เขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท ระบายแตะ 1,800 ลบ.ม./วินาที เตือน 11 จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเตรียมรับมือ ด้านประชาชนใน อ.สรรพยา ที่อยู่ท้ายเขื่อนอุดท่อระบายน้ำกันเอ่อล้นท่อเข้าท่วม
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ล่าสุดวัดได้ 15.78 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้เพิ่มอัตราการระบายน้ำขึ้นไปที่อัตรา 1,799 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ท้ายเขื่อน มีระดับน้ำเพิ่งสูงขึ้นอยู่ที่ 13.87 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
กรมชลประทานมีแผนปรับเพิ่มการระบายน้ำไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที แบบขั้นบันได เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตร โดยปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อน เจ้าพระยาตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2565 ในอัตรา 1,800-2,000 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน 0.40-0.50 เมตร ในช่วงวันที่ 5-6 กันยายน 2565 ทั้งนี้ หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลให้ มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,000 ลบ.ม./วินาที
...
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ กรมชลประทานได้แจ้งเตือน 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ตั่งสินชัย นายอำเภอสรรพยา เปิดเผยว่า พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ดำเนินการอุดท่อระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมเข้าหมู่บ้านบริเวณลุ่มต่ำ เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาได้ระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 1,799 ลบ.ม./วินาที ณ บริเวณพื้นที่บางใหญ่ ม.2 ต.หาดอาษา, บางตาเซีย ม.9 ต.หาดอาษา, บางตาเพชร ม.4, 5 ต.โพนางดำออก, บางวัดโพธิมงคล ม.1 ต.บางหลวง และบริเวณบานประตูน้ำบางใหญ่ ม.1 ต.โพนางดำออก ที่เกิดน้ำกัดเซาะตลิ่งทำให้มีการทรุดตัวลง เขตเทศบาลตำบลโพนางดำออก จึงได้ดำเนินการตอกเสาเข็มและวางถุงบิ๊กแบ็กเพื่อป้องกันการทรุดของตลิ่งตัวเพิ่มแล้ว รวมทั้งเขตเทศบาลตำบลบางหลวง ซึ่งได้มีการสร้างคันดินกั้นน้ำเข้าบริเวณ ม.2 ต.บางหลวง
อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ ทางอำเภอสรรพยา ได้มีการติดตามน้ำท่าจากกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด และได้มีการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำทางด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อย่างต่อเนื่อง.