Quarantine) 14 วัน อย่างดีเยี่ยม
ทั้งนี้ ก่อนที่นักเรียนแลกเปลี่ยนรายนี้ จะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ทางผู้ปกครองได้ประสานมาที่สำนักงานสาธารณสุข จ.พิษณุโลก เพื่อปรึกษาวิธีการจัดการสิ่งแวดล้อมและวิธีปฏิบัติตัวที่เหมาะสมในการกักกันตนเอง พร้อมถ่ายภาพสถานที่ที่จะให้บุตรไปอยู่ที่บ้านหลังนี้ ว่า จะจัดสถานที่แบบนี้ ทางสาธารณสุขเห็นว่าเป็นอย่างไร และมีข้อแนะนำเพิ่มเติมหรือไม่ พร้อมถ่ายภาพรถยนต์ที่มีการดัดแปลงแยกห้องโดยสารสำหรับไปรับลูกกลับบ้าน เพื่อป้องกันการติดเชื้อระหว่างคนขับและผู้โดยสาร รวมทั้งเตรียมหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ไว้ในรถอย่างเพียงพอ
...
นพ.ปิยะ กล่าวต่อว่า ตนเห็นการดัดแปลงรถยนต์เช่นนี้ ถือว่าเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมจริงๆ มีการกั้นระหว่างคนขับกับผู้โดยสารอย่างดี พร้อมทำท่อแยกส่งแอร์เข้าไปในห้องโดยสารหรือที่นั่งตอนหลังของรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ก็ไม่ถือว่าป้องกันการปนเปื้อน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ถือว่าเป็นความพยายาม และคนขับมีการป้องกันตัวโดยการใส่หน้ากากอนามัย อย่างน้อยก็ทำให้เกิดความมั่นใจที่มากยิ่งขึ้น โดยปกติคนที่เข้ามาในประเทศไทยนั้นมีจำนวนมากที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ และระหว่างเดินทาง นักเรียนแลกเปลี่ยนคนดังกล่าวไม่แวะร้านค้า ร้านอาหารหรือแหล่งชุมชนเลย
“เฉพาะเคสนี้ เด็กต้องกักตัวเองอยู่ในบ้าน 14 วัน หลังจากเดินทางกลับมาถึงตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับน้องแล้ว น้องเค้ายินดีและเต็มใจและคิดว่านี่คือหน้าที่ที่จะต้องทำต่อสังคม น้องรู้สึกยินดีที่ได้รับความร่วมมือและกำลังใจจากครอบครัว โดยเฉพาะคุณพ่อที่ดูแลเป็นอย่างดี นอกจากการจัดที่พักแยกเฉพาะแล้ว ทางผู้ปกครองยังจัดอุปกรณ์เครื่องใช้ เสื้อผ้าและอาหารสำหรับผู้รับการกักกันอย่างเป็นสัดส่วนเฉพาะ รวมทั้งจัดให้มี wifi ไว้ใช้ติดต่อ สื่อสาร และการสันทนาการ ครอบครัวคือคุณพ่อและเด็กซึ่งเป็นผู้สมัครใจกักกันตนเองรายนี้ มีความเข้าใจ ใส่ใจ มีวินัยและให้ความสำคัญในการรับผิดชอบต่อสังคมอย่างดีเยี่ยม และเป็นครอบครัวตัวอย่างที่ให้การปฏิบัติตนภายใต้กรอบความคิดอย่างดีเยี่ยม”
นพ.ปิยะ กล่าวต่อว่า การดูแลเราเริ่มตั้งแต่น้องกลับมาถึง โดยมีการวัดไข้และสอบถามอาการข้างเคียงทันที พร้อมมอบปรอทวัดไข้ให้ เพื่อจะได้ตรวจตนเองวันละครั้ง นอกเหนือจากการส่งเจ้าหน้าที่ รพ.สต.รวมทั้ง อสม.ไปตรวจเยี่ยมทุกวันด้วย เด็กไม่รู้สึกเครียด เพราะมีความเข้าใจและยินดี ดังนั้นสังคมควรมีความเข้าใจว่า ผู้เดินทางจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค ยังไม่มีเชื้อในร่างกาย ควรให้ความเมตตา ใส่ใจในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ในส่วนของ จ.พิษณุโลก มีผู้ที่กักกันอย่างเข้มข้นที่บ้านจำนวน 11 คน เนื่องจากเดินทางกลับมาจากต่างประเทศที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหลังวันที่ 8 มี.ค.2563 และมีเจ้าหน้าที่ไปติดตามอาการ วัดไข้ทุกวัน