สุดช้ำ เซ็นชื่อครั้งเดียวสูญ 63 ล้านบาท ตาวัย 71 ปี ร้องสื่อ ถูกเจ้าหน้าที่หลอกให้เซ็นชื่อยกที่ดินจมน้ำ 14 ไร่ ให้เป็นสาธารณประโยชน์ก่อน ถึงจะทำรังวัดได้ ผ่านไป 3 เดือนเห็นเพื่อนบ้านนำรถบรรทุกดินมาถมทะเลในที่ได้ แต่ของตัวเองต้องถูกยกเป็นสาธารณประโยชน์ ทำให้สูญที่ดิน จึงออกมาขอเงินชดเชย หรือขอที่ดินคืน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 434 หมู่ที่ 5 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบกับนายบุญศรี ขันคำ อายุ 71 ปี ผู้แทนผู้เสียหาย นำโฉนดที่ดิน ภาพถ่ายมุมสูง พร้อมพาไปชี้จุดที่ดินจำนวน 14 ไร่ ที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะหายไป โดยขณะนั้นในพื้นที่ของเพื่อนบ้านข้างเคียง เห็นรถเครื่องจักรขนาดใหญ่กำลังทำงานเกลี่ยดินถมทะเลให้กลับมาเป็นผืนดินตามโฉนดที่ครอบครองดังเดิม ทำให้เกิดคำถามตามมา ว่าทำไมเพื่อนบ้านถึงถมทะเลได้ แต่ตนถูกเจ้าหน้าที่รังวัดทำให้เข้าใจว่าทำไม่ได้ ต้องยกที่ดินจำนวน 14 ไร่ให้เป็นสาธารณประโยชน์

นายบุญศรี ขันคำ อายุ 71 ปี ผู้แทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ที่ดินผืนนี้ ซื้อไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 เมื่อประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา ตนได้ประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ เข้ามาทำการรังวัดที่ดิน ตามโฉนดทั้งหมดรวม 86 ไร่ โดยปัจจุบันบางส่วนถูกน้ำทะเลกัดเซาะหายไป ตนต้องการรู้และต้องการปักหลักหมุดที่ชัดเจน หลังเจ้าหน้าที่เข้ามาดูสถานที่ ตนได้พาไปชี้แนวเขตที่ดินเดิม ริมทะเล ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นผืนดินและเป็นที่ตั้งของศาลาไม้ แต่ต้องย้ายเข้าในปี พ.ศ. 2528 เพื่อหนีน้ำทะเล นำมาตั้งไว้หน้าบ้านพักในปัจจุบัน ตนชวนเจ้าหน้าที่รังวัดออกไปปักหลักมุดตามโฉนดในทะเล แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธและบอกว่า ในทะเลรังวัดไม่ได้ ถ้าผืนดินถูกน้ำทะเลกัดเซาะแล้ว ต้องยกให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ คือต้องยกให้กรมเจ้าท่า พร้อมบอกอีกว่าต้องเซ็นยินยอมยกที่จมน้ำทะเลให้ก่อน เขาถึงจะลงมือทำการรังวัดและออกเอกสารให้ โดยไม่มีการให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์กับเจ้าของที่ดินเพิ่มเติม ทำให้ตนเข้าใจว่าไม่มีทางเลือกอื่นใด จึงยินยอมเซ็นชื่อยกที่ดินจำนวน 14 ไร่ มูลค่าไร่ละ 4.5 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงิน 63 ล้านบาท ต้องสูญไปจากความไม่รู้ ตลอดระยะเวลาที่ครอบครองมีการเสียภาษีประจำปีเต็มจำนวน 86 ไร่มาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถทำรั้วกั้น หรือถมดินทำแนวเขตได้เนื่องจากความรุนแรงของน้ำทะเล
...

"กรณีนี้ ทำให้ตนรู้สึกเหมือนถูกหลอกให้เซ็นชื่อยกที่ดินจำนวน 14 ไร่ มูลค่า 63 ล้านบาทไปด้วยความไม่รู้ ดังนั้นจึงต้องการออกมาร้องผ่านสื่อฯ ขอเงินชดเชยค่าที่ดินจากหน่วยงานภาครัฐตามราคาที่เหมาะสม หรือขอที่ดินจำนวนดังกล่าวคืน" นายบุญศรีกล่าว

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้โทรประสานไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผอ.ติดประชุม จึงต่อสายให้คุยกับหัวหน้าฝ่ายรังวัดแทนและได้รับคำชี้แจงกลับมาในเชิงหลักการ พร้อมบอกหากต้องการที่ดินคืน ให้เจ้าของที่ดิน เข้ามาติดต่อที่สำนักงานฯ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
