สนง.ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง เดินหน้า 2 โครงการเร่งด่วนครึ่งปีหลัง 2563 เพิ่มประสิทธิภาพ ศพก. ระดมสมองเกษตรกร-เจ้าหน้าที่ พัฒนาขบวนการผลิตมุ่งเป้าแปลงใหญ่ อัจฉริยะระดับมืออาชีพการผลิต-การตลาด
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.63 นายดำรงฤทธิ์ หลอดคำ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง (สสก.3) กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2563 ทางกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการในโครงการเร่งด่วนเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกร ในการประกอบอาชีพให้ได้รับการพัฒนามีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น จำนวน 2 โครงการด้วยกัน คือ 1.การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และ 2.การขยายผลงานด้านการพัฒนาการเกษตรแปลงใหญ่
สำหรับสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยองนั้น ในส่วนของโครงการการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ให้เป็นแหล่งเรียนรู้การผลิตสินค้าเกษตรที่ถูกต้องและเหมาะสม สำหรับชุมชนและเป็นศูนย์กลางการบริการและแลกเปลี่ยนความรู้ข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานต่างๆกับเกษตรกรในชุมชน โดยดำเนินการในพื้นที่ของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ สามารถเป็นแบบอย่างให้กับเกษตรกรในชุมชน ในการปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนกิจกรรมการเกษตรที่สำคัญของพื้นที่ ตั้งแต่การผลิต การบริหารจัดการ จนถึงการตลาด โดยทางสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อปรึกษาร่วมกับคณะกรรมการ ศพก.ว่า แต่ละแห่งนั้นมีความประสงค์จะมีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินกิจการ และขยายผลส่งเสริมงานด้านการเกษตรที่ดี และถูกต้องตามหลักวิชาการแก่สมาชิกในพื้นที่ด้านไหนอย่างไรบ้าง แล้วเสนอโครงการขึ้นมาเพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยโครงการใดที่คณะกรรมการเห็นชอบว่าเหมาะสม และควรแก่การดำเนินโครงการฯ ทางกรมส่งเสริมการเกษตรจะอนุมัติงบประมาณเพื่อการดำเนินงานให้ ทั้งนี้เพื่อให้ ศพก.ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าเข้าสู่การเป็น ศพก.อัจริยะในการผลิตทางการเกษตรต่อไปในอนาคต
...
ส่วนประเด็นที่ 2 คือ การขยายผลงานด้านการพัฒนาการเกษตรแปลงใหญ่ ทั้งด้านพืช ด้านสัตว์ และด้านประมง โดยทางรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการพัฒนาเกษตรแปลงใหญ่ในแต่ละชนิด และแต่ละพื้นที่ให้เป็นแปลงใหญ่อัจฉะริยะ เพื่อพัฒนาให้เกษตรกรดำเนินกิจการอย่างมืออาชีพในทุกด้าน ทั้งวิธีการเพาะปลูก การพัฒนาผลผลิต และการจัดการด้านการตลาดอย่างมืออาชีพ
"สำหรับทางภาคตะวันออกมีจำนวน 410 แปลง สมาชิกรวม 18,559 ราย บนพื้นที่ 349,870.25 ไร่ ส่วนใหญ่จะเป็นแปลงใหญ่ไม้ผล โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด ซึ่งปัจจุบันผลผลิตของพืชให้ผลเหล่านี้อย่างในปี 2563 ผลผลิตส่วนใหญ่ออกสู่ตลาดแล้ว เกษตรกรได้รับผลผลิตที่ดีและขายได้ราคาสูงมาก เป็นที่ปลาบปลื้มของเกษตรกรโดยทั่วไป ทั้งนี้จะมีการคัดเลือกคณะกรรมการเครือข่ายแปลงใหญ่ เพื่อเป็นผู้แทนสมาชิกในการขับเคลื่อนการดำเนินงานแปลงใหญ่ ซึ่งมีระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 2 ปี และชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงในปี 2563 จึงต้องคัดเลือกคณะกรรมการชุดใหม่ ทั้งในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับเขตให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2563 เพื่อที่จะแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการระดับประเทศ ในเดือนสิงหาคม 2563 ต่อไป และคณะกรรมการชุดนี้ก็จะมาพูดคุยกันว่า แนวทางในการพัฒนาขบวนการผลิตและการตลาดของแต่ละแปลงใหญ่นั้น จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปบ้างที่จะทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ และเป็นการต่อยอดสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นๆไป ก็ให้เสนอโครงการกันขึ้นมา ขณะนี้ทางสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง กำลังเร่งรัดดำเนินการโดยให้กรรมการแปลงใหญ่เสนอโครงการขึ้นมา ก็เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่ในการเข้าถึงการพัฒนา เพื่อเพิ่มผลผลิตและได้รับผลผลิตที่ดีมีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดต่อไป" นายดำรงฤทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร จัดทำโครงการภายใต้กรอบนโยบายและแผนงานในการขับเคลื่อนการผลิตภาคการเกษตรสู่เกษตรอัจฉริยะ ประกอบด้วยเกษตรแม่นยำเกษตรแปลงใหญ่ เกษตรที่มีมูลค่าสูง อุตสาหกรรมอาหาร Bioeconomy การท่องเที่ยวเชิงเกษตรเน้นคุณภาพ Hospitality Industry และเกษตรเศรษฐกิจสร้างสรรค์