วิศวกรรมสถานฯ สำรวจบ้านที่อยู่ใกล้โรงงานและเสียหายจากแรงระเบิด ขณะที่ รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต ย้ายคนไข้กลับเข้า รพ.แล้ว ส่วน จนท.นำสารเคมี DEHA ใส่ถังสารเคมีโรงงานหมิงตี้แปรสภาพไม่ให้ไวไฟ
วันที่ 8 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดเข้าตรวจสอบและเก็บกู้สารเคมีไวไฟภายในโรงงานหมิงตี้เคมีคอล จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว 21 ได้รับสัญญาณที่ดี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมกำลังกันทำงานเต็มที่ ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 7 ก.ค. และหยุดภารกิจเมื่อประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ด้วยการลำเลียงสารเคมี DEHA เข้าไปในถังบรรจุสารเคมีไวไฟที่อยู่ในถังเก็บขนาดใหญ่ เพื่อให้สารเคมีไวไฟนั้นจะได้ขนย้ายออกไปกำจัดต่อไป
...
เจ้าหน้าที่ผู้คุมการปฏิบัติงานเปิดเผยว่า เป็นสัญญาณที่ดีเมื่อทางเจ้าหน้าที่พบว่าอุณหภูมิของสารเคมีภายในถังที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องคอยเฝ้าระวังอยู่นั้น มีอุณหภูมิต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งสัญญาณแบบนี้ทางเจ้าหน้าที่น่าจะเคลียร์พื้นที่ได้ตามแผนการที่วางไว้ แต่จะมีอุปสรรคเล็กน้อยคือการลำเลียงสาร DEHA ด้วยเจ้าหน้าที่นั้นลำบาก เพราะทางเดินมีแต่เศษซากปรักหักพังกีดขวางอยู่ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ขณะปฏิบัติภารกิจเมื่อวานที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ลำเลียงสาร DEHA เข้าไปนั้นได้รับผลกระทบในระบบทางเดินหายใจ 2 นาย ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่เฝ้าระวังอยู่ได้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที และอาการปลอดภัยแล้ว
จากนั้นในช่วงเช้าวันเดียวกัน ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยวิศวกรอาสาจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 25 คน ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านภายในหมู่บ้านภัสสร เพรสทีจ บางนา วงแหวน หมู่ 11 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่อยู่ในรัศมี 2 กิโลเมตร ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ฯ ทำให้บ้านหลายหลังคาเรือนได้รับความเสียหาย โดยจะตรวจสอบทั้งในด้านโครงสร้างและความแข็งแรง ก่อนจะให้คำแนะนำแก่เจ้าของบ้านเรื่องการซ่อมแซมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า เบื้องต้นวิศวกรจะแบ่งออกเป็นทีม ทีมละ 2 คน กระจายสำรวจตามบ้านเรือนประชาชน หากพบว่าอาคารใดน่าเป็นกังวลก็จะเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด ขณะที่ประชาชนก็สามารถประเมินเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองจาก 4 ข้อสังเกต คือ 1.ดูลักษณะทางกายภาพว่าบ้านตั้งตรง หรือมีลักษณะเอียงหรือไม่ 2.ดูตำแหน่งรอยร้าวที่เกิดขึ้น หากเกิดที่ผนังหรือกระจกแสดงว่าปลอดภัย เพราะไม่ได้เกิดกับโครงสร้าง 3.ดูรอยร้าวช่วงต่อระหว่างคานกับเสา หากเกิดรอยร้าวบริเวณนี้ให้แจ้งวิศวกรเข้าไปประเมินทันที และ 4.หากเข้าไปในบ้านสักพักแล้วเกิดเสียงลั่นและมีคอนกรีตร่วงลงมา ให้รีบอพยพออกจากบ้าน และแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
...
ดร.ธเนศ กล่าวอีกว่า สำหรับหมู่บ้านแห่งนี้มีบ้านอยู่กว่า 388 หลังคาเรือน โดยอยู่ในรัศมี 2 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะได้รับผลกระทบหนักไปถึงโครงสร้าง เนื่องจากแรงระเบิดเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่ก็ต้องไม่ประมาท ขณะเดียวกัน ล่าสุดก็ได้รับการติดต่อจากชาวบ้านในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งร้องขอมาว่าบางพื้นที่สามารถเข้าไปได้แล้ว ก็จะเข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติมในวันนี้
...
จากนั้นในช่วงสายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต นำรถพยาบาลดำเนินการนำผู้ป่วยในทั้งหมด เป็นผู้ป่วยไอซียู 16 คน และผู้ป่วยใน 80 คน รวมทั้งผู้ป่วยไอซียูที่เราย้ายออกไปพักดูแลตามโรงพยาบาลต่างๆ ในเครือ รพ.จุฬารัตน์ กลับมารักษาที่เดิม
นพ.กิตติไกร ไกรแก้ว นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต เปิดเผยว่า โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต เริ่มทำงานปกติแล้ว แต่ยังไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ในวันนี้ภารกิจแรกจะเป็นส่วนห้องฉุกเฉิน จะรับเฉพาะเคสฉุกเฉินเท่านั้น ศูนย์ไตเทียมสามารถเปิด บริการได้ตามปกติ opd ผู้ป่วยในจะเปิดให้บริการวันพรุ่งนี้ รวมถึงการตรวจคัดกรองโควิด จะต้องรีบเคลียร์คนที่ตกค้างอยู่ พรุ่งนี้จะเปิด เต็มรูปแบบ เมื่อสถานการณ์ไฟไหม้คลี่คลายก็สบายใจมากขึ้น เพราะเหตุเกิดใกล้กับโรงพยาบาลมาก เพียง 1 กิโลเศษๆ ตอนที่ย้ายผู้ป่วยไปโดยมีแพทย์เจ้าของไข้ก็ได้ตามไปดูแลผู้ป่วยของตนเองตามโรงพยาบาลนั้นด้วย และแพทย์จะทำการประเมินผู้ป่วยที่มีอาการหนักกลับมาก่อน.