สาวบ้านโป่งร้องบ้านทั้งหลังพังถล่มลงแม่น้ำแม่กลอง เหตุมีการสร้างเขื่อนฝั่งตรงข้าม ทำกระแสน้ำเปลี่ยนทิศ ด้าน นายก อบต.นครชุมน์ ตรวจสอบแล้ว เตรียมขออนุมัติสร้างเขื่อนฝั่งนี้ให้ ป้องกันตลิ่งพัง
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวไปพบกับ นายสมัย แก้วสอาด นายก อบต.นครชุมน์ อ.บ้านโป่ง และ น.ส.อาทิตยา พัฒน์วิชัยโชติ อายุ 22 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 ต.นครชุมน์ อ.บ้านโป่ง หลังได้รับการร้องเรียนว่าบ้านพักที่สร้างอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองถล่มลงทั้งหลัง เนื่องจากถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนตลิ่งพัง พร้อมนำภาพคลิปเหตุการณ์ขณะบ้านกำลังถล่มลงแม่น้ำ และพาไปดูร่องรอยความเสียหาย พบว่าบ้านพักดังกล่าวมีลักษณะเป็นห้องแถวชั้นเดียว ปลูกติดกันจำนวน 3 ห้อง ซึ่งเหลือเพียงซากปรักหักพัง
น.ส.อาทิตยา กล่าวว่า เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 18 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากคนที่บ้านว่า ได้ยินเสียงลั่นของผนังปูนแตก รู้สึกไม่ปลอดภัย จึงย้ายออกไปอยู่บ้านญาติ จากนั้นก็ปรากฏรอยร้าวที่ตัวบ้านหลายแห่ง และความเสียหายได้เพิ่มมากขึ้น จึงช่วยกันขนย้ายทรัพย์สิน และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ออกจากบ้าน กระทั่งเวลา 15.00 น. ของวันที่ 19 ต.ค. บ้านทั้งหลังก็พังทลายลงมา

...
เจ้าของบ้านที่พังถล่ม กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุตนมองว่า อาจเกิดจากการที่เขื่อนแม่น้ำแม่กลอง มีการระบายน้ำออกมาในช่วงที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำแม่กลองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับฝั่งตรงข้ามมีโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันริมตลิ่งพัง จึงทำให้กระแสน้ำพุ่งเข้ามายังขอบตลิ่ง และได้ชะเอาดินฝั่งบ้านของตนออกไป เมื่อเข้าสู่ภาวะปกติ ปริมาณในแม่น้ำลดลง จึงเป็นเหตุให้ตอม่อ คาน และเสาเกิดการทรุดตัว ไม่สามารถรับน้ำหนักของตัวบ้านทั้งหลังไว้ได้ จึงถล่มลงมาในสภาพดังกล่าว

น.ส.อาทิตยา กล่าวอีกว่า เบื้องต้นความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท แม้ว่าที่ตั้งของตัวบ้านจะไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ด้วยที่ดินดังกล่าวเป็นที่ริมตลิ่งที่ครอบครัวใช้ประโยชน์มาตั้งแต่สมัยปู่ย่า ทำให้ตนและครอบครัวไม่สามารถได้รับความเหลือใดๆ จากหน่วยงานภาครัฐ แต่อยากวอนขอให้ภาครัฐเร่งแก้ไขสร้างเขื่อนป้องกันริมตลิ่งตลอดทั้งแนวโค้งน้ำ เพื่อป้องกันมิให้บ้านเรือนของประชาชนคนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายเช่นเดียวกับบ้านของตน

ทางด้าน นายสมัย แก้วสอาด นายก อบต.นครชุมน์ เปิดเผยว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียน เร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่กองช่างลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบ้านเรือนของประชาชนตลอดแนวริมตลิ่งแม่น้ำของ ต.นครชุมน์ เบื้องต้นพบว่ามีบ้านของ น.ส.อาทิตยา เพียงหลังเดียวที่ได้รับความเสียหาย แต่ไม่สามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือ หรือเงินชดเชยได้ เนื่องจากไม่มีเอกสารสิทธิ์ถือครองที่ดิน ในส่วนของแผนรองรับ ตนได้ประสานไปยังสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดราชบุรี เพื่อขอจัดทำโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันริมตลิ่งต่อไป.