เปิดใจ เจ๊เอ๋ เจ้าแม่เงินกู้สระบุรี เจ้าของประโยค ให้ “อมขี้พ่นใส่หน้าเจ๊ได้เลย” หากรัฐบาลแก้ปญหาลูกหนี้ได้ ถูกเจ้าหน้าที่บุกค้นบ้านจะหาหลักฐานเอาผิดให้ได้ บอกมา 10 คนก็ว่าเยอะแล้วนี่มากันเป็นร้อย แบบนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่เพิ่มปัญหา และคำพูดให้ “อมขี้” ไม่ได้หมายถึงรัฐบาล  

วันที่ 8 ธันวาคม 2566 จากเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. 66 นายอรรถการณ์ จิตถวิล นายอำเภอเมืองสระบุรี พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาล ผกก.สภ.เมืองสระบุรี พร้อมกำลัง กอ.รมน. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำหมายศาลสระบุรี เลขที่ ค.289/2566 ลงวันที่ 7 ธ.ค. เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 91/104 หมู่บ้านจันทร์ทิพย์ หมู่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี ของนางสาวณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ หรือ เจ๊เอ๋ อายุ 47 ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลถึงผลกระทบที่เจ้าหนี้อย่างตนเองได้รับผลกระทบโดยตรง จากมาตรการที่รัฐบาลออกมาใช้ กับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน จนสื่อหลายสำนักติดต่อหรือขอสัมภาษณ์ พร้อมทั้งพูดออกสื่อช่องดัง ถ้ารัฐบาลแก้ปัญหานี้ได้ อมขี้มาพ่นใส่หน้าเจ๊ได้เลย ซึ่งผลการตรวจค้นทางเจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ของเจ๊เอ๋

   

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ เจ๊เอ๋ ซึ่งกำลังไลฟ์สดอยู่ จากนั้น เจ๊เอ๋ ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ ตนเองรู้สึกเจ็บ และเสียใจ รัฐบาลบาลออกกฎหมายมาเพื่อที่จะแก้ไข นี่ไม่ได้เป็นการแก้ไข แต่เป็นการกระทำกลั่นแกล้งตน ซึ่งตอนแรกตนก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อมานั่งดูกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ แค่นี้ มากันเป็นร้อย แค่ 10 คนก็เยอะไปแล้ว 

...


“เล่นกันกะว่าจะมาเอาฉันให้ตาย มาแล้วก็ไม่พบเจออะไร ทำไมไม่ออกมาพูดว่าต้องการมาพูดคุยว่าทางเราเป็นเจ้าหนี้ ซึ่งเราก็อยากแก้ปัญหาตามรัฐบาล ตอนนี้รู้สึกไม่พอใจ เนื่องจากมองว่าตัวเองถูกกระทำ ส่วนที่เจ้าหน้าที่เข้ามานั้น คิดว่า คงจะไปพูดสะกิดอะไรเข้าจึงทำให้เจ้าหน้าที่อ่อนไหว ซึ่งเรื่องนี้ มีนักข่าวเข้ามาถามเราก็ให้ข่าวไป แต่ถ้ารัฐบาลคิดจะแก้ไข ก็แก้ได้ แต่การแก้แบบนี้นั้นมันแก้ไม่จบ”


ส่วนที่พูดว่า “อมขี้” มาพ่นใส่หน้าตนนั้น หมายความว่าการที่รัฐบาลออกมาแบบนี้แล้วถ้าลูกหนี้ไม่โกง ให้อมขี้หมามาพ่นใส่หน้าตนได้เลย มันผิดตรงไหน ตนไม่ได้ไปว่ารัฐบาลและคำแค่นี้คิดว่าไม่แรง แล้วจะมาให้ขอโทษอะไร ซึ่งตนก็ไม่คิดที่จะขอโทษใดๆ เพราะมันไม่ใช่คำแรง ถ้าลูกหนี้ไม่โกงก็ไม่มีอะไร “คำพูดนี้ ไม่ได้ว่ารัฐบาลนะ พูดถึงลูกหนี้กับเจ้าหนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐบาลเลยทั้งสิ้น คิดกันไปเอง อย่าอ่อนไหว ซึ่งยืนยันที่จะไม่ขอโทษเพราะไม่ได้ว่าใคร ตีความหมายให้แตกด้วย”

    

เจ๊เอ๋ กล่าวเสริมว่า การที่รัฐบาลจะเข้ามาแก้ปัญหาหนี้นอกระบบนั้น ตนเองคิดว่าแก้ได้ แต่ต้องเข้าให้ตรงจุด คือต้องลงมาให้ถึงรากหญ้าเลย ต้องลงมาให้ถึงแก่นเลยถึงจะแก้ได้ โดยการให้ลูกหนี้ไปกู้เงิน โดยที่ไม่มีดอก ตนก็สบายด้วย โดยให้กู้ไปเลย คนละ 50,000 บาท เดือนนี้ลูกหนี้รอด แล้วเดือนต่อไปลูกหนี้จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายให้ธนาคาร และจะเอาอะไรไปจ่ายค่าไฟ เงินมันก็หมดไป รัฐบาลจะให้กู้ต่ออีกสัก 20,000 บาทไหม บอกเลยไม่มีทางได้ แต่สำหรับตนแล้ว “มึงไม่มีมึงมาเอา ส่งให้หมด เหลือกี่วันหักลบกลบหนี้ไป มึงเอาไปใหม่ได้ ง่ายๆ แฟร์ๆ”


เจ๊เอ๋ กล่าวอีกว่า การที่เจ้าหน้าที่มาตรวจค้นบ้านนั้น ตนก็ไม่คิดอะไร นายๆ ขอไว้ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ตนไม่พอใจ คือการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้อย่างนี้ ก็จะเอาอย่างนั้น จะเอาปืนไปบ้างล่ะ คือว่าจะเอาให้ได้จริงๆ ซึ่งตนมานั่งดูกล้องวงจรปิดภายในบ้านแล้ว รู้สึกว่าตัวเองโดนกระทำ รู้สึกเจ็บปวด ตอนนี้จะสู้แล้ว มีสิ่งหนึ่งที่ค้ำหัวตนอยู่ก็คือ “นายขอไว้” ผู้ใหญ่ที่มาคุยกับเราดีๆ ก็ขอไว้ แต่การกระทำของเจ้าหน้าที่บางคนตนรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก มากันทำไม มากันเป็น 100 คน ตนมีความผิดถึงขนาดนั้นเลยเหรอ แค่เข้ามาพูดคุยกับเราก็ได้ว่า เจ๊เอ๋ ผมขอเข้าตรวจค้นหน่อย ก็โอเคแล้ว อีกอย่างลูกของตนเป็นนักกีฬายิงปืน เยาวชนของจังหวัด กำลังจะคัดทีมชาติ อนาคตของเด็กล่ะ แล้วลูกเป็นนักกีฬายิงปืนขนาดนี้ จะไปเอาปืนอะไรมาเล่น ซึ่งตนก็ระวังอยู่แล้ว ตอนนี้ลูกไปโรงเรียน มีแต่เพื่อนถามลูกว่า แม่ออกทีวี แม่เป็นอะไรเหรอ มันส่งผลกระทบกับลูกอย่างมาก “ซึ่งเราไม่สนใจว่าคุณจะทำอะไรกับเรา ด่าได้เลย ว่าได้เลย หรือจะโพสต์ว่าอะไรก็ได้ แต่ขออย่าแตะลูก อย่าแตะผัว”