คุมตัวฆาตกรเหี้ยมทำแผน แม่โต้นิติเวชคาใจผลผ่าศพ ร้อง‘หมอพรทิพย์’ตรวจซํ้า

แม่น้องแก้มเหยื่อฆาตกรเลือดเย็นมั่นใจลูกถูกจับโยนลงรถทั้งที่ยังมีลมหายใจ เพราะ สภาพที่พบศพครั้งแรกหญ้าถูกแหวกเป็นร่องคล้ายกับกระเสือกกระสนหวังขอความช่วยเหลือ พร้อมวิงวอนให้ “หมอพรทิพย์” ผ่าศพพิสูจน์หาความเป็นธรรม อีกทั้งไม่เชื่อว่าฆาตกรมีคนเดียว ต้องมีมากกว่า 1 คน ช่วยกันจับน้องแก้มโยนลงรถไฟอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต ขณะที่ “ประภัสร์” ย้ำไม่ลาออกจากผู้ว่าการ รฟท. เพราะต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดโดยเฉพาะการพิจารณาคนเข้าทำงานต้องไม่มีเด็กเส้น เด็กฝาก แต่ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เตรียมพิจารณาตำแหน่งของผู้ว่าการ รฟท.แล้ว

จากคดีช็อกและสะเทือนขวัญสังคม กรณีน้องแก้ม อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสตรีนนทบุรี ถูกฆาตกรโหด คือนายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปีพนักงานการรถไฟ ข่มขืนฆ่าแล้วโยนร่างของเหยื่อลงจากขบวนรถไฟตู้นอน ขบวนรถเร็วที่ 174 สาย นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ในท้องที่หมู่ 1 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อย่างเลือดเย็นกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ และหลังรับสารภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถนำตัวไปคุมขังที่ สภ.ปราณบุรีหรือทำแผนได้ เนื่องจากกลุ่มญาติของเหยื่อและประชาชนทั่วไปต่างโกรธแค้นผู้ต้องหารอรุมประชาทัณฑ์ ขณะเดียวกัน กระแสสังคมต่างเรียกร้องให้คนร้ายที่ก่อคดีข่มขืนต้องถูกประหารชีวิตสถานเดียว

ดอดคุมตัวทำแผนตั้งแต่เช้ามืด

ต่อมาเวลา 06.15 น. วันที่ 9 ก.ค. พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกำลังตำรวจ สภ.ปราณบุรี คุมตัวนายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี พนักงานปูเตียงบนรถไฟขบวนนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาคดีข่มขืนฆ่า ด.ญ.แก้มไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่สถานีรถไฟวังก์พง ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี เริ่มจากตู้นอนโบกี้รถไฟที่ใช้ก่อเหตุ โดยนายวันชัยให้การรับสารภาพว่า ได้เฝ้ามองน้องแก้มมาตลอด ตั้งแต่ขึ้นรถไฟที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ช่วงการก่อเหตุรถไฟวิ่งระหว่างทับสะแก-ประจวบคีรีขันธ์ สบจังหวะที่น้องแก้ม นอนหลับได้เข้าบีบคอ ปิดปาก และต่อยที่ท้องก่อนลงมือข่มขืนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง

...

โยนร่างเหยื่อทิ้งทั้งที่มีลมหายใจ

นายวันชัยกล่าวด้วยว่า จากนั้นโยนเสื้อผ้าของเหยื่อทิ้งลงทางหน้าต่าง พอหันมาเจอน้องแก้มยังนอนหลับไม่ได้สติอยู่ก็เกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้งจึงลงมือข่มขืนเป็นครั้งที่สอง ขณะนั้นน้องแก้มยังไม่เสียชีวิต แต่เกรงว่าน้องแก้มจะบอกญาติเลยกลัวความผิด จึงตัดสินใจยกร่างน้องแก้มขึ้นพาดกับหน้าต่างโยนลงหน้าต่างแล้วรื้อกระเป๋าเป้ได้แท็บเล็ต 1 เครื่อง และโทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง หลังก่อเหตุ ได้กลับไปโบกี้ที่พักพนักงานที่อยู่ติดกัน โดยทำทีไปนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วน พล.ต.ต.ธเนษฐ กล่าวว่า คดีนี้รักษาการ ผบ.ตร.ได้เร่งรัดดำเนินคดีส่งฟ้องศาลให้เสร็จภายใน 7 วัน เพื่อให้สังคมได้รับทราบว่าผู้กระทำความผิดได้รับโทษขนาดไหน เพราะ กระแสสังคมกดดันมาก ขอยืนยันว่าพยานหลักฐานครบหมดแล้ว และจะฝากขังที่ศาลจังหวัดหัวหินต่อไป

ว่าความให้ฟรีครอบครัว “น้องแก้ม”

นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ กล่าวว่า ครอบครัวของน้องแก้มได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างแสนสาหัส ดังนั้น การเยียวยาเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งนับว่าจะเป็นการทดแทนความเสียหายได้บ้าง ขณะเดียวกัน หากมีการฟ้องคดีนี้ทางอาญา หากสภาทนายความมีโอกาสเข้าร่วมทำงานกับอัยการเชื่อว่าคดีจะมีความรัดกุมมากขึ้นในเรื่องการเสนอพยานหลักฐาน ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ครอบครัวน้องแก้ม สภาทนายความยินดีเข้าช่วยเหลือโดยคดีอาญาจะรับเป็นทนายโจทก์ร่วมเมื่ออัยการยื่นฟ้อง ส่วนคดีแพ่งจะรับเป็นทนายความช่วยเหลือทางคดีความให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและจะว่าความให้จนคดีถึงที่สุด

ยืนยัน รฟท.ต้องรับผิดชอบ

นายเดชอุดมกล่าวว่า คดีนี้ในส่วนแพ่งถือว่าเป็นคดีคุ้มครองผู้บริโภค เพราะผู้เสียหายได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากการให้บริการขนส่งสาธารณะ คือนั่งรถไฟแล้วไม่ปลอดภัย เมื่อเหตุภยันตรายเกิดขึ้นบนรถไฟ การรถไฟต้องรับผิด โดยแม่น้องแก้มต้องให้ทนายรับฟังข้อเท็จจริงเพื่อรวบรวมหลักฐานแล้ว สภาทนายจะฟ้องศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะ ค่าเสียหายทางจิตใจ พร้อมดอกเบี้ยตั้งแต่วันเกิดเหตุจนกว่าจะชำระเสร็จ

สั่งล้อมคอกเพิ่มการตรวจรถไฟ

ที่ บก.รฟ. พล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผบก.รฟ. ได้เรียกประชุมระดับรอง ผบก.และ ผกก.ในสังกัด บก.รฟ. เพื่อหามาตรการป้องกันเหตุคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสาร พล.ต.ต.ธนังค์กล่าวว่า มีคำสั่งปรับวิธีการทำงานของเจ้าหน้าที่สายตรวจรถไฟให้เพิ่มความถี่ในการขึ้นตรวจขบวนรถไฟที่วิ่งในเส้น ทางสถานีรับผิดชอบและแสดงตัวเจ้าหน้าที่สายตรวจเพื่อให้ประชาชนได้เห็นกรณีที่มีความเดือดร้อนและ มีเหตุเกิดขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางซึ่งที่ผ่านมาได้มีการกำชับในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่จำนวนสถิติคดีอุกฉกรรจ์ไม่ค่อยเกิดขึ้นบนขบวนรถไฟทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้มงวดเต็มที่ “ขบวนรถไฟที่เกิดเหตุไม่มีตำรวจรถไฟประจำขบวนเหมือนขบวนอื่น ปกติการจัดกำลังสายตรวจแบ่งเป็น 2 แบบ คือขบวนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟประจำและขบวนที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟประจำ แต่จะใช้กำลังสายตรวจทุกสถานีหมุนเวียนขึ้นไปตรวจบนขบวนรถไฟเพื่อสอบถามผู้โดยสารหากมีเหตุขอความช่วยเหลือหรือมีคดีเกิดขึ้นกับผู้โดยสาร” พล.ต.ต.ธนังค์กล่าว

ตำรวจรถไฟสูญเสียกำลังใจ

ผบก.รฟ.กล่าวด้วยว่า อยากชี้แจงว่าในอดีตที่ผ่านมาแต่ละโบกี้ของรถไฟนั้น นอกจากตำรวจรถไฟแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟร่วมดูแลด้วย ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญและทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแม้จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ให้ดูแลแต่ละขบวนรถไฟได้อย่างทั่วถึง แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะช่วยป้องกันเหตุอาชญากรรมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับปรุงที่ระบบ อาทิ การติดตั้งกล้องวงจรปิดบนรถไฟและให้ตำรวจที่ปฏิบัติงานบนรถไฟเป็นศูนย์กลางในการตรวจสอบ ยอมรับว่าคดีของน้องแก้ม กระแสสังคมมองว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ซึ่งส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ต้องเร่งเรียกขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่กลับคืนมาดังเดิม

...

อุบกันเงียบข่มขืนมาแล้ว 2 ราย

มีรายงานว่า ชุดสืบสวน กก.สด.บช.น.ได้สอบสวนขยายผลนายวันชัย แก้วขาว ผู้ต้องหารับว่าเคยมีการก่อคดีข่มขืนบนขบวนรถไฟสายดังกล่าวในช่วงก่อนที่จะมาก่อคดีข่มขืนและฆ่าน้องแก้ม โดยหนึ่งในผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อทางเพศของนายวันชัย เป็นพนักงานหญิงของการรถไฟแห่งประเทศไทยประจำตู้เสบียงอาหาร โดยเหตุเกิดภายในห้องน้ำของตู้เสบียง แต่คดีนี้ได้ไกล่เกลี่ยยอมความไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดี และมีการปิดเรื่องกันภายใน แต่เป็นที่รู้กันจนขนาดมีเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วรถไฟขบวนสุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ ได้แจ้งกับผู้โดยสารที่มากับเด็กผู้หญิงให้ใช้วิธีซื้อตั๋วตู้นอนร่วมกันไม่ให้แยกเด็กไปนอนต่างหาก โดยเฉพาะชั้นบนตู้นอนแต่ไม่ได้บอกเหตุผล จนทำให้ผู้โดยสารหลายคนสงสัย จนกระทั่งเกิดคดีน้องแก้มทำให้ผู้โดยสารเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่รู้กันในกลุ่มเจ้าหน้าที่รถไฟ

ค้นหลักฐานบ้านพักผู้ต้องหา

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.กก.ดส.9 พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ ผกก.สน.สามเสน พ.ต.ท.แมน เม่นแย้ม รอง ผกก.กก.ดส. พ.ต.ท.สาโรจน์ จอกโคกสูง สว.งานสืบสวนตรวจตรา กก.ดส. พ.ต.ต.ยศนันท์ ฤกษนันทน์ สว.งานกิจกรรมเด็ก เยาวชน กก.ดส. และเจ้าหน้าที่กองกำกับการเด็กและสตรี สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักนายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี ที่บ้านเลขที่ 491 ภายในซอยสามเสน 28 แยกองค์รักษ์ 15 แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต กทม. ซึ่งเป็นห้องพักชั้นเดียวมีจำนวน 4 ห้อง บนเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด

พบอุปกรณ์เสพยานรก 4 อัน

ในบ้านพบนายวินัย หรือโก้ แสงขาว อายุ 19 ปี น้องชายนายวันชัย ดูแลทั้ง 4 ห้อง โดยบอกว่า ห้องนายวันชัยที่ใช้เป็นห้องนอนนั้นอยู่ห้องที่ 2 นับจากทางขวา จึงแจ้งให้ทราบและตรวจค้นห้องนาย วันชัย ผลปรากฏในห้องนายวันชัยพบของกลางสายไฟชาร์จไอโฟน 2 เส้น โน้ตบุ๊กยี่ห้อโตชิบา จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์ไอโฟน รุ่น 4 เอส จำนวน 1 เครื่อง เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า นายวันชัย รวม 10 รายการ จึงยึดไปตรวจสอบ ส่วนในห้องที่ 4 นั้น นายวินัยแจ้งว่า ไม่มีคนภายนอกมาพักโดยใช้เป็น ห้องเก็บของ ตำรวจจึงขอเข้าไปตรวจค้น พบอุปกรณ์เสพยาบ้า ยาไอซ์ 4 อัน บ้องสูบกัญชาทำจากไม้ไผ่ 1 อัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไปตรวจสอบ

...

น้องแฉ “วันชัย” เป็นคนเก็บกด

จากการสอบสวนนายวินัย หรือโก้ แสงขาว อายุ 19 ปี ให้การว่า บ้านพักดังกล่าวเป็นบ้านพักของเจ้านายพ่อ ที่พ่อไปขับรถให้ ส่วนแม่เป็นแม่บ้านที่บ้านเจ้านายคนเดียวกัน เจ้านายจึงให้มาพักอาศัย ซึ่งอยู่อาศัยมาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว สำหรับนายวันชัย เป็นคนโลกส่วนตัวสูง เป็นคนเก็บกด ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว เนื่องจากมักจะถูกพ่อกับแม่ต่อว่าเป็นประจำ เพราะไม่ค่อยทำงานอะไร ติดยาบ้าและเคยถูกจับแต่ไม่ยอมไปบำบัด ส่วนการเรียน ปวส.ที่ย่านดุสิตก็ไม่จบ โดยปกตินายวันชัยอยู่กับแฟน ชื่อ น.ส.ศรสวรรค์ หรืออาย คำเลิศ อายุ 19 ปี ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่มักทะเลาะลงไม้ลงมือกันด้วยเรื่องหึงหวง หากนายวันชัยเมายาจะทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง จนตนเบื่อที่จะเข้าไปห้ามปราม อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจว่าพี่ชายเป็นคนก่อเหตุจริง แต่แปลกใจว่าไม่น่าจะโหดขนาดนั้นเพราะแม้แต่หมาพันธุ์บางแก้ว อายุ 2 ปี ที่เลี้ยงไว้พี่ชายยังไม่เคยเตะเลยด้วยซ้ำ จึงคิดว่าจะมีคนอื่นร่วมลงมืออีกหรือไม่

น้องชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ด้าน พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า การตรวจค้นต้องการเก็บหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบเพิ่มเติม ซึ่งมีทรัพย์สินหลายรายการที่ทางญาติของน้องแก้มได้ให้ข้อมูลไว้ว่ายังสูญหายไป ตอนนี้ได้กลับคืนมาเพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งสายชาร์จโทรศัพท์ไอโฟน ที่พบในบ้านหลังนี้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ต้องรอเอาไปตรวจสอบก่อนว่าใช่ของเจ้าทุกข์หรือไม่ หรืออาจเป็นไปได้ว่าผู้ต้องหาขว้างหรือทำลายระหว่างรถไฟวิ่งก็เป็นได้ โดยหลักฐานที่ยึดได้ทั้งหมดจะตรวจสอบว่ามีสิ่งใดสอดคล้องกับคดีฆ่าข่มขืนหรือไม่ และจะส่งไปประกอบในการฟ้องต่ออัยการและศาลต่อไป “การตรวจค้นครั้งนี้มุ่งเน้นขยายผลเรื่องคดีฆ่าข่มขืน ส่วนนายวินัยน้องชายผู้ต้องหาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่นายวินัยควรให้การในเรื่องทรัพย์สินที่เป็นความจริงซึ่งจะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง” รอง ผบช.น.กล่าว

...

แจงเบื้องหลังรวบตัวหื่นมหาภัย

ภายหลัง พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น.ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงเบื้องหลังการจับกุมนายวันชัย แสงขาว ว่า สาเหตุที่ บช.น. เข้าไปทำคดีเนื่องจาก พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส.บช.น. ดูแลเกี่ยวกับคดีเด็กและสตรีรวมทั้งมีญาติของน้องแก้มเป็นตำรวจ นรต.รุ่นเดียวกับ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิจึงได้เข้าไปทำงานโดยตั้งทีมขึ้นมาเองหลังจากญาติแจ้งความ เริ่มต้นทำงานโดยเริ่มจากซักถามญาติพี่น้องว่า รายละเอียดในการเดินทางมาเป็นอย่างไรและไปกับใครบ้าง ที่สำคัญสอบถามเรื่องทรัพย์สิน ใครซื้อตั๋วมีคนแนะนำหรือไม่ว่านั่งตรงไหน โดยกลุ่มน้องที่เสียชีวิตค่อนข้างหน้าตาดีและสะดุดตา จากการสอบถามทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมชอบมองจึงเริ่มสืบสวนจากสถานที่เกิดเหตุทั้งพยาน หลักฐาน บุคคลว่ามีหรือไม่ จากนั้นเริ่มสอบจากทรัพย์สินของเหยื่อที่หายไป

ตามสืบจากไอโฟน 5 ของผู้ตาย

พล.ต.ต.ฐิติราชกล่าวต่อว่า เหตุที่เกิดเป็นคืนวันที่ 5 ก.ค. ต่อเนื่องวันที่ 6 ก.ค. จากการตรวจสอบทางเทคนิคในที่สุดก็ได้ไอโฟน 5 ของผู้ตาย โดยพบว่าไปอยู่ที่ร้านโทรศัพท์แห่งหนึ่งย่านศรีย่าน จึงเชิญตัวเจ้าของร้านพร้อมตรวจสอบกล้องซีซีทีวีและได้เอกสารหลักฐานสำคัญจากทางร้าน กระทั่งนำไปสู่การติดตามจับกุมนายวันชัย โดยไอโฟน 5 ถูกนำมาขายตอนกลางวันวันที่ 6 ก.ค. จากการสืบสวนทราบว่าที่ผ่านมานายวันชัยจะนำโทรศัพท์หรือไอแพด มาขายที่ร้านนี้บ่อยๆ โดยมากับเพื่อนอีกคนหนึ่งอายุไล่เลี่ยกันแต่ค่อนข้างสูงแต่ระยะหลังหายไปประมาณ 1 เดือน นายวันชัยขายโทรศัพท์ไอโฟน 5 ของน้องแก้มในราคา 1,800 บาท

เพื่อนของ “วันชัย” นำแท็บเล็ตมาคืน

ภายหลัง พ.ต.อ.นภันต์วุฒินำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนอ้างว่าเก็บโทรศัพท์ได้บนรถไฟจึงนำไปขายและไม่รู้เรื่องในที่เกิดเหตุ ชุดจับกุมต้องใช้เวลาสอบระยะหนึ่งพร้อมนำหลักฐานมามัดตัวจึงยอมสารภาพ ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีคนนำแท็บเล็ตของน้องแก้มไปคืนที่ สน.นพวงศ์จึงให้ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ ตรวจสอบและเรียกตัวผู้ที่นำมาคืนมาสอบสวนว่าเป็นใคร ได้ของมาจากไหน ของน้องจริงหรือไม่พร้อมให้ไปตรวจสอบที่โรงเรียนด้วยว่าเป็นแท็บเล็ตที่ได้รับแจกจากทางโรงเรียนหรือไม่ ภายหลังตรวจสอบแล้วทราบว่าคนที่นำมาคืนคือเพื่อนของนายวันชัยโดยนำแท็บเล็ตส่งมอบคืนผ่าน ร.ต.ท.ยุทธภัณฑ์ คำแก้ว พนักงานสอบสวน สน.นพวงศ์ โดยแท็บเล็ตดังกล่าวนั้นเป็นของน้องแก้มที่หายไปในวันเกิดเหตุและเมื่อช่วงบ่ายของวันเดียวกันพนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางมารับแท็บเล็ตไปตรวจสอบและส่งพิสูจน์ เพื่อหาความเชื่อมโยงของคดีสะเทือนขวัญนี้ต่อไป

แม่ขอบคุณตำรวจปิดคดีได้เร็ว