พบศพสาวลพบุรีท้อง 4 เดือนผูกคอตายอืดในบ้าน ด้านแม่ผู้ตายเผยลูกสาวเครียด ผัวเก่าที่มีลูกกัน 2 คน ออกคุกกลับมาอยู่ด้วย แต่เริ่มชีวิตใหม่ มีสามีใหม่แล้ว สลดในมือศพกำแบงก์ร้อยไว้ คาดไปใช้ภพหน้า
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2565 ร.ต.อ.ธนพล แก้วบริวงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม ลพบุรี ได้รับแจ้งมีผู้ผูกคอตายที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 11 ต.โคกสลุง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.พัฒนานิคม ฝ่ายปกครอง นคร88 และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดพัฒนานิคม
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น มีชาวบ้านและญาติคนตายจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ ที่ชั้นล่าง เมื่อเปิดประตูได้กลิ่นเน่าเหม็นตลบอบอวล ภายในห้องนอนพบร่าง น.ส.นุชจรี ตลับทอง อายุ 30 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อสายเดี่ยวลายการ์ตูน กางเกงแบบชุดนอน เลือดน้ำเหลืองไหลนองพื้น แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ ที่ลำคอมีเชือกลักษณะคล้ายสายกระเป๋าสีดำรัดอยู่ที่ลำคอ โดยมีเชือกไนลอนสีขาวมัดต่อกัน จากการตรวจสอบพบเชือกไนลอนสีขาวยังมัดอยู่กับขื่อภายในห้องนอน ซึ่งคาดว่าคงจะขาดจากความทุรนทุรายก่อนสิ้นใจ จนศพร่วงลงมากองกับพื้น และที่มือซ้ายของคนตายยังกำเงินแบงก์ 100 จำนวน 1 ใบไว้แน่น ที่พื้นบ้านคนตายได้ใช้ปากกาเคมีสีดำ เขียนด้วยลายมือตัดพ้อ ระบายความในใจของตนเองที่สับสนวุ่นวาย ซึ่งพอจับใจความได้ว่าน้อยใจตัวเอง และน้อยใจครอบครัว
...
จากการสอบถามนางจำเนียร ตลับทอง อายุ 52 ปี แม่ซึ่งยังโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดกับลูกสาว ให้การด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า บ้านหลังนี้ลูกสาวอยู่กับหลาน ที่เกิดจากสามีเก่า 2 คน ซึ่งอดีตลูกเขยได้ถูกจับกุมดำเนินคดีเมื่อหลายปีก่อน แต่ได้รับอภัยโทษออกจากเรือนจำก่อนกำหนด และได้กลับมาลูกสาวตน ซึ่งลูกสาวตนได้มีสามีใหม่ และตั้งท้องได้ประมาณ 3-4 เดือนเศษ จนลูกสาวสับสนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกใคร ระหว่างสามีใหม่และเก่า อีกทั้งมีลูกด้วยกันทั้งอดีตสามี และสามีใหม่ จนเกิดอาการซึมเศร้า เหม่อลอย ซึ่งตนเอง ญาติและครอบครัวก็บอกให้ดำเนินชีวิตกับครอบครัวลูกด้วยตนเอง เพราะแม่ก็ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจให้อย่างไรดี
นางจำเนียรผู้เป็นแม่ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. 2565 ตนเองก็ไม่ได้พบหน้าลูกอีกเลยเพราะว่าต้องทำไร่มันสำปะหลัง และอยู่กันคนละที่ จนมาทราบข่าวจากเพื่อนบ้านว่าลูกสาวผูกคอตายทั้งกลมภายในบ้าน ตนเองรู้สึกเสียใจที่ลูกมาตัดสินใจหนีความสับสนในชีวิตในครั้งนี้ ขอให้ลูกไปสู่ภพที่ดี ซึ่งก่อนที่ลูกจะตายลูกได้กำเงินร้อยบาท ซึ่งเป็นความเชื่อของคนโบราณเรื่องนำเงินเป็นค่าเดินทางไปสู่สวรรค์ ติดตัวไปใช้ในโลกแห่งความตาย และแบ่งให้ลูกที่ตายตามไปด้วยได้ใช้ในภพภูมิหน้า ซึ่งบรรยากาศการเก็บศพสร้างความสะเทือนใจ สลดหดหู่ให้กับญาติเพื่อนบ้านเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องมาสูญเสียลูกและหลานไปในคราวเดียวกัน ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้นำศพส่งพิสูจน์สาเหตุอีกครั้งที่ รพ.ซึ่งทางญาติไม่ติดใจในการตายขอนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาใกล้บ้าน