หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวและประวัติของ หลวงพ่อโสธร หรือ หลวงพ่อพุทธโสธร พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรามาบ้างแล้ว บางคนก็เคยมีโอกาสได้ไปกราบไว้ขอพรกัน ที่สำคัญหลายคนก็คงเคยแก้บนหลวงพ่อ หลังสิ่งที่ขอพรไว้ประสบผลสำเร็จ 

'ไทยรัฐออนไลน์' จะพาะผู้อ่านไปรู้จักกับ 'หลวงพ่อโสธร' ให้มากขึ้น รวมถึงพระบริวารของหลวงพ่อ ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็น....

สำหรับ องค์หลวงพ่อพุทธโสธร หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร ผู้รู้ เล่าว่า องค์จริงของหลวงพ่อพุทธโสธรนั้น เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่องค์เล็กกว่าที่เห็นกันอยู่ แต่เนื่องจาก หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่มีรูปลักษณ์งดงามมาก มีผู้เกรงว่าจะเป็นอันตราย อาจจะมีผู้ใจบาปมากระทำได้ จึงจัดการสร้างพระพุทธรูปปูนปั้นขึ้นใหม่ แล้วเอาองค์จริงของหลวงพ่อโสธรประดิษฐานไว้ข้างใน ไม่ให้ใครเห็นจนถึงวันนี้

...

โดยอุโบสถใหม่ที่ประดิษฐานองค์จริงของ หลวงพ่อโสธร นั้นจะอยู่ตรงกลาง ส่วนพระพุทธรูปองค์ด้านหลังนั้นคือ พระประธานโบสถ์ที่โดยรอบที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อนั้น จะมีพระบริวารรายล้อม

ทั้งนี้ หนึ่งในองค์พระบริวารที่ประชาชนชาวแปดริ้วให้การเคารพบูชาและกราบไว้นั้นคือ หลวงพ่อเกษร ซึ่งเป็นพระบริวารของหลวงพ่อโสธร โดยองค์หลวงพ่อเกษร เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก มีพุทธศิลป์แบบเขมร ทำมาจากศิลาหรือหิน สูงประมาณ 2 ศอก สันนิษฐานว่าหล่อขึ้นประมาณปลายรัชกาลที่ 5

หลวงพ่อเกษร ถือว่าเป็น พระหมอ ซึ่งประชาชนที่หายจากการเจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว จะนำสิ่งของมาถวาย เช่น น้ำมะพร้าวอ่อน จีบหมาก จีบพลู 9 คำ นั่นเอง เอาเป็นว่าหากใคร มีโอกาสไปกราบสักการะหลวงพ่อโสธร ก็สามารถนำดอกไม้ หรือ มะพร้าวอ่อน หมากพลู ไปไหว้ขอพรหลวงพ่อเกษรให้มีสุขภาพแข็งแรง หายเจ็บป่วยได้เช่นกัน

ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธร

สำหรับความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธร นั้น เชื่อว่าหลายคนที่อ่านบทความนี้อยู่ คงเคยไปกราบไหว้ขอพร และสมหวังกันมาบ้างแล้ว หลายคนจากทั่วสารทิศต่างมาขอพรหลวงพ่อโสธรในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าขาย สุขภาพ ควาสำเร็จในชีวิต เงินทอง หรือ โชคลาภ ซึ่งเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับบุญและวาสานาของแต่ละคนด้วย

ส่วนคนเฒ่า คนแก่ ในสมัยก่อน มักจะนำขี้ธูป เศษดอกไม้ที่ไหว้ของหลวงพ่อโสธร รวมถึงน้ำมนต์ ไปอธิษฐานจิตขอพรกับหลวงพ่อ บ้างก็นำไปทำยา หรือเก็บเอาไว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า สมัยหนึ่งชาวบ้านเกิดทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพง ฝนก็แล้ง จนเกิดโรคระบาด ทั้งคนและสัตว์ล้มตายไปมาก มีครอบครัวหนึ่งป่วยเป็นไข้ทรพิษ

เมื่อหมดทางรักษา ก็ไปนมัสการอธิษฐานขอความคุ้มครองจากหลวงพ่อ และนำเอาขี้ธูปและดอกไม้แห้งที่บูชาหลวงพ่อ และหยดน้ำตาเทียนที่ทำน้ำมนต์ เอามาต้มกิน ปรากฏว่าโรคหาย กิตติศัพท์หลวงพ่อจึงได้โด่งดังไปทั่ว ถึงกับมีการสมโภชและแก้บนกันตราบทุกวันนี้

...

สำหรับของแก้บนที่ประชาชนนิยมกันคือ ละครชาตรี ซึ่งเป็นของ คณะประจวบเจริญศิลป์ ชุดใหญ่ 8 คน 600 บาท ชุดกลาง 6 คน 450 บาท และชุดเล็ก 4 คน 300 บาท หากใครต้องการรำชุดพิเศษ เช่น รําฉุยฉาย พลายชุมพล เป็นต้น ที่จะสลับหมุนเวียนกันไป ราคาจะเริ่มที่ 900 บาท หากใครต้องการร่วมรำด้วยก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน 

นอกจากนี้ ยังมี ไข่ต้ม ผลไม้ พวงมาลัย หรือบางคนก็ร่วมถวายเงินกับหลวงพ่อโสธร เพื่อบริจาคทำบุญเพื่อทำนุบำรุงวัด ชำระหนี้สงฆ์ เป็นต้น  

เรื่องที่ห้ามบนบาน

เรื่องที่ห้ามบนบานกับหลวงพ่อโสธรคือ เรื่องขอไม่ให้เป็นทหาร กับเรื่องขอบุตร ทั้งนี้ เพราะหลวงพ่อท่านชอบให้คนเป็นทหาร เพื่อจะได้ปกปักรักษาบ้านเมือง และคนที่เป็นทหารก็เป็นเสมือนลูกหลานของท่าน ดังนั้นใครที่มาขอไม่ให้โดนเกณฑ์ทหาร เป็นต้องถูกเกณฑ์ทุกราย ส่วนคนที่มาขอบุตรก็มักจะได้บุตรที่มีอาการไม่ครบ 32 เนื่องจากว่า ท่านได้ส่งลูกหลาน ซึ่งเป็นทหารที่บาดเจ็บล้มตายมาให้นั่นเอง

...

(ภาพ potsawat sirichan, ข้อมูลบางส่วนจาก ที่นี่แปดริ้ว)