นายกเทศมนตรีนครรังสิต “นายกโบว์ลิ่ง” โดนวางยาพิษ วูบคาห้องทำงานต้องหามส่งโรงพยาบาลกะทันหัน ช่วงเกิดเหตุดื่มน้ำแก้วเดียวแล้วแขนขาชาไม่มีแรง นอนพักผ่อนกลับทรุดหนักทั้งเบลอ มือเขียวไม่มีเลือดไปเลี้ยง ความดันพุ่งกว่า 180 นอนรักษาตัวถึง 2 วัน แพทย์ตรวจหลอดเลือด หัวใจ สมองเป็นปกติ เคี้ยวสมุนไพรพิสูจน์ถึงรู้ว่าถูกวางยาพิษ เพราะว่าลิ้นเป็นสีดำ เชื่อสารพิษปะปนมากับอาหาร “บิ๊กแจ๊ด” ฝากเตือนคนวางยาให้ระวังตัวให้ดี ย้ำลูกใครใครก็รัก

เหตุมือมืดวางยานายกโบว์ลิ่ง ลูกชาย “บิ๊กแจ๊ด” หวิดสิ้นชื่อรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเข้าพบ ร.ต.อ.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง หรือนายกโบว์ลิ่ง นายกเทศมนตรีนครรังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อสอบถามกรณีวูบหมดสติคาที่ทำงานต้องหามส่งโรงพยาบาลกะทันหัน คาดว่าถูกวางยาพิษ โดย ร.ต.อ.ตรีลุพธ์เปิดเผยว่า เหตุเกิดช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนั่งทำงานในห้องทำงานที่สำนักงานเทศบาลนครรังสิต ได้ดื่มน้ำไป 1 แก้ว แล้วรู้สึกตัวชาแขนขาไม่มีเรี่ยวแรง ตอนแรกคิดว่าคงพักผ่อนไม่พอ นอนพักเอาแรงอยู่นาน แต่อาการกลับแย่ลงรู้สึกเวียนศีรษะและมีอาการวูบ เรียกให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ พบว่ามือทั้งสองข้างคล้ำไม่มีเลือดไปเลี้ยง เจ้าหน้าที่รีบส่ง รพ.เปาโล รังสิต นอนรักษาตัวถึง 2 วัน เอกซเรย์สมองและหัวใจปกติดี ตอนนี้รอผลตรวจเลือดในห้องแล็บ

นายกเทศมนตรีนครรังสิตกล่าวว่า ไม่รู้ว่าตัวเองโดนวางยาจนกระทั่ง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี พ่อ เข้ามาสอบถามและทำการทดสอบด้วยสมุนไพร ถึงรู้ว่าได้รับสารพิษบางอย่างเข้าไปในร่างกาย และน่าจะปะปนมากับอาหาร หากได้กินในปริมาณที่มากอาจทำให้เสียชีวิตได้ เรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นฝีมือของคู่แข่งทางการเมืองหรือไม่ ตนไม่ทราบและไม่ได้โฟกัสตรงนั้น เพราะเพิ่งทำหน้าที่นายกเทศมนตรีนครรังสิตเพียงหนึ่งปีเท่านั้น เชื่อว่ายังไม่มีศัตรูทางการเมือง พร้อมทั้งฝากบอกผู้ที่ก่อเหตุว่าหากเป็นการวางยาจริง เป็นเรื่องที่สกปรกไม่ใช่ลูกผู้ชาย และหลังจากนี้คงต้องรอบคอบและระมัดระวังตัวมากขึ้น

...

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี อดีตนายตำรวจมือปราบ กล่าวว่า ที่ตัดสินใจใช้สมุนไพรทดสอบสารพิษ เพราะลูกชายมีร่างกายแข็งแรง ไม่เคยมีอาการเกี่ยวกับทางสมองหรือหลอดเลือด อยู่ๆก็วูบไป มีอาการเบลอ ความดันขึ้นสูงมาก
ผิดปกติถึง 180 กว่า มือเขียว แต่เมื่อพาไปตรวจโดยละเอียดกลับไม่พบความผิดปกติ แต่ตนเป็นแพทย์ทางเลือก รู้ว่าอาการแบบนี้แสดงให้เห็นว่าขาดเลือดกะทันหันอย่างเฉียบพลัน แต่จากการทำเอ็มอาร์ไอที่ รพ.เกษมราษฎร์ ทั้งหลอดเลือดสมอง หัวใจ ทุกอย่างออกมาปกติ จึงฉุกคิดถึงสิ่งผิดปกติว่าอาจจะเกิดจากฝีมือใครหรือไม่ นำสมุนไพรชนิดหนึ่ง (ไม่ขอบอกชื่อ) ให้ลูกชายเคี้ยวทดสอบจำนวน 10 ใบ ปรากฏว่าลิ้นของลูกชายเปลี่ยนเป็นสีดำ แสดงว่ามีสารที่เป็นพิษเข้าไปในร่างกาย เพราะหากเป็นคนปกติเคี้ยวสมุนไพรชนิดนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ส่งลูกชายไปตรวจเลือดโดยละเอียดที่ รพ.จุฬาภรณ์ เพื่อแยกวิเคราะห์ผลเลือดย่างละเอียด จะทราบผลในวันที่ 16 มิ.ย.นี้

นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวต่อว่า ผ่านมา กว่า 1 สัปดาห์แล้ว ลูกชายยังมีอาการเบลอๆ ไม่ปกติ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังจับมือใครดมไม่ได้ และยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีใคร จากนี้คงต้องให้ลูกชายระมัดระวังตัวมากขึ้น พร้อมฝากถึงผู้ที่ก่อเหตุว่าให้ระวังตัวเหมือนกัน เพราะลูกใครใครก็รัก การทำแบบนี้เป็นเรื่องสกปรก หากเป็นลูกตัวเองถูกกระทำบ้าง จะรู้สึกอย่างไร