กรณีสินค้าเซรามิกจากจีนทะลักเข้าไทย จนถูก มองเป็นจุดจบ "ถ้วยตราไก่" สินค้าขึ้นชื่อ จ.ลำปาง ด้าน เจ้าของโรงงาน เผยทางรอด ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัว หาช่องทางใหม่ๆ แต่ภาครัฐต้องกำหนดเพดานภาษี กติกาแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม

จากกรณีที่นายปรีชา ศรีมาลา นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ประกอบการณ์เซรามิกว่า ก่อนวิกฤติโควิด-19 ที่จังหวัดลำปางมีโรงงานเซรามิก 328-330 โรงงาน และเมื่อสำรวจปลายปี 66 เหลือผู้ประกอบการจริงเพียง 89 โรง หายไปกว่าสองร้อยโรง หรือ 60-65% ส่วนหนึ่งของสาเหตุมาจากเซรามิกจากนำเข้าจากจีน โดยจริงๆ แล้วผู้ประกอบการณ์ได้รับผลกระทบมานาน แต่สถานการณ์เริ่มย่ำแย่หนักเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว และดูเหมือนการเข้ามาของสินค้าจีน จะเป็นการระบายสินค้ามากกว่าการค้าขายแบบเสรี หรือดัมพ์ราคา

พร้อมยกตัวอย่าง "ถ้วยตราไก่" ผลิตภัณฑ์นำเข้ามาจากจีน เขาขายส่งให้พ่อค้าในราคา 5 บาท ซึ่งเขาได้เปรียบในเรื่องของต้นทุน เพราะมีการผลิตที่จำนวนมากประกอบกับการผลิตของเขาเป็นการปั๊มลายทำให้ต้นทุนถูกกว่า และหากจะดูงานด้วยตาเปล่านั้นอาจจะแทบไม่แตกต่างกัน แต่หากดูจากสีของจานชามที่นำเข้าจากจีนนั้นจะเป็นสีขาวเหมือนกระดาษ เบาและบางแต่ส่วนของบ้านเราผลิตจากดินคุณภาพดี วาดลวดลายรูปไก่ด้วยคน เป็นงานแฮนด์เมด ทำต้นทุนทั้งในเรื่องของแรงงานสูงอยู่ที่ 20-25 บาทต่อชิ้น แต่ของที่ผลิตในไทยสีของถ้วยชามจะเป็นครีมออกเทา ทำให้แข่งขันกับเขาลำบาก

...

แม้ว่าหลายโรงงานจะปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความสวยงามรูปแบบหลากหลายมากขึ้นก็ตาม แต่ยังทำให้ยอดการสั่งซื้อตอนนี้หายไปกว่าครึ่งหนึ่งทำให้ผู้ประกอบการณ์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก และได้ฝากถึงผู้บริโภคว่า อยากให้มาสนับสนุนสินค้าของคนไทยที่ผลิตในประเทศ จ้างแรงงานในประเทศ และสินค้ามีคุณภาพแม้ว่าราคาอาจจะสูงไปบ้างแต่ก็เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ

ด้าน นายอนุรักษ์ นภาวรรณ กรรมการบริหาร บริษัทอินทราเซรามิค จำกัด เปิดเผยว่า เดิมถ้วยชามตราไก่นั้นจริงๆ แล้วก็ถือว่าเป็นอัตลักษณ์ประจำถิ่นของลำปางก็จริง แต่ที่มาของถ้วยนั้นหลายสิบปีก่อนก็มาจากคนจีนที่อพยพมา ก่อนที่จะมาตั้งรกรากหรือก่อตั้งโรงงานเซารามิกที่ลำปาง ส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้ไม่มีใครลอกใครเพราะปัจจุบันไก่ที่วาดลงถ้วยชามนั้น ยังมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่ที่ว่า แบบไหนจะสวยกว่ากันมากกว่า แต่ประเด็นที่โรงงานเซรามิกใน จ.ลำปางปิดตัวไปนั้นเป็นเรื่องจริง แต่เป็นการทยอยปิดไม่ใช่ปิดในช่วงเดือนสองเดือนนี้ และสาเหตุก็มีหลายอย่าง เช่น ค่าแรง ค่าแก๊ส เศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจภายในประเทศที่ถดถอย และการทะลักเข้ามาของสินค้าจีนที่ไร้การควบคุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การเสียภาษีของการสั่งของออนไลน์ที่มาจากจีน

กก.บห.บริษัทอินทราเซรามิค กล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญในการค้า คือ การแข่งขันต้องเท่าเทียมกัน ไม่เช่นนั้นผู้ประกอบการในประเทศก็อยู่ยาก เพราะเซรามิกของลำปางยังใช้แรงงานแฮนด์เมดในการเพนต์อยู่ และมีการออเดอร์ที่น้อยกว่าทำให้สู้อุตสาหกรรมใหญ่จากจีน ที่เขามีกำลังการผลิตจำนวนมากไม่ได้ แต่ในเรื่องคุณภาพเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าของจีน แต่หากถามว่าโรงงานเซรามิกที่ลำปางได้รับผลกระทบหรือไม่นั้น ตอบได้ว่าส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบ แต่มากน้อยต่างกันขึ้นอยู่กับการบริหารของโรงงานแต่ละแห่ง ที่สำคัญตนเองมองว่าการแข่งขันควรเท่าเทียมกัน ดังนั้นต้องขึ้นอยู่กับหน่วยงานของภาครัฐ ที่จะต้องดำเนินการว่าสินค้าจากจีน มีการนำเข้ามาถูกกฎหมายหรือไม่ เสียภาษีถูกต้องหรือเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่

...

นายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการในประเทศ ก็ต้องปรับตัวในการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ทั้งพัฒนาคุณภาพสินค้า รูปแบบของสินค้าให้มีความหลากหลาย ต้นทุนสินค้า ขยายช่องทางการขายในด้านออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้สามารถแข่งขันในสถานการณ์ปัจจุบันให้ได้ โดยในส่วนของอินทราเอ้าท์เลตเอง ก็พยายามช่วยเหลือผู้ประกอบรายย่อยในพื้นที่เช่นกันโดยจะให้เขานำสินค้าที่มีคุณภาพมาฝากขายที่ร้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาชมได้มาสั่งซื้อ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันอีกช่องทางหนึ่งด้วย

ขณะที่ นายบุญช่วย ใจยาคำ อายุ 59 ปี เจ้าของโรงงานดาริกาเซรามิก หนึ่งในผู้ประกอบการขนาดเล็ก กล่าวตัวเองทำถ้วยชามและผลิตภัณฑ์เซารามิกมากว่า 20 ปี มาปีนี้ยอมรับว่าสถานการณ์หนักมาก ทั้งในเรื่องของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถปรับราคาขายสินค้าได้ แถมสินค้าที่ผลิตมาก็ขายไม่ออก เพราะเศรษฐกิจชะลอตัว บางทีต้องให้คนงานหยุดงานเป็นช่วงๆ เพื่อระบายสินค้าซึ่งต่างจากเมื่อก่อน ที่ผลิตสินค้าขายแทบไม่ทัน ตอนนี้ยอดขายหายไปมากกว่า 60% ส่วนหนึ่งมาจากสู้ราคาสินค้าจีนไม่ได้ เพราะของเขาราคาถูกกว่ามาก แต่คุณภาพของเขาสู้ของเราไม่ทั้งเปราะบาง และแตกง่ายกว่าของเรามาก

...

เจ้าของโรงงานดาริกาเซรามิก กล่าวอีกว่า จากข่าวที่ออกมาว่าของจีนถูกกว่าของเราหลายเท่านั้นตอนเห็นข่าวก็ตกใจว่าทำไมเขาถึงราคาถูกได้มากขนาดนั้น เช่น ของขายในราคา 20 บาทของเขาส่งในราคา 5 บาท แต่ต้นทุนของเรามากกว่า 15 บาทแล้วจะเอาอะไรไปสู้เขา ส่วนความต้องการของผู้ประกอบการขนาดเล็กตอนนี้คือต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือในเรื่องเงินทุนและเรื่องการกระตุ้นในเรื่องของช่องทางในการจำหน่ายเพื่อจะได้ระบายสินค้าที่ค้างสต๊อกและนำเงินมาหมุนในธุรกิจ

...

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจร้านขายของฝากถ้วยชามเซรามิกในพื้นที่อำเภอเกาะคา  จังหวัดลำปาง ก็พบว่ามีถ้วยชามจากประเทศจีนเข้ามาขายในพื้นที่ลำปางเช่นกัน

นางมิตรตา อิ่นเลิศอายุ 53 ปี เจ้าของร้านมิตรตราเซรามิก เปิดเผยว่า ที่ร้านก็มีของที่นำเข้าจากจีนมาขายเช่นเดียวกันแต่ที่ร้านจะไม่นำถ้วยตราไก่จากจีนมาขาย เพราะที่ร้านต้องการขายสินค้าที่เป็นอัตลักษณ์ของลำปางมากกว่า แต่ก็มีการสั่งสินค้าพวกถ้วยชามที่มีลายสวยๆ มาเพิ่มเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าเพราะลูกค้าบางคนเขาต้องการลวดลายที่สวยงาม บางเบา และราคาถูก ทำให้ร้านจำเป็นต้องนำมาขาย เพื่อจะแข่งขันกับผู้ขายรายอื่นๆ ได้ไม่เช่นนั้นก็สู้ราคาร้านอื่นไม่ได้

เจ้าของร้านมิตรตราเซรามิก กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าลูกค้าที่มาส่วนใหญ่แยกไม่ออกว่า อันไหนเป็นถ้วยชามจากจีน อันไหนเป็นถ้วยชามที่ผลิตใน จ.ลำปาง ซึ่งร้านของตนเองก็จะบอกลูกค้าให้ทราบเสมอ ทั้งนี้ยอมรับว่าโรงงานขนาดเล็กและขนาดกลาง ที่มาส่งถ้วยชามให้ร้านของตนเองหลายโรงงาน ไม่สามารถเดินต่อไปได้เพราะค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในยุคปัจจุบัน ทำให้ราคาขายสู้ของที่นำเข้ามาจากจีนไม่ได้

จากการสอบถาม หญิงสูงวัย ลูกค้าที่มาซื้อจานชามเพื่อจะนำไปใช้ที่บ้านในต่างจังหวัด เปิดเผยว่า ไม่ทราบหรอกว่าอันไหนของจีนหรือของไทย เพราะดูไม่ออกแต่ส่วนตัวจะเลือกซื้อที่เบาลวดลายสวยงาม คุณภาพดี และราคาที่เหมาะสมไม่แพงมากเกินไป.