พ่อแม่ยังทำใจไม่ได้ ร่ำไห้รับศพนักศึกษาสาว ปี 1 วัย 19 กินยาขับเลือดจนแท้งลูก ตกเลือดตายคาห้องน้ำหอพักที่เชียงใหม่ ยืนยันไม่รู้ว่าลูกท้อง รู้แต่ว่ามีแฟน คบหากันตั้งแต่อยู่ ม.6 และผู้ชายก็ตามมาอยู่ด้วย 

จากเหตุสลดภายในหอพักแห่งหนึ่ง ที่ จ.เชียงใหม่ ร.ต.อ.อภิสิทธิ์ สุนันต๊ะ รอง สว.สอบสวน สภ.ช้างเผือก เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วยแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบผู้เสียชีวิตภายในหอพักฯ พบศพหญิงสาวอายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปี 1 สถาบันแห่งหนึ่ง นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำ ใกล้กันมีศพทารกไม่ทราบเพศนอนอยู่ โดยเจ้าหน้าที่พบยาขับประจำเดือนแผนโบราณ 1 ขวด พร้อมกล่อง ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะ และซองยาเม็ดอีกจำนวนหนึ่ง

จากการตรวจสอบของแพทย์นิติเวชในเบื้องต้นคาดว่า ผู้ตายน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12-24 ชั่วโมง และสันนิษฐานว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกินยาขับเลือดดังกล่าวเข้าไปด้วย จนเกิดการแท้งลูกและตกเลือดเสียชีวิตในที่สุด

ส่วนภายในห้องน้ำที่เกิดเหตุ พบกองเลือดทั้งบนพื้นและชักโครก นอกจากนี้บริเวณนอกห้องน้ำยังพบว่ามีกะละมังใส่น้ำวางที่มีคราบเลือดปะปนอยู่ คาดว่าผู้ตายน่าจะคลอดลูกออกมา จากนั้นนำลูกไปล้างในอ่าง เพราะว่าศพของทารกนั้นสะอาดไม่มีเลือด

สอบถามเพื่อนร่วมชั้นเรียนของผู้ตายได้ให้ข้อมูลว่า ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าผู้ตายนั้นท้อง แต่ก็มีการพยายามสังเกตและถามผู้ตาย ซึ่งได้ตอบกลับมาว่าแค่อ้วนขึ้นเท่านั้น อีกทั้งช่วงหลังพฤติกรรมของผู้ตายจะใส่เสื้อกันหนาวไปไหนมาไหนตลอด รวมถึงไปเรียน

"วันนี้พอเลิกเรียนได้แวะมาหาผู้ตาย และได้เคาะประตูเรียก แต่เรียกยังไงก็ไม่มีการตอบรับ จึงติดต่อไปยังเจ้าของหอพัก เดินไปดูที่หลังห้องพักพบประตูห้องน้ำแง้มเปิดอยู่และมีเลือด จึงได้งัดประตูหน้าเข้าไป ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว"

...

ต่อมา วันที่ 13 ก.พ. ช่วงก่อนเที่ยง ที่แผนกรักษาศพโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้มีพ่อและแม่ รวมถึงญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตเดินทางมาติดต่อขอรับศพนักศึกษาสาววัย 19 ปี ที่เสียชีวิตจากการแท้งลูก เพื่อนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า พ่อและแม่ต่างร้องไห้เพราะยังไม่สามารถทำใจได้กับการจากไปของลูกในวัยเพียง 19 ปี

แม่ของผู้เสียชีวิตได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้มาก่อนว่าลูกสาวตั้งครรภ์ รู้เพียงแต่ว่าลูกสาวมีแฟน ซึ่งลูกได้คบกับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ตอนจบ ม.6 จากนั้นลูกสาวได้เข้ามาเรียนในตัวเมือง ผู้ชายคนนั้นก็ตามมา ซึ่งทางญาติก็ติดใจว่าทำไมผู้ชายถึงบอกว่า ไม่รู้ว่าลูกสาวตนท้อง และอยากจะให้มารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไปด้วย.