สพฐ.เจอแล้วครูใส่สายเดี่ยวโชว์เนินหน้าอกไลฟ์หวิวสอนหนังสือเด็ก เป็น นศ.ฝึกสอนของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในลพบุรี ส่งมาฝึกสอนโรงเรียนในพื้นที่ ล่าสุดทางโรงเรียนส่งตัวคืนต้นสังกัด พร้อมบันทึกว่ากล่าวตักเตือนประพฤติตนไม่เหมาะสม ด้านคุรุสภารับไม้ต่อขึ้นแบล็กลิสต์เป็นบุคคลที่ไม่สมควรได้รับใบอนุญาต และไม่สมควรจะประกอบวิชาชีพครู ย้ำให้สถาบันผลิตครูคำนึงถึงคุณภาพและมาตรฐานการสร้างครูดีให้แก่สังคม

จากกรณีครูสาวชั้นประถมศึกษาแห่งหนึ่งนั่งถ่างขาไลฟ์โชว์ช่วงล่างขณะสอนหนังสือเด็กประถมศึกษาผ่านแอปพลิเคชันหนึ่ง เรียกความสนใจให้ผู้ชม เพื่อรับของขวัญจากผู้ติดตามเป็นรางวัล โดยบางคลิปมีการแต่งกายไม่เหมาะสม ใส่สายเดี่ยวโชว์บริเวณเนินหน้าอก พูดจาหยอกเย้ากับผู้ติดตาม และบางคลิปขึ้นไลฟ์ในห้องเรียน ทำให้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึกในเรื่องดังกล่าว และเน้นย้ำให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลคุณภาพที่จะทำให้เด็กเรียนดี มีความสุขตาม นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2562 จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ลพบุรี ซึ่งมาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูที่โรงเรียนบ้านบัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี โดยเป็นการไลฟ์ผ่านโปรแกรม BIGO มีการระบุพิกัดการไลฟ์ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ลพบุรี และกรุงเทพมหานคร ซึ่งบางคลิปนักศึกษาฝึกสอนรายดังกล่าวแต่งกายไม่เหมาะสม ใส่เสื้อสายเดี่ยวโชว์บริเวณเนินหน้าอก พูดจาหยอกเย้ากับผู้ติดตาม และบางคลิปขึ้นไลฟ์ในห้องเรียน

...

โดยผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบัวชุมได้ว่ากล่าวตักเตือน แนะนำการปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู และมีหนังสือขอส่งตัวนักศึกษาฝึกสอนรายดังกล่าวคืนมหาวิทยาลัยต้นสังกัดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา นอกจากนี้โรงเรียนยังมีบันทึกการว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งการประพฤติตนไม่เหมาะสมกับการเป็นนักศึกษาฝึกสอนในสถานศึกษา ดังนี้ 1.แสวงหาผลประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ในการปฏิบัติหน้าที่ในเวลาราชการ (ถ่ายทอดสดในแอปพลิเคชัน) 2.ประพฤติตนไม่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ และ 3.การแต่งกายไม่เหมาะสม

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้สั่งการให้ สพฐ.และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึกในเรื่องดังกล่าว และกำชับเรื่องการฝึกสอนของนักศึกษาครูจะต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างในวิชาชีพ โดยจะต้องมีการคัดกรองครูฝึกสอนก่อนเข้ามาฝึกสอนในโรงเรียน ซึ่งตนแจ้งเตือนไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศให้ตรวจสอบ กำชับให้ครูปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพครูอย่างเคร่งครัด โดยเน้นย้ำให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลคุณภาพ ทำให้เด็กเรียนดีมีความสุขตามนโยบายของ รมว.ศธ.

ด้านนางอมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะนำเสนอข้อเท็จจริงเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เพื่อพิจารณาลักษณะต้องห้ามในการประกอบวิชาชีพครู ซึ่งที่ผ่านมา กมว.ได้พิจารณาไม่ออกหรือไม่ต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา กรณีผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 44 (ข) (1) แห่งพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา กล่าวคือ เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี ซึ่งพฤติการณ์การกระทำของนักศึกษาฝึกสอนที่ตกเป็นข่าวอาจถือเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายดังกล่าว และไม่สามารถประกอบวิชาชีพครูต่อไปได้ โดยคุรุสภาจะบันทึกข้อมูลไว้ว่าบุคคลดังกล่าวไม่สมควรได้รับใบอนุญาต และไม่สมควรจะประกอบวิชาชีพครู นอกจากนี้จะแจ้งสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย ให้เน้นย้ำให้สถาบันผลิตครูคำนึงถึงคุณภาพและมาตรฐานการสร้างครูดีให้แก่สังคม และช่วยขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข”

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่