ตำรวจทางหลวงวังมะนาว จ.ราชบุรี สกัดจับกุมรถทัวร์รับจ้างขนชาวโรฮีนจาลักลอบเข้าประเทศไทยรวม 48 คน พร้อมผู้ต้องหาชาวไทย 3 คน โดยมาจากสุพรรณบุรี ไป จ.สงขลา ส่งตัว สภ.ปากท่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 7 ธ.ค.2565 ได้รับแจ้งจากหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงวังมะนาว ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี (สามแยกวังมะนาว) ได้ทำการจับกุมชาวโรฮีนจาได้ 48 คน แอบลักลอบโดยสารมาในรถทัวร์รับจ้างไม่ประจำทาง จึงไปตรวจสอบ ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.สมพงษ์ เอกวัฒน์ รอง ผกก.5 ปฏิบัติราชการ กก.2, ว่าที่ พ.ต.ท.อารัติ พายทอง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.
ตำรวจที่ทำการจับกุม ร.ต.ต.วรพงศ์ จั่นปาน, ร.ต.ต.กู้ศักดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา รอง สว.(ป.) ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล., ด.ต.ไพศาล เจริญเรืองทรัพย์, ด.ต.มนู เผ่าจันทร์, ส.ต.อ.ประเสริฐ พูลศิริ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสมศักดิ์ ดำนิล อายุ 28 ชาวบ้าน หมู่ที่ 1 ต.ในเตา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง, นายพงศ์ภัค รามพรหม อายุ 62 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 3 ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่, น.ส.มณทา โคตรพงษ์ อายุ 52 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 15 ต.เดิด อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร คนไทยทั้งหมด 3 คน ซึ่งเป็นคนขับและผู้ช่วยคนขับที่แอบลักลอบพาชาวโรฮีนจาจำนวน 51 คน รับมาจาก จ.สุพรรณบุรี นำไปส่งที่ จ.สงขลา แต่ถูกตำรวจทางหลวงวังมะนาวตรวจค้นและจับกุมไว้ก่อน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมรายงานว่า ได้ออกตรวจภายในเขตรับผิดชอบ พร้อมด้วยรถวิทยุของทางราชการ ระหว่างนั่นได้พบรถโดยสารไม่ประจำทาง ยี่ห้อ HINO สีขาว หมายเลขทะเบียน 34-2843 กรุงเทพมหานคร วิ่งผ่านมาตามถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ช่วงหลัก กม.ที่ 124-125 ในลักษณะไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ติดตามรถโดยสารคันดังกล่าว และให้สัญญาณเพื่อหยุดรถ เมื่อรถคันดังกล่าวจอดชิดขอบทางด้านซ้าย พบนายสมศักดิ์ ดำนิล (ทราบชื่อภายหลัง) แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ และพบ นายพงศ์ภัค รามพรหม (ทราบชื่อภายหลัง) และ น.ส.มณทา โคตพงษ์ (ทราบชื่อภายหลัง) เป็นผู้โดยสารนั่งมาด้านซ้ายของผู้ขับขี่
...
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สอบถามถึงเส้นทางการเดินรถ และจุดหมายปลายทาง ผู้ขับขี่ (นายสมศักดิ์) มีอาการพิรุธ ตอบคำถามวกไปวนมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขอตรวจสอบบุคคลบนรถ พบว่าบุคคลโดยสารทั้งหมดเป็นบุคคลต่างด้าว และไม่มีเอกสารแสดงตัวตนว่าเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทย จำนวน 48 คน โดยสอบถามจากนายสมศักดิ์ให้การว่า ตนเองและนายพงศ์ภัค และ น.ส.มณทา เดินทางจาก อ.เมืองราชบุรี ไปรับบุคคลต่างด้าวชาวโรฮีนจาทั้งหมด มาจากจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเดินทางไป อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยหลังจากนั้นจะมีผู้ติดต่อตนเองอีกทีว่าจะให้ไปส่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่ไหน ซึ่งระหว่างเดินทางจากจังหวัดสุพรรณบุรีได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมก่อนถึงที่หมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิรวมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุแห่งการจับกุมให้ทราบข้างต้นให้แก่ นายสมศักดิ์ ดำนิล คนขับรถที่พาชาวโรฮีนจามา และผู้ต้องหาทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวให้ นายสมศักดิ์ ดำนิล, นายพงศ์ภัค รามพรหม และ น.ส.มณทา โคตพงษ์ ทราบว่ามีฐานความผิดร่วมกันนำ หรือพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะ หรือช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่ต่างด้าว (มาตรา 63 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) ร่วมกันให้การช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการถูกจับ (มาตรา 64 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522)
ผู้ต้องหาที่ 4-51 ทราบว่ามีฐานความผิด (ใช้ล่าม) 1.เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต (มาตรา 81 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) ขณะจับกุม นายสมศักดิ์ ดำนิล, นายพงศ์ภัค รามพรหม และ น.ส.มณทา โคตพงษ์ (ผู้ถูกจับ) ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางนำส่ง ร.ต.อ.สุทธิพันธ์ สามคุ้มพิมพ์ พนักงานสอบสวนร้อยเวร สภ.ปากท่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.