ไฟไหม้โรงงานกระดาษสมุทรสาคร เพลิงดับลงแล้ว หลัง นอภ.ปรับแผนระดมรถน้ำเข้าดับ และส่งคนเข้าช่วย จนแสงเพลิงสุดท้ายสงบแล้วเมื่อช่วงเช้า พบมีกระดาษได้รับความเสียหาย จำนวน 20,000 ตัน พร้อมส่งคืนพื้นที่ให้เทศบาลร่วมกับบริษัทเฝ้าระวังต่อไป
จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกระดาษภายใน บริษัท ปัญจพลไฟเบอร์คอนเทนเนอร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 110/4 หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นโรงงานผลิต ผลิตภัณฑ์กระดาษและลูกฟูก เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ บริษัท ปัญจพลฯ เข้าระงับเหตุ มีกระดาษได้รับความเสียหาย จำนวน 20,000 ตัน และอาคารเก็บกระดาษได้รับความเสียหาย จำนวน 1 แห่ง เนื่องจากเชื้อเพลิงเป็นกระดาษจำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 พ.ค. 67 ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมด้วย ร.ต.ต.สัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร นายชาตรี โพธิ์อบ นายก ทต.บางปลา นายวัชรินทร์ วรุณศรี หัวหน้าสำนักดับเพลิงบางขุนนนท์ กองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 5 นายโยธิน อินทร์อ่อน เจ้าพนักงานดับเพลิง อบต.พันท้ายนรสิงห์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมหารือร่วมกันถึงผลสำเร็จของการปรับแผนการทำงานในรอบสุดท้ายที่ผ่านมา จากปฏิบัติการที่ใช้รถสูบส่งระยะไกลจากศูนย์ ปภ.เขต 1 (ปทุมธานี) จำนวน 3 ชุด รถดับเพลิงจาก กทม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จำนวน 14 คัน และรถแบ็กโฮจากองค์การบริหารจังหวัดสมุทรสาคร และบริษัท ปัญจพลฯ จำนวน 10 คัน พร้อมด้วยบุคลากรทั้งภาครัฐ อาสาสมัคร ตลอดจนบุคลากรของบริษัท ปัญจพลฯ จำนวน 300 คน เข้าระงับเหตุจนเปลวเพลิงแสงสุดท้ายได้ดับลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเวลาประมาณ 10.10 น. ที่ผ่านมา
...
ขณะนี้คงเหลือแค่กลุ่มควันที่ลอยขึ้นมา แล้วให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปฉีดพ่นน้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับใช้รถแบ็กโฮขุดคุ้ยกองกระดาษในจุดที่สามารถทำงานได้สะดวก และไม่เสี่ยงต่อการก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน หรือกระเทือนถึงโครงสร้างอาคารที่ยังยึดติดคงอยู่ในสภาพที่ปกติ
ขณะที่ปัญหาและอุปสรรคของการดับเพลิงในบางจุด คือ เรื่องของโครงหลังคาที่ถล่มลงมาทับกองกระดาษ ซึ่งหากรถแบ็กโฮเข้าไปยกเหล็ก หรือขับขึ้นไปทับเหล็กเส้น อาจจะเหนี่ยวรั้งให้โครงเหล็กที่ยังยึดอยู่ในสภาพดีนั้นโน้มถ่วงลงมาได้ด้วย ประกอบกับทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่สามารถที่จะฝ่าความร้อนที่สะสมอยู่ในเหล็กเส้นเข้าไปได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นหลักสำคัญที่สุด
ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยว่า จากการปรับแผนล่าสุดจนกระทั่งแสงสุดท้ายดับลงไปแล้ว หลังจากนี้คือการใช้รถแบ็กโฮคุ้ยเชื้อเพลิงร่วมกับรถดับเพลิงทำการดับถ่าน คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ และส่งมอบการบัญชาการให้กับเทศบาลตำบลบางปลา ร่วมกับบริษัท ปัญจพลฯ เฝ้าระวังพื้นที่ต่อไป.