หนุ่มสูงวัยเจ้าของบ้านเช่าคลั่งกราดยิงผู้เช่ายกครัวตาย 3 ศพ และ ด.ญ.วัย 7 ขวบเจ็บอีก 1 คน แล้วยิงตัวตายตามรวมผู้เสียชีวิต 4 ศพ หลังเจ้าของบ้านแอบคบหาเชิงชู้สาวกับเมียคนที่มาเช่าบ้านคอยดูแลส่งเสียเลี้ยงดูเป็นประจำและให้ยืมเงิน ภายหลังฝ่ายหญิงไม่คืนเงินและยังนำเรื่องไปฟ้องอดีตเมีย ฉุนเก็บความแค้นนั่งก๊งเหล้าบ้านกำนัน กลับบ้านหยิบปืนกระหน่ำยิงจนกระสุนหมดแม็กแล้วเปลี่ยนใหม่ยิงต่อรวม 16 นัด ก่อนปลิดชีพตัวเอง

เหตุเจ้าของบ้านเช่าคลั่งกราดยิงยกครัว 4 ศพ แล้วยิงตัวตายตามรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 25 พ.ย. พ.ต.ท.ประสิทธิ์ เมฆษา สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตภายในซอยเทศบาลบางปู 2/2 (หลังฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ) ต.ท้ายบ้าน ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าชั้นเดียวไม่มีเลขที่ ปลูกติด ถนนไม่มีรั้วกั้น บริเวณเพิงพักข้างบ้านพบผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย ศพแรกทราบชื่อนายวาสนา ใจเที่ยง อายุ 45 ปี สภาพศพนั่งคร่อมอยู่กับม้าหินอ่อน ถูกยิงที่หน้าท้อง 1 นัด หน้าอก 1 นัด และหลัง 2 นัด ใกล้กันพบศพนางรัตตาภัค นิยมโภค อายุ 43 ปี ภรรยาของนายวาสนา สภาพนอนคว่ำหน้าถูกยิงที่หน้าอก 2 นัด ต้นขาขวา 1 นัด ต้นขาซ้าย 1 นัด และแขนขวา 1 นัด ห่างออกไปประมาณ 5 เมตรบริเวณหน้าบ้านพบศพนางทองสี นิยมโภค อายุ 69 ปี แม่ของนางรัตตาภัคถูกยิงที่หลัง 2 นัด และหน้าอก 2 นัด นอกจากนี้ ด.ญ.ณัฐรุจา หรือน้องแก้มบุ๋ม ใจเที่ยง วัย 7 ขวบ ลูกสาวของนางรัตตาภัค และนายวาสนาถูกยิงที่หน้าอก 1 นัด หลัง 1 นัด และบริเวณแขน 1 นัด อาการสาหัสถูกนำตัวไปรักษาที่ รพ.สมุทรปราการ

...

ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายพิศิษฐ์ หรือหนุ่ย เอี่ยมพลี อายุ 63 ปี เป็นเจ้าของบ้านเช่าของผู้ตาย หลังก่อเหตุใช้ปืน 9 มม.จ่อยิงหัวนอนหายใจรวยรินอยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลก่อนนำตัวไปรักษาที่ รพ.สมุทรปราการ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบแมกกาซีนตกที่พื้น 1 อัน ส่วนแมกกาซีนที่บรรจุในปืนพบกระสุนบรรจุอยู่อีก 4 นัด และที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุน 9 มม.ตกอยู่ 14 ปลอก เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบถามนายศุภเสกช์ ใจเที่ยง อายุ 19 ปี ลูกชายผู้เช่าบ้าน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้แม่เคยไปกู้ยืมเงินกับนายหนุ่ยผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ทราบจำนวนเพื่อมาจุนเจือครอบครัว ภายหลังนายหนุ่ยมาทวงเงินอยู่บ่อยครั้งจนมีปากเสียงกับคนในครอบครัวถึงขั้นเอ๋ยปากว่า ถ้าไม่ได้จะยิงทิ้ง ช่วงเกิดเหตุพ่อกับแม่นั่งกินข้าวอยู่เพิงพักข้างบ้าน ส่วนน้องสาวและยายอยู่ในบ้าน ตนออกไปเล่นกับเพื่อน ทราบข่าวร้ายว่าครอบครัวถูกยิงรีบกลับมาที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องทวงหนี้ ไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน

ด้านนายไพบูลย์ พินเที่ยง กำนันตำบลท้ายบ้านเปิดเผยว่า นายหนุ่ยผู้ก่อเหตุเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่นานหลายปีแล้ว มีอาชีพปล่อยเงินกู้และมีบ้านเช่า ปกติเป็นคนนิสัยดีไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร ลึกๆแล้วตนไม่ทราบว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีเรื่องอะไรกัน ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณ 4 โมงเย็น นายหนุ่ยขี่รถ จยย.มาดื่มเหล้าที่บ้านตน คุยกันตามปกติ จากนั้นช่วงประมาณ19.00น. นายหนุ่ยขอตัวกลับบ้าน กระทั่งมาก่อเหตุสลด

ขณะที่ พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า เบื้องต้นปมเหตุน่ามาจากเรื่องเงินกู้ที่ผู้ตายไปยืมมาจากนายหนุ่ย สอบพยานไป 2 ปากให้การตรงกันว่าเป็นเรื่องกู้เงิน เนื่องจากนายหนุ่ยเคยมาทวงและมีปากเสียงกันมาก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่น สาเหตุที่คับแค้นยิงทั้งครอบครัว เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนเพื่อหาสาเหตุต่อไป ตรวจสอบปืนที่ใช้ก่อเหตุพบว่าเป็นของนายหนุ่ยมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ขณะก่อเหตุยิงจนกระสุนหมดแม็กแล้วเปลี่ยนแมกกาซีนใหม่ยิงต่อเนื่องรวม 16 นัด แล้วยิงตัวตาย ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมไม่พบว่านายหนุ่ยเคยถูกต้องโทษคดีอาญา

ต่อมาเวลา 11.00 น. วันที่ 26 พ.ย. ญาติของผู้ตายเดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อมายื่นเอกสารรับศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ก่อนที่จะเดินทางไปที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ อ.บางพลี เพื่อรับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดราษฎร์โพธิ์ทอง ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ

ด้าน พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมือง สมุทปราการ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุนำพยานแวดล้อมมาสอบปากคำทั้งหมด 5 ปาก มีข้อมูลสอดคล้องกันว่า เมื่อต้นปี 66 ครอบครัวของผู้ตายมาเช่าบ้านเป็นบ้านของอดีตภรรยาของนายหนุ่ยผู้ก่อเหตุ นางรัตตาภัคทำงานเป็นพนักงานขายของอยู่ในฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ส่วนนายวาสนา สามี ทำงานอยู่ที่บริษัท ไทยนิปปอน จำกัด ต.ท้ายบ้าน ช่วงกลางปี 67 นายหนุ่ยและนางรัตตาภัคแอบคบหากันเชิงชู้สาว เชื่อว่าทางครอบครัวของฝ่ายหญิงไม่ทราบเรื่อง ต่อมานายหนุ่ยเริ่มหึงหวงมากขึ้นประกอบกับนางรัตตาภัคยืมเงิน และส่งเงินเลี้ยงดูส่วนตัวให้กับฝ่ายหญิงในชีวิตประจำวันนับแสนบาท เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายหนุ่ยและนางรัตตาภัคมีเรื่องทะเลาะกันอย่างรุนแรง นางรัตตาภัคโทร.ไปปรึกษาภรรยาเก่าของนายหนุ่ยถึงพฤติกรรมของนายหนุ่ย ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ ช่วงเกิดเหตุนายหนุ่ยดื่ม
สังสรรค์มาจากบ้านกำนัน ขณะกลับบ้านหยิบปืนเดินไปหานางรัตตาภัคแล้วก่อเหตุยิง

พ.ต.อ.นพดลกล่าวอีกว่า ส่วนอาการ ด.ญ.ณัฐรุจา หรือน้องแก้มบุ๋ม ใจเที่ยง วัย 7 ขวบ ลูกสาวของนางรัตตาภัคและนายวาสนา ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ที่ รพ.สมุทรปราการ แพทย์ยังต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิดเนื่องจากกระสุนทะลุปอด ส่วนนายศุภเสกช์ ใจเที่ยง อายุ 19 ปี ลูกชายคนโตทราบว่ายังเรียนอยู่ ขณะนี้เด็กทั้ง 2 คนขาดเสาหลักเนื่องจากพ่อกับแม่เสียชีวิต อยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่ กระทรวงยุติธรรมและ พม.เข้ามาเยียวยาต่อไป

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่