พบนักท่องเที่ยวจากประเทศอังกฤษเข้าไทยผ่านระบบแซนด์บ็อกซ์ที่ภูเก็ต เดินทางต่อมาชะอำ หัวหิน ติดโควิดโอมิครอน 3 คน อยู่ระหว่างรอผล 1 คน ไทม์ไลน์ไปกินอาหารแล้วใน 5 ร้าน เข้าพักโรงแรมมาตรฐาน SHA เดินทางในพื้นที่ด้วยรถโดยสารสาธารณะ

วันที่ 24 ธันวาคม 2564 นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นพ.วรา เศลวัตนะกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดประจวบฯ ที่ห้องสิงขร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัด หลังพบนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 3 ราย มีผลตรวจติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่อำเภอหัวหิน และมีนักท่องเที่ยวอังกฤษอีก 1 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน เนื่องจากเชื้อที่ส่งตรวจ RT-PCR มีไม่มาก

แจ็กพอต หัวหินเจอ 3 นักท่องเที่ยวอังกฤษติดโควิด "โอมิครอน" ยังลุ้นอีก 1

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวต้องการตรวจหาเชื้อก่อนเดินทางกลับประเทศต้นทาง ขณะนี้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน สำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ ขอให้ชะลอไว้ก่อน ส่วนองค์กรเอกชนที่จะจัดงานปีใหม่ ก็ขอให้ใช้แนวทางโควิดฟรีเซตติ้ง (COVID-Free Setting) พร้อมตรวจหาเชื้อจากผู้เข้าร่วมงานด้วยชุดตรวจเอทีเค (ATK)

...

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์ แยกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกโดยสารเครื่องบินจากประเทศอังกฤษลงที่สนามบินภูเก็ต ผ่านระบบแซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 กลุ่มที่ 2 เข้ามาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต จากนั้นกลุ่มที่ 1 เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วนั่งแท็กซี่ไปพักที่อำเภอชะอำ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564

กลุ่มที่ 2 เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วไปหาเพื่อนที่อำเภอชะอำ และเข้าพักที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ กลุ่มผู้ติดเชื้ออยู่ที่หัวหินตั้งแต่วันที่ 12-15 ธันวาคม 2564 เข้าพักในโรงแรมที่มีมาตรฐาน SHA รับประทานอาหารในร้าน 5 แห่ง เดินทางไปเที่ยวในพื้นที่โดยใช้บริการรถโดยสารสาธารณะที่มีการลงทะเบียน

ด้าน นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกจากการพบโควิดกลายพันธุ์ ขอให้เชื่อมั่นว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุข แต่ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทางที่ภาครัฐกำหนด และหลังจากนี้ขอให้หน่วยงานรัฐงดจัดกิจกรรมรื่นเริง ส่วนภาคเอกชนที่เตรียมการจัดงานไว้แล้ว หากเป็นไปได้ก็ขอความร่วมมือให้งดกิจกรรมไว้ก่อน หรือหากจำเป็นต้องจัด ก็ต้องมีความเข้มงวดตามมาตรการด้านสาธารณสุข รวมทั้งขอให้ลดจำนวนคนที่ร่วมงาน จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปตรวจสอบและประเมินการจัดงานทุกระยะ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับสถานการณ์โรคระบาดในภายหลัง.