สถานการณ์เพลิงไหม้โกดังโรงงานเก็บกากสารเคมีที่ระยอง ยังคงมีไฟปะทุอยู่บริเวณโกดังที่ 3 ทีมดับเพลิง ร้องขอเจ้าหน้าที่ สคพ.13 ชลบุรี ให้เอาเครื่อง XRF หรือเครื่องวิเคราะห์โลหะ มาตรวจสอบสารเคมีที่อยู่ในโกดังที่ 3 ว่ามีชนิดใดบ้าง ทำไมถึงยังไม่มอด และปะทุขึ้นมาอีกเรื่อยๆ และเก็บตัวเถ้าที่ไหม้แล้วไปตรวจสอบด้วย ล่าสุดพบมีผู้เสียชีวิต เป็นชายวัย 43 ปี บ้านอยู่ใต้ลม ห่างจากโรงงาน 8 กิโล ส่งศพผ่าพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริงแล้ว ญาติยันก่อนหน้านี้ ปกติดี ไม่มีอาการเจ็บป่วย ไม่มีโรคประจำตัว
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมดับเพลิงเหตุเพลิงไหม้โรงงานสารเคมีของวิน โพรเสส ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นำโดยนายทศพล บวรโมทย์ นอภ.บ้านค่าย และนายจตุรงค์ วงค์สุวรรณ นายก อบต.บางบุตร ได้ประชุมทีมดับเพลิง หลังจากใช้สาร F-500 เข้าดับไฟบริเวณโรงที่ 3 ซึ่งเป็นอะลูมิเนียมดรอส (กากเหลือจากการหลอมอะลูมิเนียม) แต่ปรากฏว่า ยังไม่สามารถทำให้มอดสนิทได้ โดยพบว่าดินและทรายที่กลบเกิดยุบตัวแล้วมีโพรง และไฟเกิดการปะทุขึ้นมาอีกอยู่เรื่อยๆ จึงยังไม่มอดเสียที จึงต้องมีการร้องขอ เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 13 (ชลบุรี) สคพ.13 ชลบุรี ให้นำเครื่อง XRF หรือเครื่องวิเคราะห์โลหะ มาตรวจกองสารเคมีโรงที่ 3 ว่ามีชนิดใดบ้าง รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เก็บตัวอย่างกากตะกรันอะลูมิเนียมมาตรวจสอบด้วย เพื่อให้สามารถดับเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผล รวมทั้งจะมีนำปูนขาวหรือหิน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าดินและทรายเข้ากลบในโกดัง 3 อีกด้วย
...
ด้านนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงมาก เพราะว่ามีสารเคมีชนิดต่างๆ จำนวนมาก และอยู่ระหว่างต้องคำพิพากษาของศาลปี 64 ให้วิน โพรเสส ดำเนินการกำจัดทั้งหมด ซึ่งกว่าจะได้ดำเนินการจริงจังต้นปี 65 โดยอ้างว่าหาผู้รับเหมาที่เหมาะสมไม่ได้ อย่างไรก็ตามจะมีกรมโรงงานอุตสาหกรรมกำกับดูแลว่ากำจัดถูกต้องหรือไม่ ซึ่งการดำเนินการนำสารเคมีออกไปกำจัดเกิดความล่าช้ากระทั่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้วที่ จ.อยุธยา ซึ่งเป็นการวางเพลิงชัดเจน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ส่วนที่โรงงานแห่งนี้ ทางกรมโรงงานฯ ได้มีการย้ำกับทางวิน โพรเสส ให้จัด รปภ.เข้าเวรยามตลอดเวลา และติดกล้องวงจรปิดไว้ด้วย ซึ่งจะไปตรวจสอบว่าช่วงเวลานั้นมีใครเข้าออกบ้าง ซึ่งเป็นประเด็นที่จะคลายข้อสงสัย
ส่วนเรื่องที่กรมโรงงานฯ ที่คิดว่าจะทำ 2 เรื่อง คือ 1. เดิมโรงงานแห่งนี้ต้องคำพิพากษาของศาล จะขอให้อัยการจังหวัดยื่นขอแถลงศาล ขอเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการ ให้ทางกรมโรงงานฯ เข้ามาดำเนินการจัดการเกี่ยวกับเพลิงไหม้ และสารเคมีในโรงงาน ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน และ 2. การบริการจัดการงบประมาณที่จำเลยนำเงินไปวางที่ศาล ขอให้ทางกรมโรงงานฯ เป็นผู้จัดการ เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการจัดการกับสารเคมีในโรงงานฯ ทั้งไหม้ไปแล้ว และยังไม่ไหม้
ด้านนายอนันต์ ประกอบสุข อายุ 52 ปี ชาวบ้านบอกรู้สึกดีใจที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางลงมาติดตามสถานการณ์ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ วอนขอให้นายกรัฐมนตรีช่วย เพราะเดือดร้อนมาเป็น 10 ปีแล้ว ถ้านายกฯ ลงมาแล้ว หากไม่ได้รับการแก้ไข พวกเราคงจะไม่มีที่พึ่งแล้ว อยากให้นายกฯ มาแก้ปัญหาให้จบสักที ถ้านายกฯ ช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้ จะขอขอบคุณมากๆ ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดตอนนี้ คือ อยากให้นำเอาสารเคมีที่เกิดไฟไหม้เอาออกไปโดยเร็ว เพราะยิ่งเอาไว้นานชาวบ้านก็จะยิ่งได้รับผลกระทบหนักขึ้นไปอีก.
...
ต่อมา เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.อภิชาติ โกเนตร์สุวรรณ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองกรับ ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักกลางสวนยางพารา ม.8 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สมชาติ สังข์เงิน หัวหน้างานสอบสวน สภ.หนองกรับ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านพักปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่กลางสวนยาง ในห้องนอนพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ คือ นายทัศพงษ์ พันธ์ยิ่งยศ อายุ 43 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.ฉะเชิงเทรา สภาพศพสวมกางเกงขาสั้น ใส่เสื้อกีฬานอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอน ตามร่างกายไม่พบร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด
สอบสวน นางศรัญญา การุณ อายุ 48 ปี พี่สะใภ้ผู้ตาย เปิดเผยว่า ผู้ตายทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองระยอง ก่อนพบเป็นศพ ช่วงหัวค่ำวานนี้ผู้ตายยังปกติดี ไม่มีอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด และไม่มีโรคประจำตัว โดยนั่งรับประทานอาหารเย็น ก่อนจะแยกย้ายกันเข้านอน พอตื่นเช้ามาเห็นผู้ตายตื่นสาย จึงจะไปปลุก แต่พบว่าตัวมีลักษณะซีดเหลือง ตาเหลือก ตัวแข็งเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งนายสุนทร ยมหา ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาตรวจสอบ
...
ด้าน พ.ต.ท.สมชาติ สังข์เงิน หัวหน้างานสอบสวน สภ.หนองกรับ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุการตาย แต่จากการดูสภาพพบผู้ตายนอนหลับแล้วตายไปเลย โดยไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด
ทั้งนี้จะได้ส่งศพให้แพทย์เวร รพ.บ้านค่าย ชันสูตรหาสาเหตุการตายต่อไป ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการได้รับผลกระทบจากเหตุโรงงานไฟไหม้ หรือไม่ หลังชุมชนดังกล่าวอยู่ใต้ลมอยู่ห่างจากโรงงานสารเคมีไฟไหม้ 8 กิโลเมตร ซึ่งต้องรอแพทย์เวรชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.