"ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" ประธานหอการค้าสมุทรปราการ ขออุปการะรับเลี้ยงสองพี่น้อง แม่ป่วยตายคาบ้าน สั่งเสียไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า และตรวจเบื้องต้นพบเด็กติดโควิดทั้งคู่ เผยชีวิตรันทดได้เรียนแค่ป.4 มีแม่เป็นครูคอยสอนทุกอย่าง ล่าสุดหลายหน่วยงานยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ส่งตัวไปรักษาที่รพ.

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ก.ค. มีเด็กหญิงวัย 11 ขวบและ 9 ขวบ นอนเฝ้าศพแม่ที่เสียชีวิตด้วยอาการป่วยติดเชื้อโควิด-19 ภายในห้องเช่าไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ภายในซอยไพรโอเนีย 2 เลขที่ 5/66 หมู่ 6 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยที่ผู้เป็นแม่ได้สั่งเสียลูกทั้งสองว่าหากตนเองเสียชีวิตให้ลูกทั้งสองไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า น้องทั้งสอง ติดเชื้อโควิดด้วย

ต่อมา เวลา 08.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม น.ส.อภิรดี แตงโสภา กำนันตำบลบางเสาธงและนายภาสกร อภิชาติโยธิน แพทย์ประจำตำบลบางโฉลง พร้อมด้วย น.ส.สุชา พรมสอน หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ สมาชิก อบจ.สมุทรปราการ ร่วมกันลงพื้นที่นำอาหารมื้อเช้ามาให้กับเด็กหญิงสองพี่น้องที่สูญเสียมารดา นางอาภาภรณ์ สุนทรารชุน วัย 44 ปี ที่จากไปในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งมีหลายหน่วยงานทั้งที่เกี่ยวข้องเร่งประสานความร่วมมือ เข้าให้ความช่วยเหลือสองพี่น้องรายนี้

...

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้ารับตัวเด็กหญิงทั้งสองส่งไปที่โรงพยาบาลบางพลี เพื่อตรวจหาเชื้อโควิดซ้ำอีกครั้ง พร้อมเพื่อนข้างห้องอีก 2 ราย ที่คอยช่วยเหลือครอบครัวของเด็กหญิง จึงเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

น้องออมสิน ผู้พี่ อายุ 11 ปี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้และยังคงคิดถึงแม่ที่จากไป เพราะที่ผ่านมาตนและน้องสาวไม่เคยห่างจากแม่เลย ตั้งแต่จำความได้มีแม่ดูแลเลี้ยงดูมาตลอดไม่เคยห่าง แม่จะคอยสอนทุกอย่างให้ตนและน้องไม่ว่าจะทำกับข้าว ทำงานบ้าน สอนให้เรียนรู้การเอาชีวิตรอดในสังคม สอนแม้แต่การเรียน ซึ่งตัวเองเกิดที่จังหวัดนครราชสีมาและไปโตที่อุดรธานี จึงมีโอกาสเรียนที่จังหวัดอุดรธานี จนถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นก็ไม่ได้เรียนอีกเลย แม่ไปทำงานที่ไหนก็จะพาตนและน้องสาวไปด้วย ที่ผ่านมาแม่จะคอยสอนให้เขียนหนังสือและอ่านหนังสือ บางครั้งก็อาศัยเปิดทีวีเรียนออนไลน์จากทีวี จึงพอจะอ่านออกเขียนได้บ้าง

"ส่วนคำพูดครั้งสุดท้ายที่แม่บอกคือให้ดูแลน้องและตัวเองให้ดี แม่ไม่ไหวแล้ว หากแม่รับรู้ในตอนนี้ หนูขอสัญญากับแม่ว่าจะดูแลน้องและตัวเองให้ดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้แม่หลับให้สบาย”

เมื่อถามว่าหลังจากนี้หนูจะใช้ชีวิตอย่างไร น้องออมสินตอบทั้งน้ำตาว่า ยังไม่รู้ชะตากรรมของตนเอง แต่ถ้าผู้ใหญ่ให้ไปอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะบ้านพักเด็กหรือถ้ามีผู้ใหญ่ให้ไปอยู่ด้วยก็จะไป เพราะไม่มีญาติพี่น้องหรือใครเหลือเพียงสองคนพี่น้องเท่านั้น ตนและน้องอยากเรียนหนังสือให้สูงที่สุดเท่าที่จะเรียนไหว

ด้านนางสาวสุภชา พหรมศร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวสมุทรปราการ กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือน้องทั้งสองแล้ว เบื้องต้นทาง พม.จังหวัดสมุทรปราการ จะเข้ามาดูแลน้องทั้งสองก่อนโดยจะต้องส่งตัวไปตรวจหาเชื้อโควิดและเข้าสู่กระบวนการรักษาหรือกักตัวของรัฐตามพ.ร.บ.ควบคุมโรคระบาด หลังจากนั้นจะเข้าไปรับตัวน้องทั้งสองเข้าสู่กระบวนการของ พม. ซึ่งจะต้องตามหาญาติที่แท้จริงของน้อง หาเจอญาติก็จะต้องไปดูต่อว่าเด็กจะอยู่กับญาติหรือไม่ และสามารถเลี้ยงดูเด็กทั้งสองได้หรือไม่ แต่หากไม่มีญาติทาง พม.ก็มีความพร้อมที่จะดูแล แต่ในเบื้องต้นเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าสมุทรปราการ ได้แจ้งความประสงค์ผ่านตัวแทนมีความประสงค์ที่จะรับน้องทั้งสองไปอุปการะดูแล ซึ่งในส่วนของหลักเกณฑ์สามารถทำได้ แต่ต้องไปสำรวจที่รับเลี้ยงซึ่งมีหลักเกณฑ์ข้อตกลงและข้อกำหนดไว้ชัดเจน สภาพจิตใจของเด็กตอนนี้มีจิตใจเข้มแข็งมากขึ้น มีกำลังใจมากขึ้น ส่วนประเด็นที่จะมีหลายฝ่ายช่วยเหลือด้วยการโอนเงินเข้ามาให้น้องนั้น ขณะนี้ยังไม่มีบัญชีใดๆ ของน้อง แต่หลังจากที่น้องรักษาตัวเสร็จแล้ว พม.จะพาน้องไปเปิดบัญชีเป็นชื่อน้องทั้งสองเพื่อให้โอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีของน้องโดยตรง ในส่วนของ พม.ยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งน้องทั้งสอง ถึงแม้จะไม่มีญาติหรือใครรับอุปการะก็ตาม