ปลัดจังหวัดนครปฐม และจนท.เกี่ยวข้องประชุมข้อมูลแจงกรณีสารเคมีรั่วไหล โดยสาเหตุมาจากหม้อต้มน้ำมันร้อนรั่ว สำหรับสารที่ระเหยออกไปไม่ใช่สารก่อมะเร็ง เร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 17 รายใน 15 วัน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.ย. 65 ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นายยงยุทธ สวนทอง ปลัดจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.นครปฐม, ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5, ผู้แทนอุตสาหกรรม จ.นครปฐม, นายอำเภอนครชัยศรี สามพราน และพุทธมณฑล และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมชี้แจง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ในพื้นที่ 3 อำเภอ นครชัยศรี สามพราน และพุทธมณฑล เพื่อนำข้อมูลไปถ่ายทอดสู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง

จากกรณีเกิดเหตุน้ำมันในระบบทำความร้อนรั่วไหล ของบริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ จำกัด (มหาชน) ตำบลขุนแก้ว อ.นครชัยศรี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก ที่มีสารรั่วไหลส่งกลิ่นเหม็นลอยขึ้นอากาศฟุ้งกระจายไปทั่ว เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ในพื้นที่ 3 อำเภอ รวมไปจนถึงบางพื้นที่ในจังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พบว่า เกิดการชำรุดรั่วไหลที่หม้อต้มน้ำมันร้อน (Hotoil Boiler) เป็นสารเคมีกลุ่มอะโรมาติกเบนซีน ชนิดไบฟีนิล และ ไดฟีนิลออกไซด์ มีคุณสมบัติน้ำหนักเบา เมื่อรั่วไหลจึงลอยขั้นอากาศกระจายไปได้ไกลจากจุดเกิดเหตุ ส่งผลกระทบเมื่อสัมผัส จะทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ

สำนักงานสาธารณสุข จ.นครปฐม ได้รายงานประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เข้ารับบริการตรวจรักษาตามอาการ เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 65 ซึ่งมีประชาชนได้รับผลกระทบ รวมทั้งสิ้น 17 คน อยู่ในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี 5 คน อำเภอพุทธมณฑล 9 คน และอำเภอสามพราน 3 คน หลังจากการตรวจรักษาไม่พบอาการรุนแรง สามารถเดินทางกลับบ้านได้ตามปกติ ทั้งนี้ ได้เฝ้าสังเกตและติดตามอาการจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ไม่พบอาการผิดปกติแต่อย่างใด

...

ในส่วนของจังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผวจ.นครปฐม ได้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสารเคมีรั่วไหล ของบริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ วิธีการทางป้องกันและหาแนวทางเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ภายใน 15 วัน อีกทั้งสำนักงานอุตสาหกรรม จ.นครปฐม ได้มีคำสั่งตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ให้บริษัทฯ หยุดประกอบกิจการโรงงานบางส่วน ของส่วนหม้อต้มน้ำมันร้อนที่ชำรุด จนกว่าจะปรับปรุงให้แล้วเสร็จพร้อมทั้งมีคำรับรองของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมก่อนเปิดใช้งาน นอกจากนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ทำการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ความเข้มของสารระเหยเบนซีน จำนวน 11 จุด ผลการตรวจวัดไม่เกินค่ามาตรฐาน ตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง ขีดจำกัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายเบนซีน สำหรับการสัมผัสในระยะเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 15 นาที พบค่าเบนซีน ไม่เกิน 5 ppm

สำหรับผลกระทบที่ประชาชนมีความกังวล ในเรื่องของสารก่อมะเร็งจากไอระเหยของน้ำมันที่รั่วไหล นางจันทนา ภาคย์ทองสุข ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 เผยว่า สารเคมีกลุ่มอะโรมาติกเบนซีน ชนิดไบฟีนิลและไดฟีนิลออกไซด์ เป็นสารที่มีกลิ่น ก่อให้เกิดความระคายเคือง เช่น แสบตา โพรงจมูก และระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งผู้ที่มีโรคประจำตัว เด็ก และผู้สูงอายุ อาจได้รับผลกระทบมากกว่าปกติ แต่ไม่ใช่สารก่อมะเร็งแต่อย่างใด

จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการ เพื่อความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ได้จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว พร้อมเครื่องมือตรวจวัดคุณภาพอากาศ ออกปฏิบัติหน้าที่บริเวณที่ได้รับผลกระทบ หากประชาชนพบกลิ่นสารเคมีรั่วไหล สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 062-369-5198, 081-195-5747 และ 094-558-2884 เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ต่อไป.