สังคมเสื่อมทรามหนัก 6 รุ่นพี่นักฟุตบอลโรงเรียนดังท่ามะกา รุมโทรมขืนใจ 2 นักเรียนหญิง ชั้น ม.1 คาห้องพักนักกีฬาในโรงเรียนกลางวันแสกๆ ผู้ปกครองรู้เรื่องตกใจแทบช็อก พาลูกสาวเข้าแจ้งตำรวจลากคอแก๊งทรชนรุ่นเยาว์ดำเนินคดี ก่อนร้องเรียน “สายไหมต้องรอด” หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังผู้บริหารโรงเรียนพยายามปิดข่าว และเรียกไปเจรจา “สพม.กาญจนบุรี” สั่งเด้ง ผอ.โรงเรียนทันควัน พร้อมตั้งกรรมการสอบให้เสร็จสิ้นใน 7 วัน

สะเทือนใจ 6 รุ่นพี่นักฟุตบอลโรงเรียนรุมขืนใจ 2 นักเรียนหญิงรุ่นน้องคาห้องพักนักกีฬาในโรงเรียนดังท่ามะกากลางวันแสกๆ บ่ายวันที่ 25 ส.ค. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน เดินทางไปที่ สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี กรณีมีผู้ปกครองเข้าร้องเรียนขอความ ช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด อ้างว่าลูกสาวและเพื่อนรวม 2 คน เป็นนักเรียนหญิง ชั้น ม.1 โรงเรียนมัธยมชื่อดังใน ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ถูกนักเรียนชายรุ่นพี่ 6 คน เป็นนักกีฬาฟุตบอลโรงเรียนเดียวกัน ล่อลวงไปทำร้ายร่างกายและรุมข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมถ่ายภาพนิ่งและคลิปวิดีโอเก็บไว้แบล็กเมล์ เหตุเกิดภายในห้องพักนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนอยู่ติดกับโรงอาหาร เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา

นายเอกภพกล่าวว่า หลังได้รับการร้องเรียน สอบถามข้อมูลกับ ผกก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี ทราบว่าผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าเรือ เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เย็นวันที่ 24 ส.ค. ตำรวจสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นนักเรียนชายในโรงเรียนเดียวกัน 6 คน อายุน้อยที่สุด 11 ขวบ มากสุด 15 ปี วันที่ 26 ส.ค.นี้ จะนำนักเรียนชายผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน ไปสอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี แต่สิ่งที่ตนแปลกใจคือ เหตุใดโรงเรียนปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาได้ ทั้งที่ช่วงเกิดเหตุเป็นเวลากลางวันแสกๆ มีนักเรียนเดินไปมา แต่กลับเกิดเหตุนักเรียนชาย 6 คน ทำร้ายร่างกายและข่มขืนพร้อมถ่ายคลิปเด็กนักเรียนหญิงทั้ง 2 คน ส่งต่อกันภายในกลุ่มผู้ก่อเหตุและกระจายไปยังเด็กนักเรียนในโรงเรียนด้วย

...

“อยากฝากไปถึงกระทรวงศึกษาธิการให้เร่งตรวจสอบระบบความปลอดภัยภายในโรงเรียนแห่งนี้ และช่วยตรวจสอบให้ละเอียดด้วยว่าเป็นครั้งแรกหรือเคยเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อนหรือไม่ พร้อมฝากไปถึงผู้ที่ส่งต่อหรือแชร์คลิปที่กลุ่มเด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุบันทึกเหตุการณ์ช่วงก่อเหตุเอาไว้ ผู้ที่แชร์หรือส่งต่อคลิปดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย” นายเอกภพกล่าว

ขณะที่ผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวจากญาติมาบอกตกใจแทบช็อก รีบกลับไปสอบถามกับลูกสาวจนทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริง หลังเรื่องแดงครูในโรงเรียนได้ติดต่อให้เข้ามาเจรจาพูดคุยตกลงกันในวันที่ 26 ส.ค. แต่ตนไม่รอ ได้ร้องเรียนไปยังเพจสายไหมต้องรอด พร้อมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ขณะนี้ลูกสาวยังอยู่ในสภาวะจิตใจย่ำแย่ มีอาการซึมเศร้า ไม่พร้อมจะพูดคุยใดๆ ยืนยันจะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งรู้สึกแย่กับผู้บริหารโรงเรียน ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น หลังจากนี้จะให้ลูกสาวลาออกจากโรงเรียนและย้ายไปเรียนที่อื่น

ต่อมานายเอกภพพร้อมผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิงทั้ง 2 คน เข้าพูดคุยกับรอง ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี และ ผกก.สภ.ท่าเรือ ถึงความกังวลว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี แต่ตำรวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับเด็กผู้เสียหายทั้ง 2 คน พร้อมสอบสวนว่ามีผู้อื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และจะดำเนินคดีกับผู้แชร์คลิปด้วย

จากนั้นนายเอกภพพร้อมทีมงานเดินทางไปโรงเรียนที่เกิดเหตุตั้งอยู่ใน ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เพื่อดูจุดเกิดเหตุเป็นห้องเรียนมัลติมีเดีย แต่ถูกใช้เป็นห้องพักชั่วคราวของนักกีฬาฟุตบอลโรงเรียน ห้องดังกล่าวอยู่ติดกับโรงอาหารของโรงเรียน ในแต่ละวันมีคนเดินผ่านไปมาพลุกพล่าน ภายในห้องพักมีที่นอนและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าวางเรียงรายอยู่ แต่ไม่พบกลุ่มนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนมาใช้งาน เนื่องจากกลับบ้านช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

โค้ชทีมฟุตบอลโรงเรียน ผู้ดูแลกลุ่มเด็กนักเรียนชายผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า สถานที่เกิดเหตุเป็นหอพักชั่วคราวในช่วงเก็บตัวฝึกซ้อม มีเด็กนักเรียนชายที่เป็นนักกีฬาฟุตบอลพักอยู่รวมกัน 35 คน วันเกิดเหตุแม้จะเป็นวันศุกร์ แต่โรงเรียนไม่มีการเรียนการสอน และจัดการสอนแบบออนไลน์ เนื่องจากมีโรงเรียนขนาดเล็กมาขอใช้สถานที่ในโรงเรียนจัดแข่งขันกีฬาภายใน คณะครูได้ไปช่วยจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าว ทำให้ในหอพักชั่วคราวมีเพียงกลุ่มเด็กนักเรียนชายที่เป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนอยู่รวมกันทั้งหมด

โค้ชทีมฟุตบอลกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบภาพวิดีโอกล้องวงจรปิดบริเวณหอพักชั่วคราวจุดเกิดเหตุเห็นเด็กนักเรียนหญิงทั้ง 2 คน เดินเข้ามาในหอพักเอง ไม่ได้ถูกบีบบังคับหรือถูกฉุดกระชากเข้ามาแต่อย่างใด อีกทั้งในช่วงเกิดเหตุมีเด็กนักเรียนที่เป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ ยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงร้องหรือการต่อสู้ขัดขืนใดๆจากนักเรียนหญิงทั้ง 2 คน เด็กบางคนเห็นเพียงมีการใช้ผ้าห่มคลุมโปง ลักษณะคล้ายเล่นกัน ทำให้ไม่รู้ว่าเป็นการก่อเหตุทำร้ายร่างกายและข่มขืนกระทำชำเรา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี (สพม.กาญจนบุรี) มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน พร้อมให้เด็กนักเรียนหญิงที่ได้รับผลกระทบหยุดเรียน 3 วัน และจัดนักจิตวิทยาเข้ามาพูดคุยกับเด็ก ในส่วนของห้องพักนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนสถานที่เกิดเหตุจะต้องหารือกันต่อไปว่าจะให้มีอยู่หรือยกเลิก ขณะเดียวกันได้มีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายในเวลา 7 วัน

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่