เกษตรกรบางคล้า รวมกลุ่มปลูกสุดยอดมะม่วงพันธุ์ดี ขายตึก-น้ำดอกไม้สีทอง ด้วยเอกลักษณ์เมือง 3 น้ำ การันตีด้วยมาตรฐาน GAP ตีตลาดโมเดิร์นเทรด ออนไลน์
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.64 นายสมศักดิ์ วัลลานนท์ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วง อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สภาพพื้นที่ อ.บางคล้า ซึ่งมีแม่น้ำบางปะกงไหลผ่าน ในแต่ละปีจะมีน้ำทะเลหนุนเข้ามาในลุ่มน้ำ ทำให้พื้นที่มีสภาพเป็นพื้นที่น้ำกร่อย ผลผลิตมะม่วงที่ปลูกนั้นจึงมีรสชาติดี หวาน หอม อร่อย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเกษตรกรที่นี่ปลูกมะม่วงหลากหลายพันธุ์ ได้แก่ น้ำดอกไม้สีทอง โชคอนันต์ เขียวเสวย แรด ฟ้าลั่น มันเดือนเก้า และขายตึก ซึ่งเป็นมะม่วงพื้นถิ่นของ อ.บางคล้า ที่ปลูกกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ปัจจุบันตลาดมีความต้องการมะม่วงพันธุ์ขายตึกและพันธุ์น้ำดอกไม้สีทองมากกว่าพันธุ์อื่น ดังนั้นกลุ่มฯจึงได้ใช้หลักตลาดนำการผลิต วางแผนปรับเปลี่ยนพื้นที่ของสมาชิกมาปลูกมะม่วง 2 พันธุ์นี้แทน โดยอาศัยความได้เปรียบที่มะม่วงบางคล้าเป็นมะม่วง 3 น้ำ (น้ำจืด น้ำเค็ม น้ำกร่อย) ที่มีรสชาติอร่อยไม่เหมือนใครเป็นจุดขาย ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพการผลิตของสมาชิก เน้นการผลิตสินค้าปลอดภัยได้มาตรฐาน มีการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ทำน้ำหมักชีวภาพจากปลาใช้เอง เพิ่มคุณภาพผลผลิตโดยใช้ถุงห่อมะม่วง ฯลฯ ถึงตอนนี้มีสมาชิก 30 คนที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP แล้ว สามารถลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพผลผลิตได้ดีขึ้น ส่วนสมาชิกที่เหลือกำลังเร่งปรับเปลี่ยนเพื่อเข้าสู่การผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัยต่อไป

...
ที่ผ่านมาเกษตรกรจะต่างคนต่างปลูกและหาตลาดกันเอง แต่เมื่อสำนักงานเกษตรอำเภอบางคล้าเข้ามาส่งเสริมให้รวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่มะม่วง อ.บางคล้า ตั้งแต่ปี 2559 ก็ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ มีคณะกรรมการบริหารและสมาชิกวางแผนการผลิตและการตลาดร่วมกัน ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 50 คน พื้นที่ปลูกมะม่วง 1,200 ไร่ โดยจะมีการระดมหุ้นจากสมาชิกหุ้นละ 10 บาท เพื่อใช้เป็นทุนดำเนินการของกลุ่ม ผนวกกับได้รับเงินสนับสนุนจากโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ จึงได้นำมาจัดตั้งกองทุนสำหรับจัดซื้อปุ๋ยและสารกำจัดศัตรูพืชมาจำหน่ายให้กับสมาชิกในราคาถูก และสามารถนำไปใช้ก่อนจ่ายเงินทีหลัง ส่วนผลกำไรจากการขายมะม่วงและปัจจัยการผลิตจะนำมาปันผลให้กับสมาชิกทุกปี

ด้านนางเทวารักษ์ ฉิมไทย Young Smart Farmer และกรรมการฝ่ายการตลาดของกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงบางคล้า กล่าวว่า เดิมทีการตลาดของกลุ่มแปลงใหญ่ที่นี่ก็ยังเป็นการขายกันเอง มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงสวน ได้ราคาดีบ้างไม่ดีบ้าง พอตนเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่มเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ก็เริ่มขยายช่องทางตลาดออนไลน์ โดยรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกที่ประสบปัญหาขายผลผลิตไม่ได้ หรือมีผลผลิตมากเกินไป ในราคาประกันสูงกว่าตลาด ก.ก.ละ 5 บาท เพื่อขายผ่านเพจ Facebook "กลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงอำเภอบางคล้า" และเพจ "บ้านนี้มีรักฟาร์มสุขสำราญ" โดยผลกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายจะส่งคืนเข้ากองทุนของกลุ่ม เช่น ปีที่แล้วขายได้ 3 ตัน จะหักกำไรคืนกลุ่มก.ก.ละ 5 บาท เป็นต้น และยังได้ช่วยติดต่อประสานนำสินค้าเกรดพรีเมียมมาตรฐาน GAP ไปวางจำหน่ายในท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งสินค้าของกลุ่มฯจะติดสัญลักษณ์คิวอาร์โค้ด (QR Code) สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงที่มาแหล่งผลิตได้ สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคอีกขั้นหนึ่ง

"สมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่มีอายุเฉลี่ย 60 ปีขึ้นไป เขามีประสบการณ์การปลูก แต่ด้านการตลาดแล้วบางคนยังยึดติดกับการขายผลผลิตยกเข่งคละเกรด ได้ราคาไม่ดี เราในฐานะยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์จึงอยากเข้ามาช่วยคนที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงตลาดออนไลน์ให้เขามีทางเลือกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงวิกฤติโควิด 2 รอบที่ผ่านมา สมาชิกสามารถขายผลผลิตผ่านตลาดออนไลน์ได้ จึงเริ่มหันมาให้ความสำคัญตลาดออนไลน์ และมีการคัดเกรดสินค้าควบคุมคุณภาพมากขึ้น เพื่อขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้นตามคุณภาพนั่นเอง" นางเทวารักษ์ กล่าว.