ปฏิบัติการ “รังสิตมันร้าย” พ่นพิษทั่วประเทศ “มท.1” ลั่นต่อไปนี้พื้นที่ไหนปล่อยให้เปิดสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่ายปกครองท้องที่ต้องรับผิดชอบด้วย หลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองบุกทลายผับดัง สวรรค์ของวัยรุ่น “เฮฟเว่น รังสิต” ปล่อยเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการถึง 489 คน “ผู้ว่าฯปทุมธานี” ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เชือดปลัดฯฝ่ายความมั่นคงอำเภอคลองหลวง ส่วนนายอำเภอต้องรออธิบดีกรมการปกครองเซ็นย้าย ด้าน “ผู้การปทุมธานี” รับแอ็กชันทันควัน เด้ง 5 เสือโรงพักคลองหลวงช่วยราชการ 15 วัน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง

กำลังจะกลายเป็น “รังสิตโมเดล” กรณีชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นำกำลังกว่า 50 นาย เปิดปฏิบัติการ “รังสิตมันร้าย” บุกทลายผับดัง “เฮฟเว่น รังสิต” ซอยคลองหลวง 25 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่ถือเป็นแดนสวรรค์ของวัยรุ่นขาโจ๋นักเที่ยวราตรี เมื่อเที่ยงคืนครึ่งคืนวันที่ 7 ม.ค. หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่าเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนเข้าใช้บริการ จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กและเยาวชน แสดงดนตรีสดที่ส่งเสียงดังรบกวน และเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ผลการจับกุมพบเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการรวม 489 คน เจ้าหน้าที่แจ้งดำเนินคดีหลายข้อหากับผู้จัดการร้านและเป็นคนดูแลสถานที่ พร้อมเรียกเจ้าของร้านตัวจริงเข้ารับทราบข้อกล่าวหา และเตรียมเสนอ ผวจ.ปทุมธานี สั่งปิดสถานที่เป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากฝ่าฝืนกฎหมายหลายมาตรา

ความคืบหน้าของเรื่องนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 ม.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีบุกตรวจสถานบันเทิงย่าน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ไม่มีใบอนุญาต พบปล่อยเด็กและเยาวชนเข้าไปจำนวนมาก เมื่อคืนวันที่ 7 ม.ค.ว่า ต้องไล่ตรวจไปเรื่อยๆ อย่างที่ตนพูดมาตลอด อย่าให้มีเรื่องยาเสพติด เรื่องเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือเรื่องอาวุธ กรณีที่รังสิต ชัดเจนว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี มากถึง 500 คน มันไม่ใช่กรณีที่ว่าแอบเปิดแล้ว มันน่าจะเป็นอาคารที่ออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ความจริงมันสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องมีใบอนุญาต แต่นี่ไม่มีใบอนุญาต และยังขายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี แบบนี้ผิดไม่รู้กี่กระทง เจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินการอะไรกับเด็กๆ ถ้าคนไหนอายุต่ำกว่า 16 ปี ก็แจ้งผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้อง จะมีกฎหมายของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กดูแลอยู่ ส่วนทางเราจะมุ่งดำเนินคดีกับเจ้าของสถานที่หรือผู้ประกอบการ

...

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และไม่มีใบอนุญาต มีอีกเยอะหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า การที่เราจะเข้าไปตรวจแต่ละที่ได้ ต้องดู ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไป ถ้าเราเข้าไปแล้วเขาทำถูกต้องทุกอย่างมันจะเป็นการรบกวนนักเที่ยว ดังนั้น เราต้องมั่นใจว่าสถานที่ที่เราเข้าไปเขาทำผิดกฎหมาย เราไม่ได้เข้าไปก่อกวน ได้กำชับเจ้าหน้าที่ไป อย่างกรณีที่รังสิต ตนกำชับอธิบดีกรมการปกครองและคณะว่าต้องปฏิบัติกับเด็กอย่างดี ห้ามพกพาอาวุธหรือเอาอาวุธไปจี้เขา ห้ามกักตัว เท่าที่ออกมาถือว่าดี ทุกคนให้ความร่วมมือดี ย้ำไปแล้วว่าห้ามมีภาพรุนแรง การที่เราจะเข้าไปดู ก็ดูเป้าหมายเหมือนกัน ไม่ใช่เห็นทุกคนมีความผิดไปหมด แต่ย้ำว่าที่ผิดหนักคือ เจ้าของที่ พอรู้ว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปก็หลบออกไปก่อน พอเจ้าหน้าที่ออกไปแล้วถึงกลับเข้ามา มีทุกรูปแบบ

เมื่อถามว่าจะกำชับกับฝ่ายปกครองอย่างไรว่าสถานที่เหล่านี้ไม่มีใบอนุญาตแต่เปิดได้อย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ต้องดูว่าหน่วยงานไหนรับผิดชอบตรงไหน แต่ในส่วนของมหาดไทยได้ย้ำกับอธิบดีกรมปกครองให้ดำเนินการไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง หากมีตรงไหน นายอำเภอในพื้นที่ต้องโดนด้วย กรณีที่รังสิต นายอำเภอท้องที่ต้องรับผิดชอบ

เวลา 15.30 น. ที่ห้องประชุมบัวหลวง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ยุทธนา จอมขุน ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี ผกก.ทั้ง 14 โรงพัก นอภ.ทุกอำเภอ เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ประกอบการร้านค้า 234 แห่ง ร่วมประชุมและทำ MOU เกี่ยวกับข้อปฏิบัติของสถานบริการ และสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการในจังหวัดปทุมธานี ให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.สถานบริการ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในการจัดระเบียบสังคม

นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.ปทุมธานี เผยว่า วันนี้ได้บูรณาการส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจและฝ่ายปกครอง หลังมีการจับกุมสถานบริการในพื้นที่พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการถึง 489 คน ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงมาก จากการหารือได้ข้อยุติว่า เพื่อความกระจ่างในเรื่องการปล่อยปละละเลย ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งในส่วนของอำเภอคลองหลวง และ สภ.คลองหลวง จากนั้นจะใช้มาตรการทางการปกครองต่อเจ้าหน้าที่ระหว่างรอการสอบสวน

ผวจ.ปทุมธานีกล่าวต่อว่า ในส่วนของปกครอง ได้เซ็นคำสั่งไปแล้ว ให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นได้สั่งให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงของอำเภอคลองหลวง มาช่วยราชการที่จังหวัดปทุมธานี ส่วนนายอำเภอคลองหลวงเป็นตำแหน่งระดับสูง ต้องใช้อำนาจของกรมการปกครอง ตนได้รายงานไปแล้ว จะให้ความเป็นธรรมให้สามารถชี้แจงแสดงเหตุผลได้ หากไม่ได้ปล่อยปละละเลย ไม่ได้บกพร่องในหน้าที่ ประธานกรรมการจะรับฟัง หลังจากสืบสวนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะรายงานกรมการปกครองและกระทรวงมหาดไทยต่อไป

“ในส่วนสถานประกอบการ ได้เชิญผู้แทนหรือเจ้าของผู้ประกอบการทั้งจังหวัด 234 แห่ง มาชี้แจงทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ต้องไม่ยินยอมให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ รวมทั้งเรื่องยาเสพติดจะต้องไม่ให้มีอย่างเด็ดขาด จากนี้ไปจะให้นายอำเภอท้องที่ร่วมกับผู้กำกับโรงพัก ทำบันทึกข้อตกลงกับผู้ประกอบการทุกแห่ง และนำไปติดที่สถานประกอบการนั้น เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีและตระหนักถึงนโยบายของจังหวัดให้เข้มงวดกวดขัน สำหรับร้าน “เฮฟเว่น รังสิต” ได้ออกคำสั่งให้งดใช้อาคารชั่วคราวตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และดำเนินการตาม ป.วิ ปกครอง ให้ผู้ประกอบการชี้แจงแสดงเหตุผลไม่เกิน 2 สัปดาห์ จังหวัดจะได้มีคำสั่งปิดสถานบริการ 5 ปีต่อไป” นายภาสกรกล่าว

พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี เผยว่า หลังเกิดเหตุได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในวันนี้จะมีคำสั่งให้ 5 เสือ สภ.คลองหลวง มี พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.กวินเวทย์ วิริยะสิริภักดี รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.วีระ สุขชนะ สว.สส. พ.ต.ต.สยาม ยศปราณี สวป.สภ.คลองหลวง มาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เบื้องต้นมีคำสั่งช่วยราชการ 15 วันก่อน เพื่อตรวจสอบ หากตรวจยังไม่แล้วเสร็จจะมีคำสั่งเพิ่มเติมไปต่อ

...

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่