“เราไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน เรามีกฎหมาย ผมขอให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนไทยว่า เราจะมีการสืบ สวนสอบสวนดำเนินคดีไปถึงผู้สั่งการในคดีนี้ ฝากถึงกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ยังคิดจะใช้วิธีการป่าเถื่อนแบบนี้ ผมจะมีมาตรการที่เข้มข้นกว่าเดิมสำหรับคดีประเภทนี้” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พูดถึงคดีที่มีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามดักยิงถล่มรถตู้คณะของ ดร.ญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ จ.นครนายก ช่วงคํ่าวันที่ 15 ก.พ. ที่ถนนสายปากท่อ-เตยน้อย ต.ศรีจุฬา อ.เมือง จ.นครนายก ทำให้คนขับรถและรองนายก อบต.บางสมบูรณ์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนนายก อบต. และผู้ติดตาม ได้รับบาดเจ็บ

คนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์ อุกอาจ สะเทือนขวัญและเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

ท้าทายทีมสืบสวนตำรวจกับการปิดคดียิงถล่มนายก อบต.ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่

กับแผนประทุษกรรมของทีมสังหารมืออาชีพใช้ปืนอาก้ายิงถล่มเป้าหมายที่นั่งหลังเบาะคนขับ ซึ่งเป็นที่นั่งประจำของ ดร.ญาณกร เป้าสังหาร แต่วันเกิดเหตุเปลี่ยนที่นั่งทำให้รองนายก อบต.เป็นเหยื่อกระสุนปืนแทน

...

จุดเกิดเหตุที่คนร้ายเลือกเป็นพื้นที่ดักยิงถล่มอยู่ในพื้นที่เปลี่ยว ไม่มีกล้องวงจรปิดที่จะเชื่อมโยงถึงตัวกลุ่มมือปืน เป็นงานยากของชุดสืบสวนคลำหาพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดทีมสังหาร ซึ่งวางแผนมาเป็นอย่างดี

ปมขัดแย้งการเมืองท้องถิ่นที่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลใช้รูปแบบเก่าๆ มาทำความรุนแรงในพื้นที่นครนายกเกิดซ้ำอีกรอบ ทำให้คนเกิดความหวาดกลัว คนในพื้นที่ทราบดีว่า ปมสาเหตุมาจากเรื่องอะไร มีใครเข้ามาเกี่ยวข้อง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ มอบ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.กิจจา แสงชวลิต รอง ผบก.ภ.จ.นครนายก พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผกก.กก.2 บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.ธนเสฎฐ์ ประชาชัยศรี ผกก.กก.3 บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.อิทธิกร จิรัตนานนท์ ผกก.ปพ. บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จ.สระแก้ว ถูกคำสั่งของ ผบ.ตร.ให้ลงพื้นที่ร่วมกันคลี่คลายคดีที่มีผู้มีอิทธิพลพัวพัน

งานนี้โชคไม่เข้าข้างทีมบงการ ดร.ญาณกร เหยื่อกระสุนรอดตายปาฏิหาริย์ มาเป็น “พยานปากเอก” ให้ข้อมูลชุดสืบสวนถึงปมสาเหตุถูกยิงถล่ม เป็นเรื่องขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น มีกลุ่มสูญเสียผลประโยชน์และเข้าข่ายถูกดำเนินคดี ทีมสังหารต้องลงมือ “ฆ่าปิดปาก” ทีมนายก อบต.ก่อนวันที่ 18 ก.พ.

นายก อบต.รู้สถานการณ์ของตัวเองดีว่า ชีวิตไม่มีความปลอดภัย เป็นเป้าหมายที่ถูกสั่งเก็บ

มีคนใน อบต.อยู่ในทีมสังหารหลอกล่อนายก อบต.มาเป็นเป้ากระสุน เป็นข้อมูลเหยื่อให้ทีมสืบภาค 2 และ บก.ป. เพราะเหยื่อไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ชุดสืบสวนทำคดีแบบเงียบๆ ไม่ให้ข้อมูลสืบสวนหลุดรอดไปถึงทีมผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่คอยให้ข่าว และมีการทำลายพยานหลักฐาน เพื่อไม่ให้สาวถึงตัวการใหญ่

เหมือนคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่นครนายกถูกเก็บเงียบไม่ได้เร่งทำคดี ทั้งที่มีข้อมูลผู้บงการฆ่า

ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิดพื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุ ได้หลักฐานสำคัญ “กล้องหน้ารถตู้” คันที่ทีมนายก อบต.นั่งมาวันเกิดเหตุ จับภาพรถยนต์มิตซูบิชิสีบรอนซ์เงิน-เทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขณะขับรถประกบยิงถล่ม 2 ระลอกก่อนรถของนายก อบต.จะเสียหลักพุ่งลงข้างทาง ชุดสืบสวนได้ภาพกล้องวงจรปิดกลุ่มคนร้ายนำรถยนต์ฮอนด้า สีเทา ทะเบียน 5กพ 5180 กรุงเทพมหานคร มาสับเปลี่ยนในการหลบหนีเจ้าหน้าที่

...

เป้าหมายกลุ่มผู้ต้องสงสัยเริ่มชัด ชุดสืบ สวนเรียกพยานสอบ ค้นข้อมูลรถยนต์ใช้ก่อเหตุ ขยับเข้าหากลุ่มทีมสังหารทำให้เริ่มตื่น นายรัฐพลหรือบิ๊ก ตันสุวรรณรัตน์ “กุมารขาว” อายุ 35 ปี ผู้ช่วยนายช่าง อบต.บางสมบูรณ์ อยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัยตามข้อมูลของพยานได้หลบหนีออกจากบ้านและลาออกจาก อบต.บางสมบูรณ์ นายธวัชชัย หรือวัช ศรีชาญ ผู้สมัครนายก อบต.ศรีจุฬา เป็นผู้นำรถยนต์ฮอนด้าเปลี่ยนให้ทีมมือปืนใช้วันเกิดเหตุ

ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.2 และ บก.ป. รายงานสรุปงานสืบสวนเสนอ ผบ.ตร.ว่า พบการเคลื่อนไหวของกลุ่ม “มือปืน” และ “ผู้บงการ” ขยับทำลายหลักฐาน หลบหนีและวิ่งเข้าซุกปีกนักการเมือง ผบ.ตร.ให้ขออนุมัติศาลจังหวัดนครนายก ออกหมายจับ 3 ผู้ต้องหา นายรัฐพล ตันสุวรรณรัตน์ หรือ “บิ๊ก” หรือ “กุมารขาว” อายุ 35 ปี ผู้ช่วยนายช่าง อบต.บางสมบูรณ์ นายภูริวัฒ นิ่มเรือง หรือ “ออด” หรือ “กุมารดำ” อายุ 52 ปี อดีตเลขานายก อบต.บางสมบูรณ์ และ นายธวัชชัย ศรีชาญ หรือ “วัช” อายุ 48 ปี ผู้สมัครนายก อบต.ศรีจุฬา จ.นครนายก

สั่งให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 นำทีม “ชุดหนุมาน กองปราบ” และ “ชุดบูรพา 491” ปูพรมบุกจับกลุ่มมือปืนยิงถล่มรถนายก อบต.หลังเกิดเหตุไม่กี่วัน ก่อนพบรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุที่นำไปหลบซ่อนไว้ในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยมีนักการเมืองท้องถิ่นนำมาฝากไว้ ซึ่งก่อนหน้าพบว่ากลุ่มคนร้ายมีความพยายามนำรถเข้ามาที่อู่เปลี่ยนสีรถใหม่ทับสีเดิมเพื่ออำพรางคดี

...

นายภูริวัฒ ที่หลบหนีก่อนถูกค้นบ้าน สุดท้ายขอมอบตัว หลังทราบข้อมูลว่า นายธวัชชัยหรือวัช ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเปิดปากให้การรับสารภาพโยงทีมมือปืนและผู้บงการเป็น “ตัวละคร” ชุดแรกที่เปิดตัวออกมา

คนในพื้นที่รู้จักกันดีว่า ฉายา “กุมารขาว” และ “กุมารดำ” ยิ่งใหญ่ขนาดไหนในพื้นที่นครนายก

การขยายผลจับกุมทีมสังหารที่เป็นผู้กว้างขวางมีอิทธิพลในพื้นที่ของชุดสืบสวน ทำให้ชาวบ้านกล้ามาให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับกุมนักการเมืองท้องถิ่น 2 คนที่เข้ามาพัวพัน

พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยืนยันชัดว่า “คนที่ร่วมก่อเหตุ อยู่ในขบวนการมีมากกว่า 3 คนที่ขอหมายจับ เมื่อไหร่มีพยานหลักฐานจะออกหมายจับเพิ่ม” เป็นประเด็นชุดสืบสวนไล่หาพยานหลักฐานเข้าถึงตัว “ผู้บงการ” และ ผบ.ตร.มีคำสั่งให้โอนสำนวนคดีให้กองปราบปรามเข้ามาทำคดี เนื่องจาก “ตัวละคร” ที่เกี่ยวข้องมีอิทธิพล

จากคดียากๆของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ยิงถล่มคู่ขัดแย้งไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่หลุดรอดมือทีม บก.ป.และ บก.สส.ภ.2 สืบหาพยานหลักฐานทุกช่องทาง นำไปสู่การเปิดตัว “ผู้สังหาร” ตัวจริง.

ทีมข่าวอาชญากรรม