ป.ป.ท.ร่วมกับ “บิ๊กเต่า” ถือหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 บุกรวบ “นายก อบต.สำนักทอง” จ.ระยอง คาห้องทำงาน ขณะรับเงิน 1 แสนบาทค่าหัวคิวจากผู้รับเหมาก่อสร้างถนน เจ้าตัวยังปฏิเสธลั่นทั้งที่หลักฐานคาหนังคาเขา โดนแจ้ง 4 ข้อหาหนัก แถมยังตะครุบ “กำนันเอ” ลูกชายคนโต ค้นรถยนต์พบปืนและเงินสดอื้อ
ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักทอง ต.สำนักทอง อ.เมืองระยอง เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พ.ย. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาฯ ป.ป.ท. น.ส.อรณิช สุขบาล ผอ.ปปท.เขต 2 พ.ต.ท.วิโรจน์ มีดา และ พ.ต.ท.ภวิษณ์พร วณิชย์นรานนท์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ นำเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และ พ.ต.อ.สิทธิพร กสิ ผกก.2 บก.ปปป. นำหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 เข้าจับกุมนายสุรินทร์ ตรีไตรรัตนกูล อายุ 71 ปี นายก อบต.สำนักทอง
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเดือน พ.ค.67 ผู้เสียหายเป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ได้เข้าประมูลงานก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายเขามะกอก หมู่ 4 ต.สำนักทอง ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ในราคา 835,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ อบต.สำนักทอง แจ้งให้ผู้เสียหายเข้าไปลงนามทำสัญญาก่อสร้างในวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในวันดังกล่าว นายสุรินทร์ นายก อบต.สำนักทอง ได้เรียกรับเงินค่าหัวคิว 13 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนเงินในสัญญาจ้างที่หักภาษีแล้ว คิดเป็นเงินจำนวน 100,434 บาท
ต่อมาวันที่ 21 ต.ค. นายสุรินทร์ นายก อบต.สำนักทอง โทรศัพท์มาแจ้งผู้เสียหายให้เข้ามารับเช็คค่าก่อสร้างถนน พร้อมให้นำเงินสด 100,434 บาท มามอบให้แก่ตนด้วย ผู้เสียหายเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการทุจริต ได้นำเรื่องมาร้องเรียนกับสำนักงาน ป.ป.ท. เพื่อขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ผู้เสียหายได้เจรจาต่อรองกับนายสุรินทร์ นายก อบต.สำนักทอง ขอลดจำนวนเงินเหลือ 100,000 บาทถ้วน และนัดหมายนำเงินสดมามอบให้นายก อบต.สำนักทอง ในวันที่ 21 พ.ย.
...
หลังทราบข้อมูล เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้ประสานกับตำรวจ บก.ปปป. รวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับ และได้ร่วมจับกุมนายสุรินทร์ ตรีไตรรัตนกูล นายก อบต.สำนักทอง ได้ที่ห้องทำงาน นายก อบต.สำนักทอง ขณะรับเงินสด 1 แสนบาทจากผู้เสียหาย พร้อมกันนี้ยังควบคุมตัวนายศิริพันธ์ ตรีไตรรัตนกูล อายุ 49 ปี หรือกำนันเอ กำนันตำบลสำนักทอง กรรมการการยางแห่งประเทศไทย (บอร์ด กยท.) และเป็นบุตรชายคนโตของนายสุรินทร์ ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์
ตรวจค้นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X1 สีดำ ทะเบียน 8 กญ 6401 กรุงเทพมหานคร ของนายสุรินทร์ มีนายบี (นามสมมติ) ลูกชายคนเล็กขับพามาทำงาน พบปืนพก .22 พร้อมกระสุน เงินสด 90,000 บาท และสมุดบัญชีธนาคารจำนวนหนึ่ง จากนั้นไปค้นรถยนต์อีซูซุ มิว X สีบรอนซ์ ทะเบียน ขม 2513 ระยอง ของนายศิริพันธ์ หรือกำนันเอ บุตรชาย พบปืนพก 9 มม.พร้อมกระสุน คุมตัว 2 พ่อลูกและของกลางไปสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.สำนักทอง เบื้องต้นนายสุรินทร์ นายก อบต.สำนักทอง ให้การปฏิเสธ ยืนยันไม่เคยเรียกรับเงิน เจ้าหน้าที่ได้นำคลิปเสียงหลักฐานให้ผู้ต้องหาดู และยอมรับว่าเป็นเสียงของตนจริง ส่วนนายศิริพันธ์ หรือกำนันเอ ถูกดำเนินคดีข้อหาผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน
นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. กล่าวว่า การจับกุมนายก อบต.สำนักทอง ครั้งนี้ ได้ประสานกับ บก.ปปป. จนมีพยานหลักฐานในการเรียกรับเงินชัดเจน จนนำไปสู่การออกหมายจับ หากมีผู้ใดที่ถูกเรียกรับเงินในลักษณะเดียวกัน สามารถมาแจ้งความเพิ่มเติมได้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.พร้อมขยายผลดำเนินคดีให้ทุกราย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวว่า ก่อนเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ปลอมตัวไปกับผู้เสียหาย นำเงินเข้าไปจ่ายให้นายก อบต.สำนักทอง ในห้องทำงาน แต่ก่อนเข้าไปในห้อง ถูกคนของนายก อบต.ค้นตัวทุกคนอย่างละเอียด เพราะฝ่ายนั้นระมัดระวังตัวมาก แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานแล้ว หลังนายก อบต.รับเงินไป เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุม พฤติกรรมของพ่อลูกคู่นี้อาจเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล เพราะสั่งให้ผู้รับเหมาให้ไปซื้อวัสดุก่อสร้างที่ร้านของเครือญาติ นอกจากคดีนี้แล้ว ยังมีจ่ออยู่อีก 1 คดี กำลังรวบรวมหลักฐาน เจ้าหน้าที่ยังพบว่าในพื้นที่หมู่ 1 ต.สำนักทอง มีมลพิษกลิ่นเหม็นจากโรงงานเศษยางพาราของผู้มีอิทธิพล จะต้องตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีต่อไป
รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหา 4 ข้อหากับนายสุรินทร์ นายก อบต.สำนักทอง 1.เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, 2.เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต, 3.เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ 4.เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ และจะดำเนินคดีข้อหาไม่มีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน กับ 2 พ่อลูกคู่นี้อีก 1 ข้อหาด้วย
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่