สลดเด็กหญิงวัย 7 ขวบ นักเรียน ป.2 โรงเรียนดัง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ดับอนาถคารถตู้รับ-ส่งนักเรียน ครูลืมเช็กยอดเด็กตอนเช้า จอดรถทิ้งตากแดดทั้งวัน ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนจะกลับบ้าน เปิดประตูรถถึงกับผงะ เจอร่างหนูน้อยนอนคว่ำหน้า เลือดทะลักออกปาก สิ้นใจทุรนบนพื้นรถพร้อมแก้วน้ำดื่ม พ่อแม่ร่ำไห้ปิ่มขาดใจ ครวญสู้ทนทำงานเหนื่อยยากหาเงินจ่ายค่าเทอมแสนแพง หวังให้ลูกคนเดียวได้เรียนดี ไม่คิดจะมาเสียชีวิตจากความสะเพร่าเช่นนี้
เหตุสะเทือนใจจากความสะเพร่าของผู้ใหญ่ ทำให้เด็กหญิงตัวน้อยวัย 7 ขวบ ต้องเสียชีวิตอย่างทรมานครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 30 ส.ค. พ.ต.ต.ประเสริฐ กุลบุตรดี สว. (สอบสวน) สภ.พานทอง จ.ชลบุรี รับแจ้งมีเด็กนักเรียนเสียชีวิตภายในรถตู้รับ-ส่งของโรงเรียนเพลินจิตวิทยา เลขที่ 69/1 หมู่ 10 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี โทร. 0-3845-1163 หลังรับแจ้งไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.พานทอง และหน่วยกู้ภัยสว่างอุทยานพานทอง
ที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถของโรงเรียนดังกล่าว พบรถตู้รับ-ส่งนักเรียน เบอร์ 3 ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 1 นข 5421 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ บนพื้นรถหลังเบาะคนขับพบร่าง ด.ญ.เขมนิจ หรือน้องจีฮุน ทองอยู่ วัย 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2/2 ของโรงเรียนดังกล่าว นอนคว่ำหน้า เสียชีวิต ตัวซีด เลือดทะลักออกปาก ใกล้ศพมีกระเป๋าเป้สะพายสีดำและแก้วน้ำดื่มวางอยู่บนเบาะ
จากการสอบถามครูชายผู้ดูแลรถให้ข้อมูลกับตำรวจและทีมแพทย์ว่า เมื่อเช้าได้ขับรถไปรับนักเรียนที่บ้าน มีครูผู้หญิงอีก 2 คนติดรถไปดูแลนักเรียนด้วย เมื่อมาถึงโรงเรียนได้จอดหน้าอาคารให้เด็กลงจากรถ พอเห็นเด็กลงหมดแล้วได้ขยับรถไปจอดที่ลานจอดรถกลางแจ้งของโรงเรียน กระทั่งเวลา 16.00 น.ได้เตรียมไปถอยรถมาจอดรอรับเด็กเพื่อส่งกลับบ้าน พอเปิดประตูรถออกถึงกับตกใจแทบช็อก พบร่างน้องจีฮุนนอนคว่ำหน้าบนพื้นหลังเบาะคนขับ พยายามเขย่าตัวปลุกเรียก แต่น้องไม่ตอบรับ ตอนนั้นยอมรับตกใจทำอะไรไม่ถูก ได้จับขาน้องแล้วเรียกอีกครั้ง แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง รีบไปแจ้งครูคนอื่นๆให้มาช่วยตรวจสอบพบว่าน้องไม่หายใจเสียชีวิตแล้ว
...
ต่อมา น.ส.เมทิกา โกศลปลั่งศรี อายุ 31 ปี และนายไทยอนันต์ ทองอยู่ อายุ 28 ปี แม่และพ่อของน้องจีฮุน พร้อมย่าของเด็กเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ทันทีที่เห็นร่างลูกสาวถึงกับร่ำไห้โฮด้วยความเสียใจ จากนั้นไปแจ้งลงบันทึกประจำวันที่ สภ.พานทอง เพื่อเป็นหลักฐานให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องฐานกระทำการประมาท เป็นเหตุให้ลูกของตนต้องมาเสียชีวิตเพราะความไม่รอบคอบและสะเพร่าของผู้ใหญ่ในครั้งนี้
น.ส.เมทิการ่ำไห้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อตอนเย็นหลังโรงเรียนเลิก มีครูมาหาที่บ้าน มากัน 3 คน มีครูประจำชั้น ครูขับรถรับส่ง และครูพี่เลี้ยง ที่นั่งมากับเด็กๆบนรถ เมื่อมาถึงบ้านก็อ้ำๆอึ้งๆไม่ยอมบอกเรื่องราว แต่ถามกับตนว่าน้องมีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่ มันมีเหตุที่ไม่อยากให้เกิด ตนรีบถามว่ามีเหตุอะไร ตนกลัวเกิดเรื่องไม่ดีกับลูก กลัวว่าลูกจะโดนทำไม่ดี เพราะลูกเป็นผู้หญิงและเรียนชั้น ป.2 ไม่ใช่เด็กแล้ว แต่กลับได้รับคำตอบที่ไม่คาดคิดว่าน้องไม่หายใจแล้ว ตอนนั้นรู้สึกช็อกทำอะไรไม่ถูก แต่ครูทั้ง 3 คนยังไม่ยอมบอกว่าลูกสาวเป็นอะไรเสียชีวิต พยายามเค้นถามอยู่นาน ครูถึงยอมบอกลูกสาวติดอยู่ในรถ สิ่งที่ติดใจตนคือ สงสัยว่าทำไมไม่มีครูคนไหนมองเห็นเด็กเลยหรือกลัวว่าจะไม่ใช่เหตุการณ์เสียชีวิตแบบขาดอากาศหายใจ แต่อาจเป็นการถูกทำร้ายแล้วอำพรางศพหรือไม่
“ตนไม่อยากให้ลูกต้องมาตายฟรี ยืนยันจะเดินหน้าสู้เพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูกสาวอย่างเต็มที่ ตนและสามีอดทนทำงานเหนื่อยยาก ยอมจ่ายค่าเทอมแพงๆได้เรียนที่ดีๆ จ่ายค่ารถรับส่งหวังให้ลูกมาเรียนสบายๆ แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร ยืนยันจะดำเนินการเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้ เพื่อหาความยุติธรรมให้ลูก เพราะตนมีลูกสาวเพียงคนเดียวเลี้ยงดูมาอย่างดี” น.ส.เมทิกากล่าวทั้งน้ำตา
พ.ต.ต.ประเสริฐ กุลบุตรดี สว. (สอบสวน) สภ.พานทอง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ตำรวจจะส่งศพของน้องจีฮุนไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของน้องจีฮุนที่แท้จริง และจะเรียกครูที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป