คณะที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำเจ้าหน้าที่ 5 หน่วยงานบุกตรวจสอบรีสอร์ตชื่อดัง “ไร่ภูนับดาว” อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ดัดแปลงที่ดิน ส.ป.ก.ทำที่พัก ลานกางเต็นท์และคาเฟ่หรู ผู้ดูแลพื้นที่อ้างไม่ทราบว่าทำผิดกฎหมายเพราะยังทำเกษตรอยู่ แค่แบ่งพื้นที่มาหารายได้เพิ่ม ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ เผยลูกบุญธรรมเจ้าของพื้นที่เพิ่งไปแจ้ง ส.ป.ก.ว่าใช้พื้นที่เลี้ยงวัวและปลูกผัก แต่พอเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของ อ.มวกเหล็ก ก็ถึงบางอ้าวเพราะพบสร้างคาเฟ่หรูกับเปิดรีสอร์ตทำลานกางเต็นท์
การตรวจค้นจับกุมผู้ใช้ที่ดิน ส.ป.ก.ผิดวัตถุประสงค์ มาสร้างเป็นรีสอร์ตที่พักกับคาเฟ่หรูและลานกางเต็นท์ ครั้งนี้ มีขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 พ.ค. นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานการขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน นำเจ้าหน้าที่ 5 หน่วยงาน มี ส.ป.ก.สระบุรี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) บุกตรวจรีสอร์ตหรูชื่อ “ไร่ภูนับดาว” อยู่ในพื้นที่หมู่ 2 ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี หลังพบมีการใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ที่ดิน ส.ป.ก. โดยมีการเปิดเป็นรีสอร์ตที่พักทำลานกางเต็นท์ สร้างร้านอาหารและทำคาเฟ่หรู
ในการเข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบชายวัย 64 ปี อ้างตัวเป็นผู้ดูแลพื้นที่ให้ปากคำว่า ที่ดินแปลงนี้มีขนาดรวมกว่า 100 ไร่ เดิมเป็นของเจ้านายที่ป่วยโรคมะเร็งแต่ไม่มีบุตรจึงยกที่ดินให้เมื่อปี 2557 เพื่อใช้ทำเกษตรและเลี้ยงวัว ต่อมาตนได้มอบที่ดินผืนนี้ให้กับลูกชายบุญธรรม ส่วนตัวเองทำหน้าที่ช่วยดูแลพื้นที่ ต่อมาตนมองเห็นโอกาสในพื้นที่ ที่มีทิวทัศน์สวยงามมาก เป็นทิวเขาสลับซับซ้อนยาวเหยียดแบบพาโนรามา 360 องศาฯ จึงใช้ความสวยงามของพื้นที่ที่จัดได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของ อ.มวกเหล็ก มาสร้างรายได้ โดยแบ่งพื้นที่เปิดเป็นที่พักและลานกางเต็นท์ ส่วนบริเวณที่เป็นคาเฟ่มีลูกเขยมาลงทุนก่อสร้างให้เมื่อ 2-3 ปีก่อน ไม่ทราบมาก่อนว่าการใช้พื้นที่ทำร้านอาหารทำคาเฟ่กับทำลานกางเต็นท์เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ผิดวัตถุประสงค์การใช้ที่ดิน เพราะส่วนตัวยังคงทำเกษตร เลี้ยงวัว เพียงแต่แบ่งพื้นที่มาหารายได้เพิ่มเพราะช่วงนี้ราคานมวัวตกต่ำมาก แต่ปฏิเสธไม่ทราบรายละเอียดอื่นๆ ทั้งงบประมาณที่ใช้ก่อสร้างคาเฟ่ รวมถึงไม่ทราบหน้าที่การงานของลูกเขย ส่วนลูกบุญธรรมไม่อยู่ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
...
นายธนดลเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ลูกบุญธรรมของผู้ดูแลพื้นที่เพิ่งเข้าให้ถ้อยคำกับสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จ.สระบุรี ว่า ปัจจุบันมีการใช้พื้นที่ทำเกษตร เลี้ยงวัว ปลูกพืชผัก อาทิ ข้าวโพด ผักชี แต่จากการลงพื้นที่ตรวจสอบกลับพบอาคารขนาดใหญ่ทำเป็นคาเฟ่หรูหราสไตล์ยุโรป ตั้งอยู่ในพื้นที่รวม 32 ไร่ จากทั้งหมด 100 ไร่ ที่ไม่ได้มีการขออนุญาตก่อสร้าง รวมทั้งยังเปิดเป็นบริษัท โดยเจ้าตัวซึ่งมีชื่อเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทสินเชื่อชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นกรรมการบริษัท ใช้ทุนจดทะเบียน 1 ล้าน เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2564 ประกอบกิจการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร ผิดวัตถุประสงค์การใช้ที่ดิน ส.ป.ก.ที่ต้องการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยใช้ทำมาหากิน จากนี้จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ครอบครองพื้นที่แห่งนี้กับ ร.ต.อ.วสันต์ ลำดวล รอง สว.สอบสวน สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรีและจะออกหนังสือคำสั่งให้ผู้ครอบครองที่ดินคนปัจจุบัน เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงรวมถึงเร่งรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาตภายใน 30 วัน หากไม่ดำเนินการจะเอาผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ฐานยึดครองหรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ หรือกระบวนการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ โดยมิชอบด้วยกฎหมายอันมีลักษณะการค้า
ด้านนายกฤศกร สนิทศักดิ์ดี ผอ.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 1 บอกว่า เดิมที่ดินแปลงนี้อยู่ในเขตสวนป่า ไม่สามารถออกเอกสารการถือครองเป็นที่ดิน ส.ป.ก.ได้ และผู้ดูแลพื้นที่ในฐานะผู้ครอบครองที่ดิน ยังเคยถูกดำเนินคดีฐานบุกรุกที่ดินป่าไม้เมื่อปี 2559 จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงมีคำสั่งจำคุกและให้รื้อถอนทรัพย์สินออกจากพื้นที่ แต่กลับพบว่าปี 2560 ได้มีการขอออกเอกสารที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 จากสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สะท้อนว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐให้การช่วยเหลือออกโฉนด ส.ป.ก.โดยมิชอบด้วยกฎหมาย การตรวจสอบยังพบว่ายังมีที่ดินที่อยู่ใกล้เคียงอีกกว่า 100 แปลง รวมกว่า 600 ไร่ ออกโฉนดไม่ชอบด้วยกฎหมายในลักษณะเดียวกัน มีชื่อนายทุน ตั้งแต่ข้าราชการระดับสูง เป็นผู้ครอบครองที่ดิน ขณะนี้ได้ออกหนังสือเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกว่า 50 ปาก ให้มาให้การเป็นพยาน เพื่อเอาผิดข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่