เจ้าหนี้โหด ยิงสาวใหญ่ดับต่อหน้าลูก จับตัวประกันที่นครปฐม ยิ้มตอบสื่อ บอกขอโทษผู้เสียหาย อ้างเป็นอารมณ์ชั่ววูบ
วันที่ 25 เมษายน 2568 จากกรณีที่ นายนิวัฒน์ ช่างเรือนกุล หรือ แชมป์ อายุ 33 ปี แต่งกายสวมชุดไรเดอร์ ก่อเหตุบุกยิง นางสาววลัยพร สรพรม อายุ 42 ปี ต่อหน้าลูกชายวัย 12 ปี ที่หน้าห้องแห่งหนึ่งใน ต.วังตะกู อ.เมือง จ.นครปฐม จนเสียชีวิต และได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ไปจับหญิงคนหนึ่งเป็นตัวประกัน ซึ่งเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ที่ซอยนักบุญเปโตร ย่านอ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการไกล่เกลี่ยเจรจาอยู่พักใหญ่ และเชิญแม่ของมือยิงมาพูดคุย กระทั่งยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงบ่ายวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา และได้ถูกควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำที่ สภ.เมืองนครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คนร้ายก่อเหตุยิงหญิงวัย 42 ปี ถึงแก่ความตาย ท่ามกลางความสนใจของประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ซึ่งหลังจากถูกควบคุมตัว นายนิวัฒน์ หรือ แชมป์ อายุ 33 ปี มือปืน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำที่ห้องสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐมราว 3 ชั่วโมงกว่า จึงได้มีการนำตัวออกมาขณะที่สื่อมวลชนรอถือไมค์สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวได้ยิ้มและบอกว่าได้พูดทุกสิ่งทุกอย่างกับทางเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว ซึ่งสื่อมวลชนได้ถามว่าสามารถพูดอีกได้หากอยากจะพูด โดยมือยิงยังยิ้มได้ต่อ และพูดว่าต้องขออภัยกับผู้เสียหายด้วย
จากนั้นได้เดินมาพบกับมารดาที่มารอพบอยู่ที่ด้านหน้าซึ่งได้มีการยกมือขอโทษและมีการพูดคุยกันเล็กน้อยถึงความเป็นห่วงซึ่งกันและกันโดยมีน้องชายและญาติเข้ามาสวมกอดก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปที่ห้องขังชั้นสองบนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม เพื่อทำการเตรียมสอบปากคำเพิ่มเติมในวันถัดไป
...
นางแวว (นามสมมติ) มารดาของนายนิวัฒน์ หรือ แชมป์ อายุ 33 ปี บอกว่าปมประเด็นในการก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งมีคำถามว่าผู้ตายได้มายืมเงินของลูกชายไปประมาณ 1.5 แสนบาท นั้นเป็นความจริงหรือไม่ซึ่งนางแววบอกว่าเพิ่งทราบว่ามีการยืมเงินกันไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นยอดเท่าไหร่ซึ่งหากเป็นจริงยอด 150,000 บาท คงจะไม่ได้ยืมครั้งเดียวไปทั้งหมดน่าจะยืมไปหลายครั้งซึ่งคิดว่าลูกชายก็น่าจะมีเงินเก็บพอสมควร เพราะเห็นเขาทำอาชีพไรเดอร์ ก็บอกว่ามีรายได้วันละ 1,000 กว่าบาท
ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นเขาประหยัดมาก กินทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและไข่เป็นอาหารประจำ ซึ่งตนเองกับลูกชายได้แยกกันอยู่เขาไปหาสามสี่วันครั้งแล้วก็จะซื้อของไปฝาก ซึ่งตอนนี้รายละเอียดก็ยังไม่ทราบอะไรมากนักที่จะบอกข้อมูลได้ก่อนขอตัวไปดูลูกชายอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าจะมีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตอบว่าผู้ต้องหาได้มีการถูกควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปแล้ว ส่วนศพของผู้ตายทราบว่ายังจะต้องมีการรอไปทำการประกอบพิธีทางศาสนากับทางครอบครัว ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นทางจังหวัดกาญจนบุรีต่อไป ซึ่งตอนนี้ยังจะต้องมีการสอบปากคำมือยิงอย่างละเอียดว่าสาเหตุการก่อเหตุที่แท้จริงอีกครั้งก่อนส่งฝากขังในชั้นศาลต่อไป
สำหรับมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ ตำรวจเผยว่า นายแชมป์ ผู้ต้องหา แค้นผู้ตายที่นำเงิน 150,000 บาทไป โดยผู้ต้องหาอ้างว่า ทางผู้ตายบอกจะนำไปลงทุน แล้วนำเงินดอกเบี้ยมาผ่อนจ่ายให้ แต่นายแชมป์มองว่าถ้าผู้ตายนำเงินไปปล่อยต่อจริง ตนเองก็ควรที่จะได้ส่วนแบ่งบ้าง และได้รู้ว่าผู้ตายมีการทำลักษณะเช่นนี้กับคนอื่นเหมือนกัน จึงไม่พอใจพยายามตามทวงหลายครั้ง และตัดสินใจก่อเหตุ ส่วนที่จับตัวประกันนั้น ยืนยันว่าไม่ได้แอบชอบ แค่จะจับมาปรึกษาเท่านั้น