เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ในโรงงานผลิตรองเท้าย่านถนนกิ่งแก้วได้แล้ว เหลือเพียงกลุ่มควัน ขณะที่คาดว่า ความเสียหายน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม 2564 พ.ต.ท. ธนเดช ปัญญาลิขิตกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ภายในบริษัท วัฒนา ฟุตแวร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 54/8 ซอยกิ่งแก้ว 9/1 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิง อบต.ราชาเทวะ และเทศบาลใกล้เคียงกว่า 20 คันเดินทางเข้าตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นอาคาร 2 ชั้น ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรองเท้าขนาดใหญ่ พบเพลิงกำลังลุกไหม้ตัวอาคารของโรงงานดังกล่าวอย่างรุนแรง โดยเพลิงได้ลุกไหม้เต็มพื้นที่ เนื่องจากภายในโรงงานดังกล่าวมีถังสารเคมีและทินเนอร์ร่วมทั้งถังแก๊สเก็บไว้เป็นจำนวนมาก เพลิงจึงลุกโหมอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าเพลิงจะสงบ ทำได้เพียงฉีดน้ำล้อมเพลิงเอาไว้แต่เพลิงก็ยังลุกลามไปลุกไหม้บริษัท วอล์คเกอร์ อินเตอร์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำสกัดเพลิง

ขณะเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังช่วยกันระดมฉีดน้ำโครงสร้างตัวอาคารที่ถูกความร้อนเผาผลาญได้เกิดถล่มลงมา อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ ‘Fire Department’ ระบุว่า ตัวอาคารที่ทรุดตัวเป็นลักษณะการต่อเติม ไม่มีผลต่อตัวอาคารหลัก

เจ้าหน้าที่ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานร่วม 3 ชั่วโมงจนเวลาประมาณ 23.30 น. เปลวเพลิงจึงสงบแต่ยังมีกลุ่มควันจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายควันออกมาจากภายในอาคารที่เกิดเหตุและเข้าไประดมฉีดน้ำเพื่อดับถ่านที่อาจเกิดการประทุขึ้นมาอีกได้ เบื้องต้นพบว่าเพลิงได้เผาผลาญอาคารโรงงานและเครื่องจักรภายในได้รับความเสียหาย แต่ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบภายในโดยละเอียดได้ และไฟยังได้ลุกลามไปลุกไหม้โรงงานที่อยู่ติดกันได้รับความเสียหายด้วย แต่ไม่มากนัก ส่วนค่าเสียหายคาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 2 ราย

...

จากการสอบถามนายเคน ไทยรส อายุ 56 ปี รปภ.ของบริษัทดังกล่าว ได้ความว่า ขณะเกิดเหตุโรงงานได้หยุดทำงานไปแล้วตั้งแต่ช่วงเย็น ไม่มีใครอยู่ภายในโรงงานและปิดไฟทั้งหมดแล้วเหลือเพียงด้านหน้า ที่ตนกำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านหน้าโรงงานเท่านั้น ขณะที่ตนนั่งอยู่ในป้อมด้านหน้าได้กลิ่นเหม็นไหม้ของควันไฟ ตนจึงออกไปดูได้พบกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากในตัวโรงงาน ตนรีบวิ่งเข้าไปดูพบว่าเปลวไฟลุกจากตัวเครื่องจักร และมีกลุ่มควันจำนวนมาก ตนและเพื่อน รปภ.พยายามเข้าไปใช้ถังเคมีฉีดเพื่อสกัดเพลิง แต่เอาไม่อยู่ จึงรีบถอยออกมาเนื่องจากแสงเพลิงแดงฉานทั่วโรงงานแล้ว และรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ประสานดับเพลิงให้มาตรวจสอบ เนื่องจากภายในโรงงานมีเครื่องจักรและสารเคมีตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าที่เครื่องจักรเกิดการลัดวงจรจึงทำให้เกิดไฟลุกไหม้ก่อนลุกลามไปลุกไหม้กองวัสดุที่ส่วนใหญ่เป็นยางและเคมีรวมทั้งทินเนอร์ซึ่งเป็นสารไวไฟ แต่อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาสาเหตุโดยละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.