กฟภ.ลพบุรี เข้าซ่อมแซมเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ถูกพายุพัดล้มริมถนนสายคันคลองชลประทาน ลพบุรี-บ้านแพรกรวม 11 ต้น ทำไฟดับบริเวณกว้าง ตรวจพบนอตยึดโคนเสาถูกถอดหลายต้น คาดเสียหายรวมกว่า 1.4 ล้านบาท

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา ขณะที่เกิดลมพายุพัดแรงพัดในพื้นที่ตัวเมืองลพบุรี ปรากฏว่าเสาไฟฟ้าแรงสูงซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายคันคลองชลประทาน ลพบุรี-บ้านแพรก บริเวณหมู่ 8 ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี ได้หักโค่นล้มหลายต้นกีดขวางถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี และ สภ.ท่าหิน ต้องระดมกำลังให้การจราจรในช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วน ส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับบริเวณกว้างในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองลพบุรี ต.ท่าหิน ต.ป่าตาล ต.โพธิ์เก้าต้น ต.โก่งธนู ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 2 พันครัวเรือน ทันทีที่ทราบเหตุ นายเฉลียว โก่งเกษร ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ลพบุรี ได้ระดมทีมงาน 6 ทีม และการไฟฟ้าใกล้เคียงเช่นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.พัฒนานิคม โคกสำโรง และท่าวุ้ง เพื่อเข้าดำเนินการตัดจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้ประชาชนมีกระแสไฟฟ้าใช้อย่างเร่งด่วน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี และ สภ.ท่าหิน ได้ปิดถนนระยะทาง 1 กม.เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความรวดเร็ว รวมทั้งเร่งเคลียร์พื้นที่เพื่อเปิดการจราจร

...

จากการตรวจสอบจุดดังกล่าวเป็นทางโค้ง พบว่ามีเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาด 12.20 เมตรต่อสตับ ได้หักโค่นล้มจำนวน 11 ต้น อุปกรณ์บนเสาไฟทั้งสายไฟแรงสูงสายสื่อสารค่ายมือถือต่างๆ เสียหาย เป็นระยะทาง 500 เมตร หม้อแปลงไฟฟ้าได้รับความเสียหาย 2 เครื่อง เสาไฟส่องสว่างทางหลวงหักโค่นจำนวน 3 ต้น นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า เสาไฟฟ้าแรงสูงที่ตั้งอยู่ข้างศาลาที่พักผู้โดยสารริมถนนคันคลองชลประทานต้นหนึ่งมีร่องรอยการนอตที่ยึดเสาไฟฟ้ากับเสาสตับหายไปหลายอัน เป็นสาเหตุให้เสาไม่มีนอตยึด ซึ่งน่าจะมีมือดีขโมยถอดเอาไปขายโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิด ประกอบกับในช่วงเช้ามีลมกรรโชกแรงจึงทำให้เสาต้นดังกล่าวเกิดโยกคลอน น้ำหนักของสายไฟฟ้าและสายสื่อสารจึงดึงเสาไฟโค่นล้มระเนระนาดดังกล่าว เดชะบุญที่ไม่มีใครได้รับอันตราย แต่ก็ทำให้เกิดความเสียหาย ความเดือดร้อนนับพันครัวเรือน

เบื้องต้นในวันจันทร์ที่ 27 ก.พ. 66 เจ้าหน้าที่นิติกรของการไฟฟ้าลพบุรี จะได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิด โจรแสบรายนี้มาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยสถานการณ์ล่าสุดนายเฉลียว โก่งเกษร ผจก.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ลงพื้นที่ควบคุมการซ่อมแซมด้วยตนเอง ขณะนี้ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับพี่น้องประชาชนได้ทุกพื้นที่แล้ว ส่วนค่าเสียหายในเบื้องต้นประเมินอยู่ที่ 1.4 ล้านบาท หรืออาจมากกว่านั้น.