ผวจ.ปราจีนบุรีเร่งเดินหน้าสร้างความ เชื่อมั่นให้ชาวบ้านที่ยังหวาดผวาสารกัมมัน ตรังสีซีเซียม-137 นำเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปรมาณูเพื่อสันติแจกจ่ายอุปกรณ์ตรวจวัดระดับรังสีประจำตัว 50 เครื่องในพื้นที่เสี่ยงรอบโรงหลอมเหล็ก พร้อมติดตั้งเครื่องวัดรังสีแกมมาในอากาศแบบเรียลไทม์ 9 สถานี เกษตรกรชาวสวนระทมหนักพืชผลโดนตีกลับอื้อ เหตุจากลูกค้าผวาปนเปื้อนรังสี ย้ำควบคุมสถานการณ์ได้แล้วไม่พบรั่วไหลฟุ้งกระจายออกมาภายนอกและไม่มีใครได้รับอันตราย ขอเวลา 1 เดือนจัดการฝุ่นเหล็กที่ปนเปื้อน สั่งเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวให้กลับคืนสู่ปกติ

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน หลังเกิดเหตุวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำบริษัท เนชั่นแนลเพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ก่อนจะไปพบอยู่ในโรงหลอมเหล็กบริษัท เค ที พี สตีล จำกัด อ.กบินทร์บุรี ปะปนอยู่ในฝุ่นแดงที่ได้จากการหลอมเหล็กบรรจุถุงบิ๊กแบ็ก 24 ใบ วางอยู่ในพื้นที่ปิดของโรงหลอม ล่าสุดพบสารซีเซียมเพิ่มเติมอีกบริเวณเตาหลอม 1 ใน 3 เตาและฝุ่นโลหะที่ติดอยู่ในระบบกรอง ขณะที่ผลการตรวจพื้นที่โดยรอบโรงงานรวมทั้งตรวจร่างกายคนงาน 70 คนในโรงหลอมไม่พบการปนเปื้อนกัมมันตรังสีแต่อย่างใด

ความคืบหน้าที่สำนักงาน อบต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 มี.ค. นายรณรงค์ นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี นายกิตติ์กวิน อรามรุญ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ นำเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ อบต.หาดนางแก้ว อบต.ลาดตะเคียน และตัวแทนชาวบ้านที่อยู่ใกล้โรงหลอมเหล็ก เรื่องการตรวจระดับรังสีในประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ นำอุปกรณ์ตรวจวัดระดับรังสีประจำตัว 50 เครื่องมอบให้กับอาสาสมัครตรวจวัดรังสีในพื้นที่เสี่ยงรอบโรงงาน ได้แก่ อบต.หาดนางแก้ว 25 เครื่อง และ อบต.ลาดตะเคียน 25 เครื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน

...

นายกิตต์กวินกล่าวว่า เครื่องมือนี้มีประโยชน์เพื่อใช้ในการประเมินรังสีในระยะยาว การได้รับรังสีมี 2 ประเภทคือเห็นผลชัดเจน อย่างกรณีโคบอลต์-60 ถ้าไปจับจะมีอาการผื่นแดงหรือเกิดเป็นแผลไหม้ทันที แต่กรณีซีเซียมที่ปะปนอยู่กับฝุ่นโลหะ ยืนยันว่าจะไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเหมือนกรณีโคบอลต์-60 แน่นอน เครื่องมือตรวจวัดระดับรังสีประจำตัวนี้จะไขข้อข้องใจและตอบคำถามของพี่น้องประชาชนที่มีความกังวลใจได้ จะให้ติดเครื่องมือวัดรังสีไว้กับตัวขณะที่ใช้ชีวิตประจำวันเลย เครื่องนี้จะวัดค่าและบันทึกข้อมูลกรณีที่มีรังสีแผ่เข้ามา แต่ถ้าไม่ได้รับรังสีก็จะไม่มีผลอะไร ผลตรงนี้จะแก้ปัญหาความวิตกกังวลในระยะยาว

หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีเผยต่อไปว่า วิธีการง่ายๆคือติดเครื่องมือนี้ไว้ที่ตัวเองและสามารถทำกิจวัตรต่างๆได้ตามปกติ ก่อนนอนหากยังไม่สบายใจก็ติดไว้กับตัวได้ พอครบ 1 เดือนจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บนำผลไปวิเคราะห์ และรายงานกลับมาทางจังหวัด อันนี้คือข้อมูลที่หลอกกันไม่ได้เพราะเป็นเครื่องมือวัดระดับปริมาณรังสี หากใครยังมีความกังวลอยู่จะมีเจ้าหน้าที่ที่ทำงานกับ สสจ.ลงพื้นที่สุ่มตรวจปัสสาวะด้วย นอกจากนี้ยังติดตั้งเครื่องวัดรังสีแกมม่าในอากาศแบบเรียลไทม์ 9 สถานีในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และกำลังจะจัดตั้งห้องแล็บเคลื่อนที่ เพื่อตรวจวัดระดับรังสีและการปนเปื้อน จากการตรวจสอบจนถึงปัจจุบันระดับรังสีที่วัดได้โดยรอบโรงงานยังเทียบเท่ากับระดับรังสีในธรรมชาติและไม่พบการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม

จากนั้น ผวจ.ปราจีนบุรี พร้อมคณะพาชมและแนะนำเครื่องมือสำหรับการตรวจวัดระดับรังสีในอากาศ เป็นเครื่องดูดอากาศขนาด 30×60 ซม. มาติดตั้งกลางสนามหญ้าหน้าสำนักงาน อบต.หาดนางแก้ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน โดยเครื่องดังกล่าวจะดูดอากาศในพื้นที่ทุก 1 ชม.เจ้าหน้าที่จะนำแผ่นกระดาษในเครื่องมาตรวจวัดค่ารังสีว่ามีการปนเปื้อนหรือไม่ ขณะนี้ยังตรวจไม่พบการฟุ้งกระจายของซีเซียม-137 ในชุมชน แต่เจ้าหน้าที่จะติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดทุกวัน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติยังนำเครื่องมือตรวจวัดค่ารังสีในดิน น้ำ และอากาศ เข้าไปตรวจวัดในสวนเกษตรกรที่อยู่ละแวกโรงงาน ส่วนใหญ่เป็นแปลงพืชผักสวนครัวและสวนผลไม้ที่กำลังออกผลผลิต หลังได้รับการร้องขอจากเกษตรกรเจ้าของสวนว่า ตั้งแต่มีข่าวออกไปว่าเจอสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ในโรงหลอมเหล็ก อ.กบินทร์บุรี ปรากฏว่าพืชผลการเกษตรของชาวบ้านที่ถูกส่งออกไปขายนอกพื้นที่ ถูกตีกลับมาจำนวนมาก เนื่องจากลูกค้าหวั่นเกรงว่าจะปนเปื้อนกัมมันตรังสี สร้างความเสียหายกันหลายราย อยากให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องมือมาตรวจวัดยืนยันว่าไม่มีรังสีรั่วไหลออกมาจากโรงหลอมเหล็กแน่นอน

ในช่วงเย็น ที่บริเวณหน้าโรงหลอมเหล็กบริษัท เค ที พี สตีล จำกัด ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี มีรถบรรทุกพ่วงขนถุงบิ๊กแบ็กบรรจุฝุ่นเหล็ก 16 ถุง น้ำหนัก 16 ตัน จากโรงงานรีไซเคิล จ.ระยอง นำมาคืนที่โรงหลอม เป็นฝุ่นเหล็กที่ได้จากการหลอมลอตวันที่ 2 มี.ค. เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติใช้เครื่องมือตรวจวัดค่ารังสีในรถพ่วงทั้งหมดไม่มีสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 แต่อย่างใด จากนั้นนำเข้าไปเก็บในโรงงานโดยแยกโกดังกับถุงบิ๊กแบ็ก 24 ตันที่ตรวจพบสารซีเซียม

ต่อมาเวลา 17.00 น. ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เผยความคืบหน้าการตรวจหาสารกัมมัน ตรังสีซีเซียม-137 ในโรงหลอมเหล็กว่า สภาวะขณะนี้อยู่ในความควบคุม ปริมาณรังสีที่ตรวจพบอยู่ในระดับต่ำ ได้ติดตั้งการตรวจวัดเพิ่มเติมในอากาศพบว่าปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ต้องดูแลเป็นพิเศษเรื่องความปลอดภัยของประชาชน ขณะนี้ไม่มีรายงานผู้ป่วยหรือผู้ที่มีอาการได้รับสารรังสี รวมทั้งปริมาณรังสีที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมต่างๆทั้งภายในและภายนอกไม่พบการปนเปื้อน ต้องดูแลให้แน่ใจว่าสถานการณ์ต่างๆอยู่ในความควบคุมได้

...

ด้านนายรณรงค์ นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เรื่องสุขภาพของประชาชนน่าจะผ่านพ้นไปได้ ไม่มีผู้ประสบภาวะที่จะติดสารเคมี ระยะต่อไปคือผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ให้หน่วยงานตรวจสอบว่ามีผลกระทบทางการเกษตรหรือไม่ แต่ทราบว่าไม่มี พี่น้องประชาชนช่วยๆกันให้สบายใจว่าสามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ เชิญชวนชาวต่างจังหวัดมาเที่ยว ทุกอย่างจะได้เข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนฝุ่นเหล็กปนเปื้อนสารซีเซียมที่มีอยู่ 24 ตันก็ยังอยู่ ฝุ่นเหล็กที่ติดค้างอยู่ในเตาหลอมก็ยังมีอยู่ ขอเวลาให้เย็นลงก่อนจะประเมินได้ว่ามีกี่ตันจะได้หาวิธีจัดเก็บ ขอเวลาประมาณ 1 เดือน ในการจัดการกับฝุ่นเหล็กที่ปนเปื้อนสารซีเซียมทั้งหมด ส่วนฝุ่นเหล็กที่ส่งคืนมาจากระยอง ตรวจหลายรอบแล้วไม่มีสารปนเปื้อน เป็นเรื่องของคู่ค้าที่จะขายของกันก็ขอให้สบายใจได้

พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จ.ปราจีนบุรี กล่าวถึงการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องว่า ผบ.ตร.ห่วงเรื่องนี้มาก โรงหลอมเหล็กแห่งนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นยังมีเจตนาบริสุทธิ์ คดีนี้แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือส่วนที่ของหาย ส่วนที่สองยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามาที่นี่ได้อย่างไร อย่างไร ก็ตามจากการสอบสวนอาจจะมีข่าวดีในเร็วๆนี้ ของหายวันที่ 17 ก.พ. ตำรวจได้รับแจ้งความเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ทำให้การติดตามค่อนข้างลำบาก อย่างไรก็ตามขอให้เชื่อถือตนจะพยายามให้เต็มที่ ให้ชาวปราจีนอยู่อย่างมีความสุข ตอบโจทย์ทุกอย่างได้ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้แจ้งความโรงไฟฟ้าไว้แล้วว่าไม่แจ้งโดยพลัน ออกหมายเรียกให้กรรมการบริหารมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

ที่ศูนย์พิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามา ธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าว “ซีเซียม (Cesium, Cs-137) กับยาต้านพิษพรัสเซียนบลู (Prussian blue)” ศ.นพ.วินัย วนานุกูล หัวหน้าศูนย์พิษวิทยาและหัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ กล่าวว่า เหตุการณ์ซีเซียม-137 หายที่ จ.ปราจีนบุรี มีปริมาณ 500 ไมโครกรัม หรือ 0.5 มิลลิกรัม ถูกหลอมในระบบปิดของเตาหลอม โอกาสที่จะมีรังสีปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อมจึงน้อยมาก ความเสี่ยงไม่สูง แต่ก็ไม่ควรประมาท ที่สำคัญไม่แนะนำประชาชนไปซื้อหายามารับประทานเอง

...

ศ.นพ.วินัยกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ความกังวลของประชาชนในพื้นที่อาจไปค้นคว้าข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตพบข้อมูลยาต้านพิษ “พรัสเซียนบลู” ที่ใช้รักษาต้านพิษซีเซียม ยาดังกล่าวเป็นสารสีน้ำเงิน หากเป็นระดับเกรดต่ำจะใช้แพร่หลายในการเขียนภาพ ส่วนที่เป็นยารักษาต้องเป็นเกรดที่ผ่านการรับรอง การไปหาซื้อยากินเองจึงมีความเสี่ยง การจ่ายยาต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ที่จะให้ในผู้ป่วยที่ได้รับสารซีเซียมเข้าสู่ร่างกาย ไม่ใช่การสัมผัส ที่ศูนย์พิษฯมีการสำรองยาพรัสเซียนบลูไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่ไม่เคยต้องใช้จนหมดอายุ จากการหารือร่วมกับ อย.เมื่อวันที่ 21 มี.ค.เห็นว่าน่าจะเตรียมพร้อมไว้ แต่สถานการณ์ประเทศไทยขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้ แต่ต้องเตือนประชาชนเนื่องจากมีสัญญาณคนสอบถามและหาซื้อยาพรัสเซียนบลูในท้องตลาด โดยเฉพาะในระบบออนไลน์ ซึ่งอันตรายมาก