แม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี เริ่มวิกฤติอย่างหนัก ทะลักเข้าท่วมโบราณสถาน วัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ และทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมฝั่งตลอดแนว ส่วนตลาดริมน้ำไม่กระทบเพราะมีเขื่อนกั้นไว้แล้ว
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ต.ค. 64 สถานการณ์น้ำในแม่น้ำสะแกกรังเริ่มวิกฤติอย่างหนัก หลังมวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาวัดอัตราไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำที่สถานี C2 (เจ้าพระยา) จังหวัดนครสวรรค์ ยังเกินกว่า 2,600 ลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ปริมาณน้ำหนุนเข้าแม่น้ำสะแกกรัง รวมทั้งมีการระบายน้ำจากเขื่อนวังร่มเกล้าลงสู่ท้ายเขื่อนเข้ามาสมทบในแม่น้ำสะแกกรังอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้แม่น้ำสะแกกรังที่ไหลผ่านตัวเมืองอุทัยธานีสูงขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆ ทะลักเอ่อล้นตลิ่งมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดวันนี้สถานการณ์แม่น้ำสะแกกรังเริ่มวิกฤติอย่างหนักแล้ว โดยเฉพาะโบราณสถานของวัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ เช่น มณฑปแปดเหลี่ยม และท่าเทียบเรือโบราณ ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร รวมถึงภายในวัดทั่วบริเวณก็ถูกน้ำท่วมสูงเช่นกัน และระดับน้ำที่สูงขึ้นและมีลักษณะไหลเชี่ยวแรง ทางวัดต้องชักลากแพโบสถ์น้ำที่สร้างในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เข้าหาฝั่ง และผูกยึดให้แน่นป้องกันความเสียหาย รวมถึงเรือนแพอาศัยของชุมชนชาวแพก็ต้องชักลากเข้าฝั่งให้มากที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายเช่นกัน ส่วนบ้านเรือนของประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยติดริมตลิ่ง และใกล้กับริมตลิ่งจำนวนมาก ตลอดแนวของฝั่งวัดโบสถ์ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ต้องอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน ต้องอยู่อาศัยกันอย่างยากลำบาก
...
ส่วนฝั่งตลาดริมน้ำยังไม่ส่งผลกระทบ ยังสามารถรับมือได้ ปริมาณน้ำยังไม่เอ่อล้นเข้าท่วมตลาดแต่อย่างใด เนื่องจากมีเขื่อนคันกั้นน้ำที่สร้างป้องกันน้ำท่วมไว้อย่างถาวร ซึ่งเทศบาลเมืองได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไว้ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่คอยผลักดันกำจัดเศษสวะที่ลอยมากับน้ำ เพื่อเปิดทางให้น้ำไหลสะดวกและไม่ติดค้างเป็นขยะและมลภาวะอย่างต่อเนื่องอีกด้วย.