ระทึก รถบัสนำนักฟุตบอลอะคาเดมี รุ่น 14 ปีของ ร.ร.ดัง ชนทางลอดใต้สะพานถนนมอเตอร์เวย์ เจ็บ 10 คน รวมทั้งโค้ชอีก 2 ราย โดยอยู่ในระหว่างพานักกีฬาไปแข่งที่สนาม อ.บางเสาธง โดยได้ขับตาม GPS มาถึงทางลอดคิดว่าลอดสะพานได้ แต่สุดท้ายชนเข้าอย่างจัง โชคดีเด็กเจ็บเล็กน้อย
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 ม.ค. 66 ศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนขนาด 45-60 ที่นั่ง ชนทางลอดใต้สะพานถนนมอเตอร์เวย์ กม.30 สาย 7 ถนนเลียบคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดเปร็ง, จุดบางบ่อ เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณใต้สะพานลอดถนนมอเตอร์เวย์ พบรถบัสโดยสารขนาดใหญ่ของโรงเรียนชื่อดังย่านหนองจอก กรุงเทพมหานคร หมายเลขทะเบียน 33–7978 กทม. มีนักฟุตบอลอะคาเดมี อายุ 14 ปีของทีมโรงเรียนฯ โดยสารมาเต็มคันรถ อยู่ในสภาพช่วงหน้ารถ หลังคา ยุบพังเสียหาย เก้าอี้แถวหน้าหลุดลงมากองกับพื้น ในรถบัสมีผู้โดยสารมากันทั้งหมด 32 คน เป็นนักเรียน 26 คน โค้ช 6 คน ทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 11 คน และโค้ช 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์ บางบ่อ ส่วนนักเรียนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้นำทั้งหมดเดินทางต่อไปที่สนามแข่งขันเพื่อให้ทันเวลา
...
จากการสอบถาม เด็กนักเรียนที่โดยสารมาในรถคันดังกล่าว กล่าวว่า ตนและเพื่อน รวม 26 คน เดินทางมาจากหนองจอก เพื่อไปเตะฟุตบอลที่สนามใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรู้ตัวอีกที รถที่โดยสารมาชนเข้ากับสะพานแล้ว ทำให้มีเพื่อนได้รับบาดเจ็บประมาณ 11 คน และโค้ช 2 คน
ส่วนโชเฟอร์รถบัสดังกล่าว (โค้ช) กล่าวว่า ตนไม่รู้เส้นทางจึงได้เปิด GPS เพื่อนำทาง ขณะมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนเห็นสะพานคิดว่าน่าจะสามารถลอดผ่านได้ ซึ่งสตาฟฟ์โค้ชฟุตบอลที่เป็นคนดูทางบอกว่าสามารถลอดผ่านได้ ซึ่งตนก็ขับชะลอเบาๆ แล้ว แต่คาดการณ์ผิด หลังคารถจึงชนเข้ากับสะพานอย่างจัง โชคดีที่เด็กนักเรียนบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย โดยรถบัสยังสามารถขับได้ ตนจะนำกลับไปซ่อมที่อู่ย่านหนองจอกต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบรถบัสคันดังกล่าว คาดว่าคนขับน่าจะนำรถกลับไปที่แคมป์พักย่านหนองจอก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้หาข้อมูลจากอาสาสมัครมูลนิธิฯ และผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.