"พลายงาอ้วนเล็ก" ทนพิษบาดแผลไม่ไหว หลังถูก "พลายโยโย่" ช้างที่ตัวใหญ่กว่าใช้งาแทงนับได้ 6 แผล ล้มตายข้างหนองน้ำ ไม่ไกลจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ คาดติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด 

จากกรณี ช้างป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 2 ตัวได้ต่อสู้กันจากที่ตกมันเพื่อแย่งชิงตัวเมียเพื่อจะผสมพันธุ์ โดยช้างตัวที่ใหญ่กว่าชื่อโยโย่ และตัวที่เล็กกว่าชื่อพลายงาอ้วนเล็ก ปรากฏว่าพลายงาอ้วนเล็กไม่สามารถสู้กับพลายโยโย่ได้ จึงถูกทำร้ายจนกระทั่งหางเกือบขาด และมีบาดแผลจากการถูกงาแทงตามลำตัวหลายแห่ง ในช่วงวันที่ 26 ธ.ค. 64 นั้น

ต่อมา วันที่ 29 ธ.ค. 64 นายสว่าง กองอินทร์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สัตวแพทย์หญิงชนัญญา กาญจนสาขา สัตวแพทย์ประจำอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พร้อมทีมสัตวแพทย์ จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) และจากส่วนกลางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อทำการรักษาพลายงาอ้วนเล็ก พบว่าบริเวณหางถูกทำร้ายจนเกือบขาด แผลเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็น ตามลำตัวพบว่ามีรอยถูกงาแทงจำนวน 6 แผล ทางทีมสัตวแพทย์จึงให้การรักษาโดยการตัดหาง และรักษาแผลให้ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ หลังจากนั้นได้ติดตามอาการและทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งต่อมา นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับรายงานจาก นายสุทธิพร สินค้า เจ้าหน้าที่ประจำอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ติดตามดูอาการของช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บ แจ้งว่าช้างพลายงาอ้วนเล็กเสียชีวิตอยู่บริเวณหนองน้ำ ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ ประมาณ 1 กิโลเมตร สาเหตุเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว และคาดว่าบาดแผลเกิดการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด เมื่อช่วงค่ำวานนี้

...

ล่าสุดวันที่ 10 มกราคม นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า ช้างพลายงาอ้วนเล็กได้ล้มแล้ว คาดติดเชื้อทนพิษบาดแผลไม่ไหว เมื่อได้รับรายงานจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และได้นัดหมายกับสัตวแพทย์หญิงชนัญญา กาญจนสาขา สัตวแพทย์ประจำอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าชันสูตรถึงสาเหตุการตายของช้างป่า พบว่าช้างพลายงาอ้วนเล็ก ทนพิษบาดแผลไม่ไหว

"เนื่องจาก ตามลำตัวมีบาดแผลขนาดใหญ่ถูกแทงถึง 6 รู เกิดจากการต่อสู้กันเองระหว่างช้างป่า ซึ่งใช้งาแทงใส่ลำตัวของช้างป่าคู่ต่อสู้ โดยในช่วงเช้าของวันที่ 10 มกราคม 2565 ได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดป่าเขาใหญ่ มาทำพิธีสวดบังสุกุล เพื่อส่งดวงวิญญาณของช้างพลายงาอ้วนเล็กสู่สุคติ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ถอดเอางาของช้าง เพื่อนำส่งไปเก็บรักษาไว้ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตามระเบียบของทางราชการ แล้วดำเนินการฝังกลบซากของช้าง นำรายละเอียดเหตุการณ์ไปลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ที่สถานีตำรวจภูธรหมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา".