เมืองย่าโมจัดสามกิจกรรม ช่วงระยะ 10 วัน เริ่ม 12-21 ม.ค.67 ประเดิมด้วย งานเกษตรสุรนารี ปี 2567 -“งาน Thailand Tapioca Expo Korat 2024” ปิดท้ายด้วย งานวันเด็กฯ 2567 เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคักตั้งแต่ต้นปี ส่งเสริมการสร้างสรรค์และนวัตกรรมการเกษตร
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ที่ห้องสุรนารี สุรสัมมนาคาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานใหญ่ต้นปี 2567 “งานเกษตรสุรนารี’ 67 งาน Thailand Tapioca Expo 2024 และงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567” พร้อมด้วย ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, รศ.ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มทส. ดร.มัลลิกา สังข์สนิท รองอธิการบดีฝ่ายพันธกิจสัมพันธ์ นวัตกรรม และความเป็นผู้ประกอบการ และนายธีระ เอื้ออภิธร นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมงานเพื่อกลับมาอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้ง มีความสุข และสนุกกว่าทุกปี
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การจัดงานเกษตรสุรนารี’67 ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมใหญ่ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีและของจังหวัดนครราชสีมา ที่ผนวกสาม กิจกรรมหลักที่น่าสนใจเข้าด้วยกันในช่วง 10 วันของการจัดงาน ทั้งงานเกษตรสุรนารี ปี 2567 “งาน Thailand Tapioca Expo Korat 2024” ของสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง และการจัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2567 การมีงานใหญ่ระดับชาติจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของจังหวัดในช่วงต้นปี ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานกว่า 3 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งยังเป็นการเชื่อมประสานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคการศึกษา ภาคเอกชน และผู้ประกอบการอย่างกว้างขวาง เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ นวัตกรรม และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางการเกษตรครบวงจร ตั้งแต่ระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่พี่น้องเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนต่างๆ ในจังหวัดใกล้เคียงและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้มาเก็บเกี่ยวองค์ความรู้และประสบการณ์ อัปเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ ในครั้งนี้ด้วย
...
ด้าน นางสาวยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมา เสมือนประตูสู่ภาคอีสานมีการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นศูนย์กลางทางด้านต่างๆ ของภูมิภาค ทั้งด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม มีพืชเศรษฐกิจ คือ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะ “มันสำปะหลัง” เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตเกษตรกรนับแสนครัวเรือน ซึ่งโคราชได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองหลวงมันสำปะหลังไทย” เนื่องจากมีพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และยังมีจำนวนโรงงานแปรรูปมันสำปะหลังมากที่สุดในประเทศอีกด้วย
นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวต่อว่า อบจ.นครราชสีมา พร้อมเคียงข้างให้การส่งเสริมพัฒนาอาชีพแก่ประชาชน เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ได้กำหนดนโยบายจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดทำโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ร่วมกับสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เช่นโครงการปรับปรุงดินสำหรับการปลูกมันสำปะหลัง โดยใช้ของเหลือจากอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง เป็นต้น ถือเป็นโครงการที่สอดคล้องกับ นโยบายส่งเสริม BCG โมเดลของรัฐบาล นอกจากนี้ อบจ.โคราช พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจสีเขียว เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนต่อไปในอนาคต”
ขณะที่ รศ.ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มทส. กล่าวว่า การจัดงานเกษตรสุรนารีเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเชื่อมโยงผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการเกษตร ตลอดจนองค์ความรู้ของ มทส. และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการ การปรับแปลงและถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ผู้ประกอบการด้านการเกษตร และประชาชนที่สนใจ โดยเฉพาะในพื้นที่ “นครชัยบุรินทร์” เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการเกษตร เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
...
ขณะที่ ดร.มัลลิกา สังข์สนิท รองอธิการบดีฝ่ายพันธกิจสัมพันธ์ นวัตกรรม และความเป็นผู้ประกอบการ กล่าวว่า การจัดงานเกษตรสุรนารี’67 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Sustainable Agri-Innovation for BCG : เกษตรสร้างสรรค์ นวัตกรรมก้าวหน้า สู่การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน” กำหนดจัดงาน 10 วัน 10 คืน ตั้งแต่วันที่ 12-21 มกราคม 2567 ได้เพิ่มความยิ่งใหญ่ สนุก และมีความสุขกว่าเดิม เริ่มจากการผนึกกำลังกับพันธมิตรที่สำคัญ คือ สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมจัดงาน “Thailand Tapioca Expo Korat 2024” เป็นเวลา 5 วัน แสดงผลงานและนวัตกรรมเกี่ยวกับมันสำปะหลัง มหกรรมสินค้านวัตกรรม เทคโนโลยี เครื่องจักรกลการเกษตร การอบรม สัมมนาระดับชาติเพื่อร่วมยกระดับมันสำปะหลังของไทย
ภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การปรับแปลง ถ่ายทอด และพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตร ที่ต่อยอดผลงานวิจัยสู่การสร้างธุรกิจฐานนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการพัฒนาไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง Sustainable Development Goals หรือ SDGs ที่ให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานโครงการตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือโมเดลเศรษฐกิจ BCG ครอบคลุมด้านการเกษตรและอาหาร ด้านสุขภาพและการแพทย์ ด้านพลังงาน วัสดุ และเคมีชีวภาพ ด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเชิง รวมกับหน่วยงานภาครัฐ และเครือข่ายวิชาการ มทส. กว่า 50 บูธ และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการที่เหมาะสมให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการ และประชาชนที่สนใจ
...
การจัดอบรม สัมมนา เวทีเสวนา และ Go Green Workshop อบรมหลักสูตรระยะสั้นสร้างอาชีพ กับ “Go Green Go Organic” for BCG เพื่อยกระดับเกษตรกรไทย ขับเคลื่อนเกษตรปลอดภัยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG กว่า 50 หลักสูตร เรียนรู้จากฐานเทคโนโลยีกว่า 10 ฐาน การประกวดพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ประกวดมันสำปะหลัง กล้วยไม้ แคคตัส และผลไม้ การประกวดสัตว์ ที่สร้างความประทับใจมาโดยตลอดคือ ได้แก่ ประกวดโค ประกวดสุนัข และประกวดแมว ไก่พื้นเมือง การออกแบบภูมิสถาปัตย์ ภายในงาน ที่เน้น Go Green จัดแสดงแสงสีแสง บริเวณแนวต้นไม้ใหญ่ โดยรอบแนวแปลงกัญชา ถึงอาคารแสดงกลางแจ้งสุรนิทัศน์ เพื่อให้เป็นจุดพักผ่อนที่เขียวสะอาด ร่มรื่นใช้ต้อนรับผู้ชมงานถือเป็นจุดเช็กอินหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
ส่วน การเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ อุทยานการเรียนรู้สิรินธร-มทส. เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีไทยโบราณ ห้องไทยศึกษานิทัศน์และวัฒนธรรมอาเซียน อุทยานผีเสื้อ สวนพฤกษศาสตร์ มทส. จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพ.วช. ลานกิจกรรม SPL Learning Station เปิดให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมผ่านกิจกรรม Walk Rally หลังทำการ Check point เมื่อเข้าชมแหล่งเรียนรู้ต่างๆ รับเกียรติบัตร และของที่ระลึกมากมา
...
ทั้งนี้ พลาดไม่ได้สำหรับการเดินงานแฟร์ คือได้ ชม ชิม ช็อป “งานเกษตรสุรนารี 67” ได้จัดร้านค้าจำหน่าย ผลิตผลการเกษตร ผักปลอดสาร อาหารปลอดภัย ผลิตภัณฑ์จากเครือข่ายที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก มทส. สินค้าจากกลุ่มเกษตรกร และสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลาย ร้านค้าชมรมนักศึกษา กิจกรรมจากชมรมและองค์การนักศึกษา ได้รับความสนใจผู้ประกอบการออกร้านจำหน่ายสินค้ามากกว่า 700 ร้าน รวมถึง Food Truck ที่จัดไว้กระจายรอบลานพลาซ่า การแสดงบันเทิงบนเวทีกลาง พบกับศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ อาทิ ป๊อบ ปองกูล Lomosonic Slot Machine Sweet Mullet เน็ค นฤพล (จากภาพยนตร์เรื่อง สัปเหร่อ) และจ๊ะ นงผณี การแสดงดนตรีของนักศึกษา และการเดินแบบผ้าไหม เป็นต้น มาร่วมให้ความบันเทิงแก่ผู้ชมภายในงาน เปิดให้ชมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเราไม่ลืมนึกถึงเยาวชนของชาติได้จัด “งานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567” ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 ภายในอาคารสุรพัฒน์ 2 ซึ่งเหมาะกับการจัดกิจกรรม สะอาด สะดวก ปลอดภัย สำหรับทุกช่วงวัย ภายใต้แนวคิด “เส้นทางแห่งการเรียนรู้..สู่อนาคตที่ยั่งยืนของชาติ” โดยความร่วมมือจากสำนักวิชา มทส. ร่วมจัดซุ้มกิจกรรมที่เน้นความสนุกสนานแฝงสาระด้าน SDGs การเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี SDGs Kid Zone การประกวดหนูน้อยสุขภาพดี การประกวดหนูน้อยฟันสวย การแข่งขันกินผักมาราธอน การแข่งคลาน การประกวดวาดภาพ “หนูน้อยพิทักษ์โลก” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อการให้เกิดการมีส่วนรวมของครอบครัวซึ่งเป็นสถาบันรากฐานที่สำคัญของสังคม เรียกได้ว่า “มา มทส. ที่เดียว เที่ยวได้ทั้งครอบครัว
ส่วน นายธีระ เอื้ออภิธร นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เปิดเผยถึงการจัดงาน Thailand Tapioca Expo 2024 หรือ มหกรรมสินค้านวัตกรรม เทคโนโลยี เครื่องจักรกลการเกษตร “กำหนดจัดงานในวันที่ 12-16 ม.ค.67 ภายในอาคารสุรพัฒน์ 2 ภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้มันสำปะหลัง BCG คาร์บอนต่ำ สู่ความยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนศักยภาพของไทยในฐานะผู้ผลิตและส่งออกมันสำปะหลังอันดับหนึ่งของโลก อีกทั้งสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ เกษตรกร ผู้แปรรูป ผู้ส่งออก และนำเข้าทั้งภายในและภายนอกประเทศ ได้เชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน การจัดแสดงนิทรรศการมันสำปะหลังตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ การจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching)
ภายในงานครั้งนี้ ยังมีพิธีลงนาม MOU ซื้อขายมันสำปะหลังระหว่างผู้ประกอบการไทยกับคู่ค้าต่างประเทศ การประชุมสัมมนาเกษตรกร การออกบูธแสดงสินค้านวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง โดยเรียนเชิญ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิด การจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้แทน 23 หน่วยงานของจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการสนับสนุนงประมาณจากสำนักงานจัดส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ หรือ TCEB คาดว่า จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 500 ล้านบาท ผู้เข้าชมจากกลุ่มจังหวัด “นครชัยบุรินทร์” และจังหวัดในภาคอีสานจำนวนหลายพันคน ซึ่งจะได้รับประโยชน์ในการต่อยอดยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยสู่สากลต่อไป.