เชียงใหม่แชมป์คนแม่ฮ่องสอนเริ่มฮือต่อต้านเข้มจับ ‘เผาป่า’

หมอกควันภาคเหนือยังไม่ลด ผลพวงเกิดจากชาวบ้านเผาป่า อธิบดีกรมป่าไม้ลงพื้นที่แก้ปัญหาที่ จ.แม่ฮ่องสอนพบชาวบ้านเกิดแรงต้านไม่พอใจใช้กฎหมายเข้ม ส่วนที่เชียงใหม่พบหลักฐานก้านธูปผูกติดกับไฟแช็กและขวดน้ำมันเตรียมเผาป่า พะเยาไฟป่าไหม้กุฏิลุกลามไปกว่า 50 ไร่ อุบลราชธานีและนครพนม พายุลูกเห็บถล่มบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง ขณะที่กรมอุตุฯเตือนหลายพื้นที่เกิดพายุฤดูร้อน

ฝุ่นควันทางภาคเหนือยังไม่ลด เหตุเพราะชาวบ้านเกิดแรงต้าน เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ จ.เชียงราย บริเวณพื้นที่ตะเข็บชายแดนไทย-สปป.ลาว เกิดไฟป่าขึ้นหลายจุดบนแนวสันดอย จุดที่มีความรุนแรงมากที่สุดอยู่บริเวณบ้านห้วยหาน และบ้านห้วยคุ ต.ปอ อ.เวียงแก่น ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วเพราะกระแสลมแรง คาดเกิดจากการปะทุขึ้นใหม่ของไฟเก่าที่ดับไม่สนิท เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูชี้ฟ้า ร่วมกับทหารพรานสังกัดกรมทหารพรานที่ 31 และอาสาป้องกันไฟป่าของพื้นที่ ต.ปอ อ.เวียงแก่น ระดมกำลังเข้าไปดับไฟสามารถควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัด จากข้อมูลดาวเทียมตรวจพบจุดความร้อนทั้งสิ้นจำนวน 95 จุด สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของ 9 จังหวัดภาคเหนือ รองจาก จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน ที่พบจุดความร้อน 131 จุด และ 128 จุด ตามลำดับ

จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านลักลอบเผาป่าอย่างต่อเนื่องมีพื้นที่เสียหายไปแล้วกว่า 2 แสนไร่ และหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้านลอยเข้ามาสะสมในตัวเมืองเชียงใหม่ ด้านนายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เกิดไฟป่าที่ดอยหลวงเชียงดาวติดต่อกันมา 5 วัน ไฟยังไม่ดับ เนื่องจากจุดไฟไหม้อยู่บนสันเขา และเป็นหน้าผา ยากแก่การเข้าไปดับไฟ ขณะที่เจ้าหน้าที่เสือไฟเกือบ 100 นาย เดินเข้าไปทำแนวกันไฟโดยรอบ เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามไปถึงยอดดอยหลวง สามารถควบคุมไฟไว้ในวงจำกัดมีพื้นที่เสียหายกว่า 4 พันไร่ สาเหตุมาจากชาวบ้านลักลอบจุดไฟเผาป่าในช่วงกลางคืน เจ้าหน้าที่ตรวจพบธูปผูกติดไว้กับกล่องไฟแช็ก และขวดบรรจุน้ำมันทิ้งไว้เตรียมเผาป่า

...

ด้านนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จัดแผนปฏิบัติการเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศบริเวณเส้นทางสำคัญ ตามมาตรการลดฝุ่นหมอกควันในบริเวณเขตเมืองเชียงใหม่ทั้งหมด 18 จุด และมีจุดพ่นฉีดน้ำประจำ 3 จุด ที่ประตูท่าแพ สามแยกโรงพยาบาลสวนปรุง และอ่างแก้ว ในส่วนของอำเภอต่างๆ ดำเนินการเช่นเดียวกัน พร้อมกับเปิดเซฟตี้โซน เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน ขณะที่เว็บไซต์ AirVisual จัดอันดับดัชนีคุณภาพอากาศ ตามเมืองท่องเที่ยวทั่วโลก ล่าสุดประจำวันที่ 30 มีนาคม (เวลา 10.18 น.) พบว่า จ.เชียงใหม่ กลับมาติดอันดับเป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดอยู่ในอันดับ 1 โดยค่า AQI โดยรวมอยู่ที่ 448

นายสารวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอสันกำแพง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครดับไฟป่า ออกลาดตระเวนตั้งด่านทางเข้าพื้นที่ป่า อ.สันกำแพง มี 10 ตำบล 100 หมู่บ้าน ลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ สั่งการทุกพื้นที่ต้องเข้มงวดอย่างจริงจัง พบใครเผาป่าต้องจับมาดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ด้าน น.ส.ธชาพร เลาวพงษ์ ครูสาวจิตอาสาศูนย์การเรียนรู้

วัดบรมธาตุดอยผาสัม ต.ยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ออกมาวิงวอนกรณีหมอกควันไฟป่าในหลายตำบลของ อ.สะเมิง มีความรุนแรงมาก ต้องระดมเด็กนักเรียนไปช่วยกันดับไฟอย่างทุลักทุเล ขณะที่พระวัดพระบรมธาตุผาส้ม จัดตั้งคลีนรูมโดยใช้พัดลม ผ้าชุบน้ำมาเป่าเพื่อให้อากาศภายในห้องดีขึ้น พร้อมนำน้ำเกลือใส่หลอดฉีดยานำให้เด็กฉีดล้างจมูก

ขณะที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมคณะทำงาน เดินทางลงพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามสถานการณ์หมอกควัน และเปิดโครงการลดปริมาณเชื้อเพลิง เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมป่าไม้และกรมราชทัณฑ์ ที่สวนสาธารณะท่าโป่งแดง ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน นายอรรถพลกล่าวว่า จ.แม่ฮ่องสอน ติดอันดับ 1 มาตลอดในเรื่องการสูญเสียพื้นที่ป่า ทั้งจากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และการเกิดไฟป่า การแก้ไขปัญหาขอให้บูรณาการร่วมกันทุกฝ่าย โดยเฉพาะประชาชนถือว่ามีความสำคัญมากที่สุด ในการร่วมแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่า และปัญหาหมอกควัน ส่วนหนึ่งมาจากความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับชาวบ้าน ไม่พอใจเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการทางกฎหมายควบคุมไฟป่า ทำให้ชาวบ้านบางส่วนไม่พอใจ และกลั่นแกล้งจุดไฟเผาป่ามาตลอด

จ.พะเยา หมอกควันยังปกคลุมพื้นที่เป็นวงกว้าง วัดค่า PM 2.5 เกิน 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ประชาชนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง หากมีความจำเป็นควรสวมหน้ากากอนามัย ที่เหมาะสม ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ปัญหามาตรการ 60 วันห้ามเผา และระดมกำลังดับไฟป่า แต่วิกฤติหมอกควันยังรุนแรง ไม่สามารถลดปัญหาหมอกควันได้ เพราะมีการเผาป่าและเศษวัชพืชเพื่อเตรียมเพาะปลูกจำนวนมาก ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ที่ลักลอบเผาป่าไปแล้ว 20 คน สำหรับผลกระทบการเผาป่า ทำให้ไฟลุกลาม ภายในวัดอนาลโยทิพยาราม ต.สันป่าม่วง อ.เมืองพะเยา ไหม้กุฏิวอดทั้งหลัง เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าพะเยาและชาวบ้านช่วยกันดับไฟป่า มีพื้นที่เสียหายกว่า 50 ไร่ คาดสาเหตุชาวบ้านจุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์และเพื่อหาของป่า

ด้านนายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ พบว่าค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกพื้นที่ คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ-มีผลกระทบต่อสุขภาพ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีแดง 9 พื้นที่ (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) และพื้นที่สีส้ม 5 พื้นที่ (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) ค่า PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 36-239 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 69-279 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.)

นายประลองกล่าวว่า ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ เกินมาตรฐานในพื้นที่ต่อไปนี้ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 224 มคก./ลบ.ม. ต.เวียง อ.เมือง เชียงราย 96 มคก./ลบ.ม. ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ 172 มคก./ลบ.ม. ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ 168 มคก./ลบ.ม. ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ 89 มคก./ลบ.ม. ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง 105 มคก./ ลบ.ม. ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 68 มคก./ลบ.ม. ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 90 มคก./ลบ.ม. ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 88 มคก./ลบ.ม. บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน 119 มคก./ลบ.ม. ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 239 มคก./ลบ.ม. ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน 111 มคก./ลบ.ม. ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน 149 มคก./ลบ.ม. ต.นาจักร อ.เมือง แพร่ 88 มคก./ลบ.ม. ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น 61 มคก./ลบ.ม.

...

“ทั้งนี้ คพ.ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ งดการเผาในที่โล่งเพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ประชาชนอยู่ในพื้นที่ที่ปริมาณฝุ่นละอองมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ประชาชนทั่วไป และกลุ่มเสี่ยงควรเฝ้าระวังสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี้ด ใจสั่น คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก ให้รีบพบแพทย์ ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างน้อย 5 วัน” นายประลองกล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นห่วงสถานการณ์ฝุ่นละออง และ สุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ สาเหตุ สำคัญเกิดจากไฟป่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และการเผาของประชาชน รวมถึงการเผาจากชายแดนข้างเคียง สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือทุก จังหวัด แม่ทัพภาคที่ 3 และทุกหน่วยงาน ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน ดังนี้ 1.ควบคุมการเผาในพื้นที่จังหวัดอย่างเข้มข้น บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง 2.ระดมสรรพกำลัง เครื่องจักรกลจากทุกหน่วยงาน เพื่อช่วยในการดับไฟ และฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ 3.แจกหน้ากากอนามัยให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และแนะนำข้อปฏิบัติในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง 4.สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง และให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ไม่ให้เกิดการเผาโดยเด็ดขาด รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง

...

ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี เกิดพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 3-6 ต.ปะอาว อ.เมือง บ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก นายเมฆ แนวจำปา อายุ 45 ปี ชาวบ้านปะอาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 มี.ค. เกิดลมพายุลมแรงพัดลูกเห็บตกลงมา ประตูโขงหน้าวัดบูรพาปะอาว เหนือถล่มลงมา ต้นไม้ใหญ่ล้มทับหลังคาศาลา เสาหอกระจายข่าวหัก ด้านนายสมคิด แขมารัมย์ อายุ 58 ปี รองนายก อบต.ปะอาว กล่าวว่า ตรวจสอบมีบ้านเรือนเสียหาย 90 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่หลังคาสังกะสีถูกลมพัดเสียหายเป็นแถบ บางหลังถูกลมพัดเสียหายไปทั้งหลัง ต้นไม้โค่นทับรถกระบะภายในตลาดชุมชนได้รับความเสียหาย 1 คัน สำหรับแนวทางการช่วยเหลือประสานไปยังฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าสำรวจความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป ส่วนที่ อ.เขื่องใน และอ.นาจะหลวย พายุซัดบ้านเรือนเสียหาย 50 หลัง เช่นเดียวกับที่ อ.นาแก จ.นครพนม เกิดพายุลูกเห็บตกขนาดเท่าลูกปิงปองนานกว่า 1 ชม. ทำให้บ้านเรือนเสียหาย 50 หลัง

สำหรับสถานการณ์ภัยแล้ง ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แม่น้ำสุไหงโก-ลก เป็น 1 ใน 3 ของแม่น้ำสายหลักเริ่มแห้งขอดมาเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนอบอ้าว สถานที่ดังกล่าวในอดีตเป็นท่าเรือข้ามฟากชุมชนท่าบือเร็ง ตั้งอยู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ปัจจุบันน้ำแห้ง เนินทรายผุดขึ้นที่บริเวณกลางและริม 2 ฟากฝั่งยาวประมาณ 200 เมตร น้ำอยู่ในระดับหัวเข่าไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก ทำให้ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียต่างมาเล่นน้ำคลายร้อนกันอย่างสนุกสนาน

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่อง “พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน” ระบุว่า ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-3 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนระลอกใหม่ จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น มีลักษณะของพายุฝนฟ้า คะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่า จะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคกลางและภาคเหนือ จะได้รับผลกระทบในวันถัดไป ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า เกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน และระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

...