ผัวเมียลูกแฝดยอมรับแล้วกุเรื่อง “ท้องทิพย์” หลังถูกนายจ้างเกลี้ยกล่อมให้พูดความจริง ทั้งคู่ร้องไห้โฮ ยกมือไหว้ขอโทษสังคมที่สร้างเรื่องป่วนทำให้ 2 โรงพยาบาลเสียชื่อเสียง เหตุเพราะเมียท้องแล้วแท้งกลัวผัวไม่รัก กุเรื่องราวใหญ่โต เตรียมแถลงข่าวขอโทษในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ขณะที่แพทย์และตำรวจตกเป็นผู้เสียหายเตรียมดำเนินคดีแจ้งความเท็จ
จากเรื่องวุ่นวายที่ น.ส.กรกนก เพิ่มหิรัญ อายุ 21 ปี และนายเกรียงไกร สุภีทรัพย์ อายุ 30 ปี สองผัวเมียออกมาโวยวายอ้างว่า คลอดลูกแฝดชายหญิงแล้วลูกชายตายที่โรงพยาบาล เมื่อไปรับศพมีผ้าห่อมิดชิดเปิดดูพบเพียงผ้า 4 ผืน ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ต่อมาแพทย์โรงพยาบาลบางปลาม้า และโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช เป็นคู่กรณีที่ น.ส.กรกนกเข้าไปรักษาตัวออกมาชี้แจงว่า น.ส.กรกนกเข้ามารักษาตัวด้วยอาการปวดท้อง ตกขาว และกระดูกอุ้งเชิงกรานอักเสบ แต่ไม่มีประวัติการฝากท้องและมาคลอดบุตรแฝด ขณะที่หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง พา น.ส.กรกนกไปตรวจร่างกายที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ กรุงเทพฯ แพทย์ระบุไม่ผ่านการคลอดบุตรและตั้งครรภ์ แต่ต้องประเมินสภาพทางจิตใจ ทำให้เกิดกระแสในกลุ่มโซเชียลมีเดียว่า น.ส.กรกนก “ท้องทิพย์” คิดไปเองว่าตัวเองท้อง
...
ความคืบหน้าเช้าวันที่ 22 พ.ค. พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า สั่งการให้ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงพบข้อมูลว่า น.ส.กรกนกเข้าแจ้งความ แต่เรื่องราวไม่เป็นความจริง และตรวจสอบประวัติการรักษาแล้ว น.ส.กรกนกไม่ได้ฝากท้องและมาคลอดบุตรที่ รพ.บางปลาม้า และไม่มีเอกสารการส่งตัวลูกฝาแฝดมารักษาต่อที่ รพ.เจ้าพระยายมราช ทำให้โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งเสียหาย เตรียมดำเนินคดีแจ้งความเท็จ คดีนี้ตำรวจเป็นผู้เสียหายด้วย อยู่ในระหว่างสอบพยานและหาหลักฐานเพิ่มเติม จากนั้นจะเรียก น.ส.กรกนกมารับทราบข้อกล่าวหา
ด้าน นพ.พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์ ผอ.รพ.เจ้าพระยายมราช เปิดเผยว่า เตรียมนัดประชุมกับตำรวจ นิติกรของโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือกำหนดทิศทางที่ น.ส.กรกนกและสามีสร้างเรื่องมาเพื่ออะไรเพราะทำให้องค์กรเสียหายและเสียเวลา ยิ่งช่วงนี้เชื้อโควิด-19 ระบาด เจ้าหน้าที่ทุกคนมีภาระหนักที่ต้องช่วยเหลือประชาชน แต่ต้องมาเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ในส่วนเรื่องคดีจะแจ้งความแน่นอน และจะดำเนินคดีกับทุกคนที่เข้าคอมเมนต์ทำให้โรงพยาบาลเกิดความเสียหาย เพราะถือว่าเป็นการส่งเสริมข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ส่วนพระไสว พระลูกวัดวัดสวนแตง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระที่รับนิมนต์เพื่อนำศพเด็กกลับมาทำพิธี เปิดเผยว่า แปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะตั้งแต่เป็นพระทำพิธีฌาปนกิจศพเด็ก ไม่เคยพบเคยเจอเรื่องราวแบบนี้มาก่อน ปกติญาติจะนิมนต์พระไปนำศพพร้อมเชิญวิญญาณเด็กมาที่วัด แต่อาตมายังเอะใจว่าแม่อุ้มศพเด็กมาเอง หากไม่บอกให้สัปเหร่อเอาสายสิญจน์มัดตราสังที่ข้อมือเด็กญาติจะไม่รู้เลยว่าไม่มีศพ ส่วนนายสุวรรณ สะประทุมมาศ อายุ49ปี สัปเหร่อวัดสวนแตง เปิดเผยว่า ทันทีที่แม่อุ้มลูกเดินตรงมาที่โลงศพตั้งไว้อยู่ที่วัดอยู่แล้ว ตนจะเปิดผ้าเพื่อมัดตราสัง แต่แม่เด็กบอกว่าไม่ให้เปิดผ้า โดยไม่ได้บอกเหตุผลว่าเพราะอะไร ตนมัดตราสังไว้กับผ้าขนหนู เมื่อพระไสวมาดูบอกว่า ผูกแบบนี้ไม่ได้ ให้แกะผ้าเพราะต้องมัดตราสังที่ข้อมือเด็ก ตนจึงแกะผ้าออกแต่ไม่พบศพเด็ก และเห็นแม่เด็กร้องไห้โฮ
ต่อมาเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปหา น.ส.กรกนก เพิ่มหิรัญ และนายเกรียงไกร สุภีทรัพย์ ที่บ้านของนายจ้างใน ต. สวนแตง อ.เมืองสุพรรณบุรี เมื่อไปถึงพบสองผัวเมียมีสีหน้าเคร่งเครียด นายจ้างพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้ทั้งคู่พูดความจริง กระทั่งทั้งคู่ยกมือไหว้ขอโทษต่อสังคม นายเกรียงไกรยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง ก่อนหน้านี้เมียตั้งท้องแล้วเกิดแท้ง แต่ปกปิดไม่ให้ตนรู้ความจริงเพราะกลัวผัวไม่รัก ทำให้ตนหลงเชื่อว่าเมียยังท้องอยู่จนคลอดลูก ขอโทษทุกคนที่ทำอะไรลงไปโดยไม่ทันคิด เพราะเรื่องนี้มีอะไรที่ลึกซึ้ง ตนไม่เคยรู้มาก่อนทำให้เกิดความผิดพลาดไป ที่ต้องออกมาพูดในวันนี้เพราะนั่งคุยกับเมีย บอกเมียให้นำเรื่องจริงมาพูดกันตนถึงได้รู้ความจริง ส่วนรายละเอียดขอไปแถลงข่าวในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ด้าน น.ส.กรกนกนั่งร้องไห้โฮแต่ยังไม่ขอพูดอะไร