ไปดูวิธีทำหมึกแห้งแดดเดียวของ "ป้าเต้า" บ้านอ่าวหมู อ.แหลมสิงห์ ทำมากว่า 40 ปีวันนี้ขายเฉลี่ย 500-1,600 บาท/กก.สร้างรายได้ทะลุวันละเงินแสนบาท เพราะธุรกิจท่องเที่ยวบูม พ่อค้ามาซื้อถึงที่บ้าน
วันที่ 20 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพูดถึงการแปรรูปอาหาร จากท้องทะเลในแถบพื้นที่ จ.จันทบุรี มีอยู่หลากหลายรูปแบบ แต่ถ้าให้เลือกระดับตำนาน ก็คงต้องไปหา ”ป้าเต้า” หรือ นางศรีประไพ จตุพร อายุ 67 ปี ผู้ยึดอาชีพการทำหมึกแห้งแดดเดียว ในพื้นที่บ้านอ่าวหมู ต.บางกะไชย อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี มาร่วม 40 ปี ทุกวันป้าเต้ากับชาวบ้านรุ่นราวคราวเดียวกัน จะร่วมทำหมึกตากแห้ง ที่มองว่าง่ายสำหรับมืออาชีพ โดยอุปกรณ์การทำมีเพียงแค่วัตถุดิบที่สำคัญ คือ หมึกกล้วยสด ตัวขนาด 4 นิ้วขึ้นไป มีดปลายแหลม แผงสำหรับตากหมึก และ กะละมังคู่ใจ
...
นางศรีประไพ กล่าวถึงวิธีการทำว่า เริ่มจากนำหมึกสดๆ ที่ซื้อมาจากชาวประมง โดยไม่ผ่านการแช่น้ำแข็ง เพราะหากนำไปดองน้ำแข็งแล้ว เมื่อนำไปตากแดด สีจะไม่สวยและมีกลิ่นรุนแรง ขั้นตอนการทำปลาหมึกแดดเดียวของป้าเต้า คือ นำมาผ่าบริเวณลำตัวและส่วนหัว เพื่อเอาตา ไส้และขี้ออก แต่เทคนิคในการผ่าคือ ต้องระวังอย่าให้ขี้ของหมึกแตก เพราะจะทำให้หมึกสีไม่สวย หลังจากผ่าเอาไส้และขี้หมึกสีดำออกหมดแล้ว ก็นำหมึกล้างด้วยน้ำทะเลให้สะอาด เหตุที่ต้องล้างด้วยน้ำทะเล เพราะนี่ คือ เคล็ดลับในการทำให้หมึกตากแห้ง มีรสชาติที่เค็มพอดี พร้อมกับมีกลิ่นหอม แต่หากนำไปล้างด้วยน้ำจืด ปลาหมึกจะมีกลิ่นเหม็น จากนั้น ก็จะนำมาวางเรียงกันไว้ยังตะแกรง ที่ใช้ตาข่ายมุ้งไนล่อน อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ก่อนนำไปตากแดดเป็นเวลา 1 วัน ก็จะได้หมึกแดดเดียวพร้อมจำหน่าย
ป้าเต้า กล่าวต่อว่า สำหรับ ปลาหมึกที่เห็นนำมาทำเป็นปลาหมึกแห้ง นิยมใช้เป็นปลาหมึกกล้วย เพราะหาได้ง่าย บางครั้งชาวประมงจับมาได้มีปริมาณมาก และไม่สามารถขายได้ทัน ชาวบ้านจึงนำมาแปรรูปทำเป็นปลาหมึกแห้ง เพื่อเป็นการถนอมอาหาร และสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับปลาหมึกได้
"สำหรับลูกค้าก่อนซื้อปลาหมึกตากแห้ง วิธีการเลือกปลาหมึกแห้ง ตามแผงจำหน่ายอาหารทะเล เพื่อการเก็บรักษา เนื้อหมึกต้องไม่แห้งและบางจนเกินไป ถ้าเป็นหมึกเก่าเนื้อจะแห้งและบางมาก ดมดูกลิ่นต้องไม่ฉุนหรือมีกลิ่นเหม็นสาบ ถ้ามีกลิ่นฉุนมากแสดงว่าหมึกเค็ม เช็คดูให้ละเอียดว่าปลาหมึกแห้งนั้นไม่มีราเกาะอยู่ เพราะรานั้นไม่สามารถทำลายได้ด้วยความร้อน ส่วนคราบสีขาวบนหมึกแห้ง คือ คราบแสดงความเค็มของน้ำที่ใช้ล้างปลาหมึก เป็นคราบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่ใช่รา เมื่อซื่อไปแล้วควรทำการเก็บรักษาโดยการแช่ตู้เย็นในช่องแช่แข็ง จะเป็นวิธีที่สามารถเก็บหมึกแห้งไว้ได้นาน ไม่ทำให้หมึกแห้งแดดเดียวเสียและไม่เหม็นหืน" นางศรีประไพ กล่าว
...
ป้าเต้า กล่าวด้วยว่า หมึกกล้วยในปัจจุบันนี้ราคาสูงมาก และมีจำนวนน้อยกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะมีคนซื้อหาเรือเล็กออกมาไดหมึกกันมากขึ้น ปัจจัยที่หมึกมีราคาสูง จากโฮมสเตย์จำนวนมาก ในแถบพื้นที่ป่าชายเลน เพราะมีการให้ราคาของทะเล เพื่อนำไปบริการลูกค้า หมึกปัจจุบันจากราคาเพียงแค่กิโลกรัมละ 50-200 บาท ได้ปรับตัวสูงขึ้นมาเป็นราคา 500-1,600 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว ซึ่งเฉลี่ยทุกวันนี้ทำได้วันละ 200 กิโลกรัม ไม่เหมือนสมัยก่อนที่บางวันทำได้เป็นตันต่อวันด้วยซ้ำ แต่ปลาหมึกสดอาจไม่มีทุกวัน เพราะต้องขึ้นอยู่กับสภาพของทะเล หากมีคลื่นลมแรง หรือพายุ เรือก็ออกทะเลไม่ได้ บางครั้งกว่าคลื่นลมจะสงบต้องเป็นอาทิตย์ ทั้งนี้ การแปรรูปหมึกตากแห้ง แทบไม่ต้องวิ่งหาตลาดเพราะพ่อค้าขาประจำก็จะมาซื้อถึงที่.