บ.จีนเริ่มผลิตยารักษา ‘ไวรัส’

กองทัพเรือปิดศูนย์กักกันตัวผู้ที่เดินทางกลับจากอู่ฮั่นประเทศจีน เป็นที่เรียบร้อย หลังจากญาติเดินทางมารับผู้ที่ถูกกัก กลับสู่อ้อมอกของครอบครัวและ กลับภูมิลำเนาเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เช้าวันที่ 19 ก.พ. พร้อมแจกของที่ระลึกและอำนวยความสะดวกจัดรถส่งตามจุดต่างๆ ส่วนห้องพักของอาคารรับรองฐานทัพเรือสัตหีบเตรียมดำเนินการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ก่อนเปิดใช้บริการต่อไป ส่วนการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 มีความหวังพบทางสว่างแล้ว เมื่อสำนักงานบริหารผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์แห่งชาติของจีน ให้การรับรองยาต้านไวรัสตัวแรก “ฟาวิลาเวียร์” ใช้รักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังทดสอบการรักษากับผู้ติดเชื้อ 70 คน และได้ผลดี

137 คนไทยที่เดินทางจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่หวั่นกันว่าอาจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาจากเมืองอู่ฮั่นที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสนี้และถูกกักตัวดูอาการอยู่ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ รวม 14 วัน หลังจากเดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านสู่อ้อมอกของครอบครัวแล้วท่ามกลางความดีใจของผู้ถูกกักตัว

ทั้งนี้ ที่อาคารรับรองฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเช้าวันที่ 19 ก.พ. นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี พล.ร.ท.วราห์ แทนขำ ผบ.ฐานทัพเรือสัตหีบ ร่วมส่งคนไทย 137 คนจากเมืองอู่ฮั่น กลับภูมิลำเนา หลังครบระยะเวลาเฝ้าระวัง 14 วัน ตามมาตรฐานสากล โดยทั้ง 137 คนตั้งแต่รับตัวเข้าเฝ้าระวัง ทุกคนสุขภาพแข็งแรงดี ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตั้งแต่แรกรับ มีเพียง 1 ราย มีอาการอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ได้ส่งตัวไปดูแลในห้องแยกที่ รพ.ชลบุรี ขณะนี้อาการดีขึ้นแต่ยังเฝ้าระวังต่อเนื่อง

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การส่งตัว 137 คนไทยกลับบ้านครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกทั้งเรื่องการเดินทางและมอบของฝาก อาทิ กระทรวงสาธารณสุขมอบชุดดูแลสุขภาพ ชุดปฐมพยาบาล เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย คู่มือการปฏิบัติตัวเมื่อกลับบ้าน ของที่ระลึกจากรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กองทัพเรือ มอบของที่ระลึก หมวก กระเป๋า เป้ สัญลักษณ์กองทัพเรือ จังหวัดชลบุรีมอบของฝากประจำจังหวัด อาทิ ปลาเส้น ปลาหมึก เป็นต้น

นายสาธิตกล่าวว่า คนที่มีญาติมารับเดินทางกลับได้ทันที ส่วนคนที่ญาติไม่ได้มารับ กองทัพเรือ อำนวยความสะดวกจัดรถตู้ รถบัสขนาดกลางและขนาดใหญ่ ส่งตามจุดต่างๆ ที่ได้รับการร้องขอ จุดหลักได้แก่ สนามบินอู่ตะเภา สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งเอกมัย และสถานีขนส่งสายใต้

ขณะที่บรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาของ 137 คนไทยเป็นไปอย่างชื่นมื่น เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดีปรีดาที่ได้รับอิสระ โดยทุกคนต่างดีใจพอเห็นหน้าญาติที่มารับก็โผเข้าสวมกอดกันด้วยความคิดถึง บางครอบครัวหลังออกจากฐานทัพเรือสัตหีบแล้ว ก็พากันไปเที่ยว หรือไปหาอาหารอร่อยๆในจังหวัดชลบุรีรับประทาน นับเป็นการจบภารกิจส่งคนไทยกลับบ้านที่น่าประทับใจ ส่วนห้องพักที่ใช้กักตัว 137 คนไทยนั้นจะจ้างให้บริษัทเอกชนมาทำความสะอาดพร้อมฆ่าเชื้อและเปิดให้อากาศถ่ายเทเป็นเวลา 3 วันก่อนจะเปิดใช้บริการ

ที่ รพ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 5 นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ นพ.นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผอ.รพ.หัวหิน แถลงถึงความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอหัวหิน 2 ราย รายแรกคือหญิงชาวจีน อายุ 74 ปี ที่รักษาตัวใน รพ.หัวหินและถูกส่งไปรักษาที่ รพ.ราชวิถีจนหายและออกจาก รพ.ไปแล้ว รายที่ 2 เป็นชายอายุ 45 ปี ที่ได้รับเชื้อจากการใกล้ชิดหญิงชาวจีนรายแรกปัจจุบันหายป่วยแล้ว ขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมั่นใจว่าจังหวัดประจวบฯ มีมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เต็มที่และสามารถควบคุมการเกิดโรคได้

ส่วนที่ รพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รศ.นพ.พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รศ.นพ. เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ ผอ.รพ.สงขลานครินทร์ และ รศ.นพ.ศรัญญู ชูศรี ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายโรงพยาบาล ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับผู้เฝ้าระวังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดย รศ.นพ.พุฒิศักดิ์กล่าวว่า รพ.สงขลานครินทร์มีผู้ป่วยเฝ้าระวัง 1 ราย และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเบื้องต้นไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19

...

ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ช่วงเช้า เรือสำราญขนาดใหญ่ชื่อ “มาเรลล่า ดิสคัพเวอรี่” เดินทางมาจากสิงคโปร์ แวะจอดเทียบท่าที่ อ.เกาะสมุยและจะไปแวะเทียบท่าที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ต่อในวันที่ 20 ก.พ. เรือลำดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวจำนวน 1,578 คนเป็นชาวยุโรป เจ้าหน้าที่ประจำเรือ 769 คน เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศสมุย เจ้าหน้าที่ รพ.เกาะสมุย สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย ด่านตรวจคนเข้าเมืองเกาะสมุยและเจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จ.สุราษฎร์ธานี ได้ตั้งจุดคัดกรองกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวที่จะขึ้นฝั่งมาเที่ยวเกาะสมุยด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนไม่พบผู้ป่วยจึงอนุญาตให้ขึ้นมาท่องเที่ยวบนเกาะสมุยได้

ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยว่า จนถึงวันที่ 19 ก.พ. สถานการณ์ค่อนข้างคงตัว ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มคงมีอยู่เท่าเดิมคือ 35 ราย รักษาตัวใน รพ. 18 ราย กลับบ้านแล้ว 17 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อในภาวะวิกฤติ 2 ราย อาการโดยรวมคงที่ ไม่มีไข้ ทีมแพทย์ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด ไทยมีบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ 1 ราย โดยการรักษาอาการอยู่ในระดับที่ดีขึ้นในประเทศจีนมีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 1,700 ราย เสียชีวิต 6 ราย เป็นแพทย์ที่ให้การรักษา 2 ราย

นพ.โสภณกล่าวด้วยว่า กรมควบคุมโรคและกรมการแพทย์ ได้ร่วมมือกันจัดประชุมทีมงานเครือข่ายการป้องกันผู้ติดเชื้อในโรงพยาบาล ซักซ้อมมาตรการป้องกันเฝ้าระวังในโรงพยาบาล ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบในต่างประเทศ ส่วนกรณีที่นักวิชาการต่างชาติ เป็นห่วงว่าไทยจะปิดบังข้อมูลสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ยืนยันว่า ไทยไม่มีการปกปิดข้อมูล ไทยเป็นประเทศแรกๆ ที่ออกมาตรการคัดกรองผู้ป่วยทั้งที่สนามบิน สถานพยาบาล ก่อนประเทศอื่นๆ และยังเป็นประเทศแรกที่ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกประเทศจีน

...

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ฝากความห่วงใยไปยังบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย ขอให้ดูแลสุขภาพและสุขอนามัยตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยและเตือนประชาชนทั่วไป ให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยนายกฯกำชับเป็นพิเศษถึงการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

ที่รัฐสภา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การท่องเที่ยว สภาฯรับยื่นหนังสือจากนายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้า จ.ภูเก็ต พร้อมตัวแทนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่เพื่อนำเสนอข้อเสนอแนะของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จ.ภูเก็ต และภาคเอกชน จ.ภูเก็ต ในช่วงวิกฤตการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต และกลุ่มจังหวัดอันดามัน จึงต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกภาคส่วนอย่างเร่งด่วน เช่น ขอให้ธนาคารผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยให้มีการพักการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยออกไปอย่างน้อย 12 เดือน หรือขอให้ธนาคารให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและสภาพคล่องแก่ลูกหนี้ที่รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพ หรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยอนุมัติเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ

ที่โรงแรมดอนจันทร์ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ หารือทวิภาคีกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและ รมว.ต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน นายดอนกล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ประชาคมอาเซียนกับจีนได้มาหารือถึงความร่วมมือเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หวังว่าการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-จีน สมัยพิเศษในวันที่ 20 ก.พ. จะเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาคและประชาคมโลก ขณะที่นายหวัง อี้ กล่าวว่า ขอบคุณไทยที่เป็นประเทศแรกๆให้การสนับสนุนจีน เปรียบเป็นมิตรแท้ในยามยาก ความสามัคคีในประชาคมอาเซียนจะทำให้ผ่านพ้นสถานการณ์อันเลวร้ายไปด้วยกันในเร็วๆนี้

...

วันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เผยแพร่ความคืบหน้ามาตรการของอิสราเอล ในการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล ประกาศให้ผู้ที่เดินทางมาจากไทย สิงคโปร์ ฮ่องกงและมาเก๊า ต้องถูกกักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วันหลังเดินทางถึงอิสราเอล ขณะที่หน่วยงานประชากรและตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทยอิสราเอลก็ได้ออกประกาศปฏิเสธการเดินทางเข้าอิสราเอลของบุคคลทุกสัญชาติที่เคยเดินทางมาไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเก๊า ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ยกเว้นผู้ถือสัญชาติอิสราเอล หรือมีถิ่นพำนักในอิสราเอล ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามสถานการณ์เรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ติดต่อสอบถามได้ที่โทรศัพท์ +972 9 954 8412, +972 9 954 8413 หรือ +972 54 636 8150

ส่วนสถานการณ์ที่ประเทศจีน เว็บไซต์ นสพ.ไชน่าเดลี ของจีน เว็บไซต์ข่าว “ซากิแซก” (SAGISAG) ของฟิลิปปินส์ สำนักข่าว “ยูไนเตด เพรส อินเตอร์แนชนัล” (UPI) ของสหรัฐฯ รายงานว่า สำนักงานเวชภัณฑ์แห่งชาติของจีน อนุญาตให้บริษัทเจ้อเจียง หือซุน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ในมณฑลเจ้อเจียง ผลิตยาต้านไวรัส ชื่อว่า “ฟาวิลาเวียร์” (Favilavir) เพื่อใช้รักษาผู้ติดไวรัสโควิด-19 เป็นครั้งแรกแล้ว หลังผลทดสอบทางคลินิกและทดลองรักษาผู้ป่วยติดไวรัสโควิด-19 ในเมืองเสิ่นเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง จำนวน 70 คน ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และบริษัทเจ้อเจียงฯ เริ่มผลิตยาฟาวิลาเวียร์ในปริมาณมาก เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการแล้ว

โดยยังมียาอีก 2 ขนาน ที่อยู่ระหว่างทดสอบรักษาผู้ติดไวรัสโควิด-19 และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ คือ “เรมเดซิเวียร์” (Remdesivir) ของบริษัทยาจีลีด (Gilead) ของสหรัฐฯ เบื้องต้นพัฒนาเพื่อรักษาผู้ติดไวรัสอีโบลา และมีรายงานใช้รักษาชาวอเมริกันที่ติดไวรัสโควิด-19 รายหนึ่งหายเป็นปกติ แต่ยังอยู่ระหว่างทดลองทางคลินิกและยังไม่ได้รับอนุญาตใช้รักษาทั้งไวรัสโควิด-19 หรืออีโบลา ส่วนทีมแพทย์ในเกาหลีใต้ ใช้ยาสูตรผสมรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ “โลพินาเวียร์” กับ “ริโทนาเวียร์” (Lopinavir-Ritonavir) หรือชื่อทางการตลาดคือ “คาเลทรา” (Kaletra) รักษาผู้ป่วยวัย 54 ปี จนหายขาดจากไวรัสโควิด-19 แต่ไม่แน่ชัดว่าเกาหลีใต้อนุมัติให้ใช้เป็นทางการแล้วหรือไม่

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน แถลงยอดผู้เสียชีวิตรายใหม่ 136 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,749 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 2,004 คน ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 74,185 คน ผู้เสียชีวิตและติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย พื้นที่พบระบาดครั้งแรกและยังมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในอีก 28 ประเทศ อีกประมาณ 700 คน โดยญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกประเทศจีนมากที่สุด จำนวน 621 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารบนเรือสำราญ “ไดมอนด์ ปริ๊นเซส” ถูกกักกันโรคที่เมืองโยโกฮามา ใกล้กรุงโตเกียวตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. โดยผู้ที่ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 หลายร้อยคน ได้รับอนุญาตให้ออกจากเรือลำนี้ได้

ทางการท้องถิ่นเมืองอู่ฮั่นส่งผู้ตรวจสอบแต่งชุดป้องกันโรคลงพื้นที่กระจายสำรวจตามบ้านและที่พักอาศัยอื่นๆ ค้นหาผู้ติดไวรัสโควิด-19 ที่อาจเล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่หรือไม่ยอมไปรักษาตัวจนอาจแพร่เชื้อสู่คนอื่นได้อีก นายหวัง จ้งหลิน เลขานุการพรรคคอมมิวนิสต์คนใหม่ประจำมณฑลหูเป่ย ระบุว่า เรื่องนี้ต้องทำอย่างจริงจัง ถ้าพบผู้ติดไวรัสโควิด-19 รายใหม่แม้แต่คนเดียว หลังพ้นวันที่ 19 ก.พ. เจ้าหน้าที่ระดับผู้นำเขตต้องรับผิดชอบ