อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตลอดปี 2566 ทำรายได้พุ่งจากวันละ 8 แสนบาท ทะลุวันละ 2 ล้านบาท ขึ้นอันดับ 1 ประเทศ เฉพาะ 2 เดือนสุดท้ายของปี เก็บ 150 ล้านบาท ด้าน หน.อุทยานฯ เผย เป็นผลจากเข้มงวดปราบทุจริต นักท่องเที่ยว 5-6 พันคนต่อวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา จากข้อมูลรายงานสถานการณ์อุทยานแห่งชาติที่สามารถจัดเก็บรายได้ให้กับสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทั้งหมด 133 แห่ง ในช่วงเดือน ม.ค.-ธ.ค. 2566 รวม 1,651,868,101 บาท อุทยานฯ ที่มีรายรับมากที่สุด อันดับ 1 คือ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ มีรายได้จัดเก็บทั้งหมด 377,321,864 บาท โดยแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม ยังคงเป็น อ่าวมาหยา บนเกาะพีพีเล
...
นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข หัวหน้า อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เผยว่า ปัจจุบัน อุทยานฯ สามารถจัดเก็บรายได้ค่าเข้าเที่ยวชมภายในเขตอุทยานฯ ได้สูงเฉลี่ยวันละ 2 ล้านบาท จากเดิมที่เคยจัดเก็บได้แค่วันละ 6 แสนบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งเมื่อไม่นานนี้ มีการวางระบบจัดการใหม่ มอบนโยบายให้ จนท.ทุกฝ่าย ห้ามไม่ให้มีการทุจริตเงินค่าเข้าชมอุทยานฯ หรือปล่อยให้มีการรั่วไหล เพราะที่ผ่านมา ที่นี่มีปัญหาเรื่องนี้มานาน เพราะได้ข้อมูลจาก จนท.ผู้ปฏิบัติ และผู้ประกอบการ ทำให้แก้ปัญหาเงินรั่วไหลได้ตรงจุด และยังกำชับผู้ประกอบการ ไกด์นำเที่ยว ให้ตรวจสอบ นทท.ในกรุ๊ปของตนเอง ว่าเข้าออกกี่คน และต้องจ่ายค่าเข้าชมให้ครบทุกคน ไม่มีใครมีอภิสิทธิ์ทั้งสิ้น
หน.อช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวอีกว่า หลังตนมารับหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.66 ช่วงนั้นจะมียอดเก็บรายได้เพียงวันละ 8 แสนบาท แต่พอเข้าไปตรวจสอบ วางนโยบายใหม่ ทำให้ยอดจัดเก็บรายวันเพิ่มขึ้นทันทีตั้งแต่ 1-1.5 ล้าน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าช่วงเทศกาลปีใหม่ ยอดจัดเก็บสูงกว่าวันละ 2 ล้านบาท มี นทท.เข้ามาเที่ยวแต่ละวัน 5,000-6,000 คนต่อวัน และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
ส่วนปมปัญหาที่ ส.ส.กระบี่ ออกมาเรียกร้องให้ทบทวนการมารับตำแหน่งของตน โดยอ้างเหตุว่าตนไม่เหมาะสมนั้น หน.อช.หาดนพรัตน์ธาราฯ กล่าวว่า ตนเองรับทราบเรื่องนี้แล้ว และผู้บังคับบัญชาเข้าใจดี ให้กำลังใจตน ที่ผ่านมา ตนทำหน้าที่เป็น หน.อุทยานฯ มาแล้ว 3 แห่ง ทำหน้าที่ตามนโยบายของกรมอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องของการป้องกันและปราบปราม ตนมาอยู่นี่ได้ 2 เดือน ก็เข้ามาปฏิรูปการจัดเก็บรายได้ ในระยะ 2 เดือน เก็บเงินรายได้เข้ากรมฯ 150 ล้านบาท เป็นยอดสูง 20 เปอร์เซ็นต์จากยอดรวมทั่วประเทศ จึงมั่นใจว่าจะทำหน้าที่นี้ต่อไปได้ดีแน่นอน
...
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี มีปัญหาเรื่องเงินรายได้หายออกจากระบบมาช้านาน แต่ไม่ได้รับการแก้ไขจริงจัง เนื่องจากมีอดีต จนท.ในพื้นที่ ที่สมรู้ร่วมคิดกับผู้ประกอบการบางราย ทุจริตเงินรายได้ จนรายได้หดหายบ่อยครั้ง กระทั่งนายยุทธพงศ์ เข้ามาจัดระบบใหม่ และมีการปรับเปลี่ยน จนท.ผู้ปฏิบัติงาน จนทำให้ยอดจัดเก็บพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จึงกระทบกับกลุ่มที่เคยมีผลประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวมานาน จนมีการร้องเรียนกดดันให้กรมอุทยานฯ ปรับเปลี่ยนตัวหัวหน้าอุทยานฯ ดังกล่าว.